เกษตรกรคือคนส่วนใหญ่ของประเทศไทย หากแก้ปัญหาความยากจนของคนกลุ่มนี้ได้ด้วย BIG DATA ก็เป็นเรื่องที่น่าศึกษาและทำการลงทุนมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะนี่คือกำลังการผลิตด้านอาหารของคนทั้งประเทศ หากอาชีพนี้ไม่สามารถสร้างรายได้เพื่อเลี้ยงตัวเองได้ อาจจะมีการทิ้งเกษตรกรรมไปทำอาชีพอื่นที่สร้างรายได้มากกว่า
ถ้าเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะเป็นปัญหาต่อประเทศในระยะยาวได้ว่า กำลังผลิตเราไม่พอแม้แต่จะเอามากินกันเอง ต้องไปนำเข้าอาหารจากต่างประเทศ ย่อมส่งผลเสียกับเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างใหญ่หลวง จะเป็นเรื่องดีขนาดไหนหากสามารถนำเอาเทคโนโลยีมาช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้
กับดักความยากจนของเกษตรกรไทย
ปัญหาความยากจนของเกษตรกรไทยนั้นเกิดจาก 3 เรื่องใหญ่ๆ ที่สำคัญได้แก่ 1.กำลังการผลิตต่อไร่ต่ำเกินไป 2.ขาดการสนับสนุนเรื่องเงินกู้ และ 3.ขาดช่องทางการตลาดที่เหมาะสม ซึ่งก็เป็นปัญหาที่เราทราบกันมาตลอดเวลาว่านี่คือปัญหาหลักของการที่ทำให้เกิดความยากจนกับเกษตรกรไทย
ปัญหาผลผลิตต่อไร่ต่ำเกินไปนั้น ส่วนมากเกิดจากการที่ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอว่าที่ดินของตนนั้นควรจะปลูกอะไรเมื่อไรถึงจะสอดคล้องกับสภาพแวดล้อมและภูมิอากาศในที่ดินของตน ย้ำว่าในที่ดินของตนไม่ใช่การฟังพยากรณ์วงกว้างในระดับจังหวัดหรือประเทศ
ปัญหาการกู้เงิน การกู้เงินเป็นไปได้ช้าเพราะทางเจ้าหน้าที่ของธนาคารจะต้องทำการลงพื้นที่ของชาวไร่ชาวนา เพื่อทำการประเมินความเสี่ยง ว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตอุทกภัยหรือไม่เป็นที่น้ำกัดเซาะและอื่นๆ อีกมากมายทำให้เสียเวลานานกว่าจะทำการกู้เงินได้สำเร็จ ซึ่งทำให้เรื่องของการกู้นอกระบบเป็นทางเลือกที่ซ้ำเติมเข้ามา
ปัญหาของการหาตลาด เพื่อขายผลผลิตถึงแม้ว่าเรื่องนี้จะมีการนำสินค้าเข้าไปขายกับทางห้างสรรพสินค้าโดยตรงกันบ้างแล้วแต่ก็เป็นเพียงแค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของสินค้าทั้งหมด ยังมีอีกจำนวนมากที่ยังเข้าตลาดเองไม่ได้และยังคงถูกกดราคาจากพ่อค้าคนกลางเหมือนเดิม
BIG DATA เข้ามาช่วยได้อย่างไร
ปัญหาผลผลิตต่อไร่จะทำให้ดีขึ้นอย่างน้อยก็เพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น 100% เมื่อเจ้าของพื้นที่รู้ว่าในที่ดินของตัวเองนั้น ฝนจะตกเมื่อไรหรือแม้แต่น้ำจะท่วมเมื่อไร บนพื้นที่ของเขาควรจะทำการปลูกพืชชนิดใดจึงจะเหมาะกับสภาพดินที่เป็นอยู่ตอนนี้ ทำให้ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น รวมไปถึงลดค่าใช้จ่ายในการต้องใช้ปุ๋ยเคมี
ปัญกาการกู้เงินที่ต้องรอดำเนิการนานก็จะหมดไป เพราะข้อมูลเกี่ยวกับที่ดินจะถูกนำส่งให้กับเจ้าหน้าที่ปล่อยกู้ ทำให้พร้อมประเมินความเสี่ยงได้จากข้อมูลที่ส่งให้ได้ทันที ข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์อย่างถูกต้องมาแล้วว่าที่ดินนี้มีความเสี่ยงเรื่องใดบ้าง
ปัญหาการหาตลาดก็จะหมดไปเมื่อข้อมูลทุกอย่างมีถึงเจ้าของตลาดต่างๆ ว่าผลผลิตในช่วงเวลาต่างๆ นั้นอะไรกำลังจะพร้อมเก็บเกี่ยวและจะมีผลผลิตออกมาวันไหน ทำให้ผู้ซื้อและผู้ขายทราบได้ล่วงหน้าว่าผลผลิตอะไรบ้างที่พร้อมจะนำส่งและพร้อมจำหน่ายวันไหน
นี่เป็นตัวอย่างของการนำเอาข้อมูลขนาดใหญ่ในด้านต่างๆ มาประมวลผลด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ ช่วยให้เกษตรกรได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์เอาไว้ใช้งาน ได้รับทราบข้อมูลจากการพยากรณ์เรื่องดินฟ้าอากาศจากระบบที่เป็นวิทยาศาตร์ที่มีความแม่นยำสูง ไม่ใช่ข้อมูลที่เกิดจากการคาดเดา