รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
อันดับ 1 ทันตแพทย์ อาชีพหมอฟันที่มีโอกาสก้าวหน้าในชีวิตรวมถึงรายได้ที่สูงถึง 7 หลักต่อเดือน แต่รู้ไหมว่า อาชีพหมอฟันเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพสูงที่สุดเป็นอันดับที่ 1 โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 65.4 % ซึ่งหน้าที่หลักของหมอฟันคือ การวินิจฉัยตวรจสอบโรค รักษาโรค ทำศัลยกรรม ให้ยารักษา กับสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่องปากของผู้ป่วย ไม่ว่าจะเป็น 1. การสัมผัสสารปนเปื้อนต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูงถึง 84 % 2. การสัมผัสเชื้อโรคภายในช่องปากของคนไข้ 3. ใช้ระยะเวลานั่งในการทำงานตลอดทั้งวัน
อันดับ 2 พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน แอร์โฮสเตสและสจ๊วด อาชีพในฝันชองใครหลายๆคน อาชีพนี้เป็นอาชีพที่รายได้ค่อนข้างสูง แต่เมื่อพิจารณาจากการปฏิบัติงานจริงแล้วจะพบว่า อาชีพแอร์โฮสเตสและสจ๊วดมีความเสี่ยงด้านสุขภาพค่อนข้างสูงเป็นอันดับ 2 รองจากทันตแพทย์ถึงร้อยละ 62.3 % ซึ่งได้แก่ 1. การติดเชื้อเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจที่มาจากผู้โดยสาร 2. ร่ายกายต้องคอยปรับสภาพตามอากาศและเวลาของแต่ละประเทศที่บินไป 3. มีความเสี่ยงที่เป็นโรคกระดูกสันหลังคดจากการยกของหรือยกกระเป๋าที่หนักๆเป็นประจำ 4. มีความเสี่ยงที่เป็น โรคมะเร็งผิวหนัง สูงถึง 2 เท่าสาเหตุจากการรับรังสีอัลตราไวโอเลตที่แทรกซึมอยู่ภายในเครื่องบิน
อันดับ 3 วิสัญญีแพทย์ อาชีพ ‘แพทย์ผู้ชำนาญการวางยาสลบหรือยาชา’ ซึ่งหมอดมยามักทำงานร่วมกับแพทย์ผ่าตัดเสมอ เพื่อระงับความรู้สึกเจ็บปวดของคนไข้ก่อนทำการผ่าตัดเพียงชั่วคราว สำหรับอาชีพแพทย์ผู้ชำนาญการวางยาสลบหรือยาชานั้นก็มีความเสี่ยงทางด้านสุขภาพอยู่เหมือนกันอยู่ที่ร้อยละ 62.3 % เท่ากับพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ซึ่งการทำอาชีพหมอดมยานี้จะมีความเสี่ยงต่อโรคได้แก่ 1. เสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคต่างๆ ถึงร้อยละ 94 % 2. การสัมผัสสารปนเปื้อนโดยตรงเสี่ยงต่อโรคต่างๆ ถึงร้อยละ 80 % 3. การสัมผัสกับรังสีในห้องผ่าตัดโดยตรง ถึงร้อยละ 74 %
อันดับ 4 สัตวแพทย์ ,ผู้ช่วยสัตวแพทย์ และ นักเทคนิคการสัตวแพทย์ อาชีพเหล่านี้มีค่าเฉลี่ยโดยรวมความเสี่ยงด้านสุขภาพร้อยละ 60.3 % สาเหตุมาจาก 1. เสี่ยงต่อการติดโรคและติดเชื้อร้อยละ 81 % จากการบาดเจ็บที่เกิดจากเครื่องมือทางการแพทย์ 2. การสัมผัสกับสารปนเปื้อนร้อยละ 74 % จาก น้ำยาฆ่าเชื้อ แก๊สนำสลบ ยาสลบแบบฉีด ยาฆ่าแมลง ยาแก้ปวด ฮอร์โมน สารทำละลาย เป็นประจำ 3. อาการบาดเจ็บที่เกิดจากการถูกกัด ต่อย ข่วน กระแทกและอื่นๆ ร้อยละ 75 % และเสี่ยงต่อการได้รับสารก่อภูมิแพ้ จากการสัมผัส ขนของสัตว์ สะเก็ดผิวหนังสัตว์ ปัสสาวะสัตว์ หรือสารคัดหลั่งอื่นๆ และโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน อีกด้วย
อันดับ 5 วิศวกรควบคุมและอำนวยการใช้หม้อไอน้ำ อาชีพวิศวกรนี้เป็นวิศวกรคอยที่เป็นผู้ควบคุม ประจำหม้อไอน้ำ หรือหม้อต้มที่ใช้ของเหลวหรือก๊าซเป็นสื่อนำความร้อน ด้วยความที่ทำงานแวดล้อมไปด้วยเครื่องจักร ซึ่งการทำงานในสภาพแวดล้อมที่เต็มเป็นด้วยเครื่องจักรนั้น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้อาชีพนี้มีความเสื่ยงด้านสุขภาพที่ร้อยละ 57.7 % ด้วยเหตุจากการสัมผัสและเผชิญกับสารปนเปื้อนหลายๆชนิดถึง 99 %
ทั้งหมด 5 อาชีพที่เราได้กล่าวมานั้นเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพซึ่งล้วนมาจากสภาพแวดล้อม พฤติกรรมการทำงาน ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่ประกอบอาชีพนี้ควรจะดูแลสุขภาพตัวเองเป็นอย่างดี มิเช่นนั้นอาจทำให้อายุของคุณสั้่นลงได้ง่ายเลยทีเดียว