5 โปรโมชั่น ช่วยเพิ่มยอดขายแบบพุ่งกระฉูด

หน้าที่ของโปรโมชั่น

• ทำให้ลูกค้าเกิดการคิดทบทวนใหม่

เช่น ผู้บริโภคเคยคิดว่าสินค้าตัวนี้ราคาอยู่ที่ 500 บาท แต่ตอนนี้ราคาอยู่ที่ 300 บาท

• เป็นการบังคับลูกค้าทางอ้อม

การทำโปรโมชั่นจะช่วยให้ลูกค้าซื้อสินค้าในเวลาที่เราต้องการ เช่น การกำหนดระยะเวลาโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าร้านเราในทันที ก่อนที่จะไปเลือกซื้อสินค้าร้านคู่แข่งหรือร้านอื่นๆ

โดยเราสามารถแบ่งการทำโปรโมชั่นออกเป็น 5 รูปแบบ ดังนี้

1. โปรโมชั่นสำหรับเปิดตัว

การทำโปรโมชั่นสำหรับการเปิดตัวสินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการไม่ควรหลงลืม เพราะลูกค้าทุกคนนอกจากตั้งหน้าตั้งตารอการเปิดตัวของสินค้าแล้ว พวกเขายังหวังให้สินค้าเหล่านั้นมีโปรโมชั่นลดราคาในวันเปิดตัว ซึ่งการทำโปรโมชั่นในรูปแบบนี้นอกจากจะสามารถกระตุ้นยอดขายได้แล้ว ยังทำให้สินค้าเราเป็นที่รู้จักมากขึ้นอีกด้วย

2. โปรโมชั่นสำหรับดึงลูกค้า 

การทำโปรโมชั่นสำหรับดึงลูกค้าเหมาะสำหรับร้านที่เปิดมาได้สักระยะนึง มองเห็นแล้วว่าคู่แข่งของเรามีใครบ้าง และเราจะทำโปรโมชั่นอย่างไรเพื่อดึงลูกค้าให้มาซื้อสินค้าของเราแทนที่จะไปซื้อของคู่แข่ง วิธีนี้เรียกว่าวิธีการดึงลูกค้าซึ่งจะแตกต่างจากคิดโปรโมชั่นเปิดตัวสินค้า

3. โปรโมชั่นแบบ Upsell

คือ การเสนอขายสินค้าในราคาที่ผู้บริโภครู้สึกถึงความคุ้มค่า อาทิเช่น ลูกค้าต้องการซื้อครีมบำรุงผิวราคา 500 บาท แต่หากเพิ่มอีก 100 ลูกค้าจะได้ครีมบำรุงผิวพรีเมียมที่ช่วยปรับสภาพผิวให้ดีขึ้นในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายและรวดเร็วหากพวกเขาได้รับสินค้าที่คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

4. โปรโมชั่นแบบล็อกคอ

ยกตัวอย่าง การสะสมแสตมป์  วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่าย แต่ได้ผลดี ผู้บริโภคหลายๆคนมักตกเป็นเหยื่อการตลาดนี้ บางคนถึงขั้นยอมเสียเงินซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นเพื่อที่จะได้รับแสตมป์ในจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการทำโปรโมชั่นในรูปแบบนี้สามารถเพิ่มรายได้กระตุ้นยอดขายได้ดีเลยทีเดียว

5. โปรโมชั่นแบบเทกระจาด 

การเทกระจาดสำหรับการทำโปรโมชั่น คือ การเคลียร์สินค้าในสต็อกออกให้หมด โดยที่ไม่คาดหวังกับผลกำไร ขอเพียงแค่สินค้านั้นขายออกหมด วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่ใช้กันบ่อย แต่ถ้าเป็นไปได้ขอให้เลือกวิธีนี้เป็นวิธีสุดท้ายนะคะ

https://youtu.be/E3Wk3s2vx2U