“ทุกครั้งที่ล้ม ไม่ได้หมายความว่า เราจะทำมันไม่ได้ ขอแค่เราพยายามอย่างเต็มที่ รอจังหวะและโอกาสเพื่อจะเริ่มต้นใหม่ให้ดีกว่าเดิม”
นี่เป็นประโยคแนวคิดของ คุณมนัสวี ภาคแก้ว หรือคุณก้อย อายุ 38 ปี เจ้าของ ธุรกิจ กองจูปิ้งย่าง เกาหลี ที่เคยล้มเหลวในธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร ร้านปิ้งย่าง ที่สูญเงินมาแล้วมากกว่าหนึ่งล้านบาท
การทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จและมีรายได้ที่เยอะๆ คือความหวังของทุกคนที่ยอมเสี่ยงลงทุนทั้งลงเงิน ลงแรง และลงเวลา แต่ใช่ว่า ทุกคนที่กล้าเสี่ยงจะได้รับผลตอบแทนเป็นความสำเร็จเสมอไป
คุณก้อยเล่ากับ SmartSME ถึงบันไดขันแรกที่เริ่มทำธุรกิจ ว่า หลังจากเรียนจบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจสาขาการจัดการ จากมหาวิทยาลัยราชภัฎวลัยลงกรณ์ ก็เดินสายทำอาชีพรับเหมาก่อสร้างนาน 10 กว่าปี
เหมือนว่าการรับเหงาก่อสร้างจะเป็นสิ่งที่ถนัดและป็นสิ่งสุกท้ายที่จะทำตลอดชีวิต แต่เมื่อถึงจุดอิ่มตัวก็ทำให้คุณก้อยอยากลองทำธุรกิจส่วนตัว เพราะได้ถือเงินสดทุกวัน
จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้คุณก้อยตัดสินใจ เปิดร้านทะเลเผาบุพเฟ่ต์เมื่อหลายปีก่อน ทำได้แค่ 7 เดือน ก็ต้องม้วนเสื่อปิดกิจการกันไปเพราะด้วยทำเลและกลุ่มลูกค้าที่ไม่ตอบโจทย์ เรียกได้ว่าขาดทุนไปเป็นล้าน
ด้วยความตั้งอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณก้อยจึงลุกขึ้นสู้อีกอีกครั้ง ในธุรกิจรูปแบบเดิม คือ อาหารปิ้งย่าง ชื่อว่า กองจูปิ้งย่าง เพราะ ไม่ต้องยุ่งกับการปรุงอาหารทุกๆ เมนู
ไม่ต้องจ้างพ่อครัวแม่ครัวจำนวนมากๆ เพียงจัดเตรียมวัตถุดิบที่สดใหม่ให้พร้อม นอกนั้นลูกค้าก็จัดการปิ้งย่างด้วยตนเอง ระบบการจัดการร้านก็ง่าย ขณะเดียวกันก็เริ่มสร้างแฟรนไชส์กองจูปิ้งย่าง เกาหลีในเวลาต่อมาด้วย
โดยจุดเด่นของแฟรนไชส์กองจูปิ้งย่างอยู่ที่ น้ำจิ้ม น้ำราด ที่ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้โดดเด่น คือ น้ำจิ้มมีความเข้มข้น สไตล์เกาหลีแต่รสชาติคนไทย ซึ่งทางแฟรนไชส์เป็นผู้คิดค้นสูตรเอง จึงทำให้รสชาติแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ และ ปัจจุบันมีน้ำจิ้ม 3 สูตร คือ น้ำจิ้มแดง น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยๆ น้ำจิ้มหมาล่า ที่เผ็ดๆ ชาๆ ถูกใจหลายๆคน
ไม่เพียงแค่น้ำจิ้ม การเลือกใช้วัตถุดิบเกรดคุณภาพก็สำคัญ เพราะคุณก้อยเชื่อว่า การซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ทำให้กองจูมีลูกค้าประจำ และถูกบอกต่อกันแบบปากต่อปาก แม้ว่าปิ้งย่างกองจูจะไม่ใช่เกาหลี 100% แต่รสชาติ คุณภาพ และบรรยากาศของร้าน ไม่แตกต่างกัน และที่สำคัญ ราคาสินค้าทุกเมนู คนทุกกลุ่มสามารถจับต้องได้ เพราะราคาเริ่มต้นต่อเซทอยู่ที่ 150 บาท เท่านั้น
ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างประกอบกัน บวกกับความความมานะพยายามของคุณก้อย ทำให้ กองจูปิ้งย่าง เป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว สามารถทำรายได้เฉลี่ยประมาณ 20,000 บาทต่อคืน สูงสุด 40,000 บาทต่อคืน จากพื้นที่ร้านที่ไม่ใหญ่มาก มีจำนวนโต๊ะทั้งหมด 20 โต๊ะ และปัจจุบันแฟรนไชส์กองจูมี 2 สาขา คือ ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา แล ะตลาดอินดี้ ราชพฤกษ์ ซึ่งในปี 2561 นี่ คุณก้อยตั้งเป้าหมายการขยายแฟรนไชส์ไว้ที่ 5 สาขาเท่านั้น เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง
เมื่อถามถึงทัศนคติในการทำธุรกิจ คุณก้อย เชื่อว่า การคิดบวกคือพลังที่ดีในการทำสิ่งใหม่ๆ ถึงแม้เราจะเคยก้าวพลาดก็ตาม เพราะหน้าที่ของคนล้ม คือ การต้องลุกขึ้นสู้อีกครั้ง ทุกการล้มมีร่องรอยให้คิดเสมอ เราต้องแกะรอยเหล่านั้นให้เจอแล้วนำมาเป็นบทเรียนในครั้งใหม่ ขณะเดียวกันโอกาสก็เป็นเรื่องที่สำคัญ บางครั้งที่เราพลาดก็เพราะจังหวะและโอกาสนั้นยังไม่ใช่
และการทำธุรกิจอาหาร ไม่ใช่แค่รสชาติต้องอร่อย แต่จะต้องมีบริบทอื่นๆช่วยเสริมด้วย โดยเฉพาะเรื่องของทำเลที่ดี จะนำไปสู่ลูกค้าที่ดีและยอดขายที่ดี
บทความที่เกี่ยวข้อง