ซีฟู้ดริมทาง พลิกโมเดลธุรกิจ ปรุงทุกอย่างตามสั่ง เปิดปีเดียวยอดขาย 30 ล้าน


ปัจจุบันเรามักจะเห็นธุรกิจอาหารทะเลเปิดเรียงรายมากมายทั้งใน Community Mall และ Stand Alone แต่มีไม่กี่ร้านเท่านั้นที่สามารถประสบความสำเร็จและสร้างยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำ ซึ่งสิ่งนี้ทำให้ร้านกุ้งตะกร้าเศรษฐีเป็นธุรกิจที่น่าสนใจเนื่องจากเป็นการพลิก โมเดลธุรกิจ ขนาดเล็ก มีพนักงานเพียง 12 คน แต่สามารถสร้างยอดขายได้ถึงเดือนละ 3 ล้านบาท โดยทางร้านถือเป็นเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ใช้โมเดลการนำอาหารทะเลสดๆมาให้ลูกค้าเลือกซื้อพร้อมสั่งปรุงในเมนูที่ต้องการ พร้อมนำกลับไปรับประทานที่บ้าน เนื่องจากทางร้านจะไม่มีโต๊ะไว้สำหรับให้นั่งกิน

ปรับ โมเดลธุรกิจ พลิกชีวิต กุ้งตะกร้าเศรษฐี

คุณศักดิ์ดา ศรีแก้ว เจ้าของธุรกิจ กุ้งตะกร้าเศรษฐี เล่าว่าแนวคิดของรูปแบบธุรกิจนี้ เกิดจากทำธุรกิจอาหารให้ตรงความต้องการของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่มักมองว่าอาหารทะเลมีราคาแพง จึงต้องสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ลูกค้าสามารถซื้ออาหารทะเลได้ในราคาถูกและเป็นธรรม อย่างกุ้งตัวใหญ่ 2 ตัวที่ชั่งได้ 1 กิโล ก็จะขายถูกกว่าตามร้านหรือภัตตาคารใหญ่กว่า 50%  ซึ่งหากวัดผลกำไรแล้วก็ได้ไม่มากแต่เราสามารถเติมเต็มให้กับลูกค้าได้มากมาย ในช่วงเริ่มต้นใช้เงินลงทุนกับเตนท์ผ้าใบและอุปกรณ์ต่างๆพร้อมอาหารทะเลเพียง 10,000 บาทเท่านั้น ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้กว่า 30 ล้านบาทกับเวลาที่เปิดมาเพียงปีเดียว

การทำธุรกิจปัจจุบันใครคิดก่อนทำก่อนถือว่าได้เปรียบ

โดยทางร้านสามารถขายอาหารทะเลประเภทต่างๆรวมแล้ว 1 ตันต่อวัน คิดเป็นยอดขาย 150,000 บาทต่อวัน เคล็ดลับความสำเร็จมองว่าการทำธุรกิจปัจจุบันใครคิดก่อนทำก่อนถือว่าได้เปรียบ ส่วนใครคิดทีหลังก็ต้องเดินตาม สองคือไม่หยุดคิดพัฒนา ในระหว่างที่ผมจะขยายเตนท์ที่ 2 เพิ่มผมมองแล้วว่ามีที่จอดรถเพียงพอกับลูกค้าในอนาคต ซึ่งนอกจากนั้นผมยังโชคดีที่มีพาร์ทเนอร์คอยช่วยเหลือด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านพื้นที่ วัตถุดิบและลูกค้า

เข้าใจปัญหา หมั่นพัฒนา เพื่อธุรกิจยั่งยืน

ในวันแรกขายได้เพียง 17 กิโลเท่านั้น คิดเป็นยอดขาย 4,000 บาท ต่อมาจึงเปลี่ยนทำเลใหญ่ขึ้นและจัดวางสินค้าให้ดูมีความหลากหลายในแนวคิดที่ทำให้บรรยากาศร้านเป็นเหมือนกับสะพานปลา และขายเรื่อยมาจนเข้าเดือนที่ 4 ยอดขายถึงคงที่เป็นหลักแสนต่อวัน จุดเด่นของร้านคือน้ำจิ้มสูตรเฉพาะ ความสดใหม่ของวัตถุดิบแบบวันต่อวันพร้อมคุณภาพจากแหล่งที่มาต่างๆ เช่นกุ้งก็จากแปดริ้ว ปลาหมึกซื้อมาจากแม่กลอง หอยจากมหาชัย นอกจากนั้นยังมีวัตถุดิบอื่นๆมากมาย เรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ในร้านเลยทีเดียว สำหรับบริการปรุงอาหารในเมนูต่างๆให้ลูกค้า ทางร้านจะคิดบริการเมนูละ 20 บาท ซึ่งไม่ว่าลูกค้าจะใช้วัตถุดิบมากน้อยแค่ไหนก็จะคิดราคาเดียว หรือถ้าใครต้องการซื้อสดๆไปปรุงเองก็ได้ สำหรับการรักษาคุณภาพอาหารทางร้านก็จะมีห้อง frozen ที่เป็นระบบ ส่วนการบริหารสต็อกอาหารก็จะซื้อมาเก็บไว้ในปริมาณที่คาดว่าจะขายหมดต่อวัน และไม่ขายเกินเวลาที่ร้านเปิดระหว่างบ่าย 3 โมงถึง 2 ทุ่ม ด้านการจัดการของค้างสต็อก หากพบว่ามีวัตถุดิบเริ่มไม่สดก็จะทิ้งทันที หรือหากพอใช้ได้ก็จะนำไปลดราคาหรือทำการแจกจ่ายเพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกผิดหวัง ส่วนร้านอาหารทะเลที่เจ๊งไปมองว่ามาจากการบริหารต้นทุนที่ได้แข็งแรงพอ ซึ่งต้องแก้ปัญหาด้วยการหา Supplier ที่เหมาะสมกับธุรกิจ เช่น กุ้งตะกร้าเศรษฐี จะทำการติดตามราคาที่ขายหน้าบ่อตลอดเวลาแล้วหากมี Supplier มาเสนอขาย ก็จะทำการตกลงให้สามารถบวกราคาเพิ่มได้กิโลละ 10 บาท ซึ่งหากตกลงกันได้ก็จะทำธุรกิจด้วยกัน ชมเนื้อหาอื่นๆของรายการ SME Take Off