สำหรับความโดดเด่นของแฟรนไชส์ Crepe Shock เครปแป้งดำ สีดำที่เกิดขึ้นไม่ใช่จากการใช้สีผสมอาหาร แต่ใช้ผงถ่านที่นำเข้ามาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายของผู้บริโภค ไม่ตกค้างในร่างกาย เน้นเจาะกลุ่มคนรักสุขภาพ นอกจากนี้ไส้ที่ใช้เน้นเฉพาะคุณภาพดี แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คาว หวาน เนยที่เป็นตัวหลักใช้เป็นเนยแท้ 100% 
ในส่วนของไส้ยอดนิยมที่ลูกค้ามักจะเลือกทาน คือ ไข่ – เบคอน – ชีส, กล้วย – ฝอยทอง – นูเทล ล่า – ชีส, หอยลาย – ผักโขม – ชีส, ปูอัด – ไส้กรอก – พริกเผา, หมูหยอง – ยำสาหร่าย – พิซซ่า เป็นต้น และนอกจากนี้ยังมีไส้ที่แปลกใหม่เป็นสูตรที่ทางร้านคิดขึ้นมาเอง คือ ไส้กระเพราหมูสับ, ไส้ลาบหมู, และยังมีไส้ตามเทศกาลต่างๆ เช่น เทศกาลฮาโลวีน ก็จะมีชาร์โคลเครปไส้รถด่วน เป็นต้น ส่วนของหวานก็มีอัลมอนด์ ลูกเกด ชอกโกแลต นูเทลล่า และอื่นๆ อีกมากมาย 
ราคาจำหน่ายเริ่มต้นที่ 40 บาท (แป้งเปล่า) ส่วนใส่ไส้ก็เริ่มต้นที่ 2 ไส้ 60 บาท, 3 ไส้ 70 บาท, 4 ไส้ 80 บาท เป็นต้น ซึ่งราคาก็จะแปรผันไปตามไส้ที่ลูกค้าเลือกใส่ ปัจจุบันมีผู้สนใจมาติดต่อขอลงทุนแฟรนไชส์ไปแล้วกว่า 30 สาขา จากระยะเวลาการเปิดตัวเพียงแค่ 10 เดือนเท่านั้น ถือว่ากระแสตอบรับดีเกินคาด 
สำหรับผู้ที่สนใจลงทุนแฟรนไชส์มีให้เลือก 3 รูปแบบ คือ 1.SIZE S ราคา 35,000 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ
2.SIZE S ราคา 55,000 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ
3.SIZE S ราคา 65,000 บาท สิ่งที่จะได้รับ คือ
บทความแฟรนไชส์ อื่นๆ คลิก
เมื่อวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์กลางการเรียนรู้บีพีเอส กรุงเทพฯ ต่อด้วย ห้องเมฆาบอลรูม โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ HP Latex พร้อมด้วยผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์
ธุรกิจร้านอาหาร แม้จะเปิดง่าย แต่ดำเนินการยาก สิ่งสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการคำนวณต้นทุนที่กลายเป็นปัญหา และอุปสรรคสำคัญ เพราะหากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อกำไร-ขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องให้ความสำคัญ มองข้ามไปไม่ได้
หลังจาก Texas Chicken แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติสหรัฐฯ มีอันต้องปิดฉากธุรกิจกว่า 9 ปีในประเทศไทย เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำ โดยทุกสาขาจะปิดตัวลงวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้
