เอสเอ็มอีเตรียมพร้อมก่อน การขอสินเชื่อ แบบนี้สิ ผ่านฉลุย!!


การทำธุรกิจผู้ประกอบการหลายคนอาจจะจำเป็นที่ต้องใช้เงินทุนจำนวนมากและต้อง ขอสินเชื่อ ซึ่งอาจจะมองว่าเป็นเรื่องยาก หรือบางคนไม่เคยคิดว่า วันนึงธุรกิจของเราจะต้องขอสินเชื่อ จึงไม่ได้มีการเตรียมพร้อมล่วงหน้า เมื่อจำเป็นต้องยื่นขอสินเชื่อจริงๆจึงไม่ผ่านการอนุมัติ สมาร์ทเอสเอ็มอี มีเทคนิคการเตรียมตัวล่วงหน้าใน การขอสินเชื่อ มาฝากกันค่ะ

เทคนิคการเตรียมตัวล่วงหน้าใน การขอสินเชื่อ

1.เดินบัญชีธนาคาร

การที่ผู้ประกอบการมีเงินหมุนเวียนทางการค้าผ่านระบบบัญชีธนาคาร ทำให้ธนาคารเห็นปริมาณกระแสเงินสดที่หมุนเวียนเข้าออกจริงๆ ในธุรกิจ  ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขา แต่สามารถทำได้ง่ายๆ ผ่านทางออนไลน์บนมือถือได้แล้ว และหากคุณซื้อของเงินสด เมื่อได้รับเงินมาก็ควรรีบเอาไปเข้าบัญชีธนาคารอย่าเอาเก็บไว้ในลิ้นชัก เพราะนอกจากคุณจะได้เดินบัญชีแล้ว ยังป้องกันเงินหายได้อีกด้วย

2.ข้อมูลต้องเป๊ะ

การไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลที่ครบถ้วนให้แก่ธนาคาร เช่น แหล่งที่มาของรายได้ไม่ชัดเจน ไม่มีเอกสารการค้าขายอ้างอิง ไม่ว่าจะเป็น บัญชีซื้อ บัญชีขาย สำเนาใบกำกับภาษี ใบสั่งซื้อ ใบเสร็จรับเงิน ซึ่งการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนชัดเจนนั้นทำให้ธนาคารมีข้อมูลไม่เพียงพอในการพิจารณาสินเชื่อ เพราะเอกสารเหล่านี้สนับสนุนที่มาของรายได้ธุรกิจ ว่าคุณค้าขายกับใคร ต้องรับและจ่ายเงินเมื่อไหร่ ซึ่งส่งผลกับความต้องการเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจทั้งสิ้น ดังนั้นหากคุณมีแผนจะขยับขยายธุรกิจด้วยการขอสินเชื่อ ก็ต้องเก็บเอกสารทุกอย่างเอาไว้ให้ครบถ้วน ถือซะว่าเผื่อเหลือดีกว่าเผื่อขาด

3.ลงบัญชีตัวเลขตามความจริง

ผู้ประกอบการบางคนทำเพื่อประโยชน์ทางภาษี คือลงบัญชีขายน้อยกว่าที่ขายได้จริงๆ แล้วลงบัญชีซื้อตามจริงหรือสูงกว่าความเป็นจริง เพื่อให้รายรับน้อยกว่ารายจ่าย จะได้เสียภาษีน้อยกว่าความเป็นจริง แต่คุณรู้หรือไม่ว่า นั่นก็ทำให้ธนาคารเห็นผลประกอบการที่ไม่ใช่ของจริง ทำให้เป็นอุปสรรคในการขอสินเชื่อกับธนาคาร

4.อย่านำเงินหมุนเวียนไปใช้ผิดวัตถุประสงค์

ผู้ประกอบการจึงควรแยกเงินบริษัทออกจากเงินส่วนตัวให้ชัดเจน เพราะการใช้เงินปนกันเช่นนี้อาจทำให้ธุรกิจประสบปัญหาขาดสภาพคล่องได้ในที่สุด นอกจากนี้ยังทำให้ธุรกิจต้องขอสินเชื่อเกินความจำเป็นที่แท้จริง ซึ่งผู้ประกอบการอาจจะไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อตามที่ขอ เพราะธนาคารมองว่าผู้ประกอบการมีสภาพคล่องเพียงพออยู่แล้ว

ที่มา : kasikornbank

เรื่องการเงินอื่นๆ >>> [คลิก]