ธุรกิจท่องเที่ยวเชียงราย เฮ! หอการค้าเชียงรายประเมินเหตุการณ์ทีมหมูป่าติดถ้ำหลวง ช่วยเปิดประตูท่องเที่ยวคึกคักครึ่งปีหลัง ชี้คนทั่วโลกได้เห็นน้ำใจ การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน เสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวประเทศไทย
ดร.วิรุณ คำภิโล ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดเชียงราย เปิดเผยกับแหล่งข่าว ถึงทิศทางของเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย หลังเหตุการณ์การช่วยเหลือ “ทีมหมูป่า” ว่า แม้ว่าขณะนี้การท่องเที่ยวของเชียงรายจะอยู่ในช่วงโลว์ซีซั่น แต่เชื่อว่าจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดกระแสของการกิจกรรมที่ต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมทางศิลปะของ อ.เฉลิมชัย หรือการปรับปรุงการท่องเที่ยวบริเวณถ้ำหลวง ขุนน้ำนางนอน จะช่วยให้การท่องเที่ยวจังหวัดเชียงรายคึกคักมากกว่าเดิมจากปีก่อนๆ โดยปี 60 เชียงรายมีอัตราการเติบโตของรายได้จากการท่องเที่ยวอยู่ที่ 8.24% หรือคิดเป็น 6,917 ล้านบาท
“เหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นการรีแบรนด์การท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงราย หรืออาจจะกล่าวได้ว่าของประเทศไทยทั้งประเทศ ภาพของการช่วยเหลือกัน และความมีน้ำใจของคนไทย การร่วมมือร่วมใจของนานาประเทศได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ทำให้คนรู้จักจังหวัดเชียงรายมากยิ่งขึ้น ภาพรวมต่อจากนี้ตนมองว่าการท่องเที่ยวจะเพิ่มสูงขึ้นแม้ช่วงนี้จะเป็นหน้าโลว์ซีซั่นก็ตาม ขณะที่ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค. ก็จะยิ่งคึกคักมากขึ้นเนื่องจากจะเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัด ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นไปกว่า 10% ของปีที่แล้ว” ดร.วิรุณ กล่าว
ที่ปรึกษาหอการค้าจังหวัดเชียงราย อธิบายต่อว่า จังหวัดเชียงรายมีลักษณะสภาพเศรษฐกิจโดยทั่วไปที่ดีอยู่แล้ว จากปัจจัย 2 ด้าน คือ 1.การเกษตร ซึ่งเป็นอาชีพหลักของประชาชนในพื้นที่ 2.การท่องเที่ยว ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงการค้าชายแดน ระหว่าง ไทย-เมียนมา ด่านแม่สาย
โดยต่อจากนี้สิ่งที่ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันคิดเสนอความคิดเห็นคือการเชื่อมโยงการท่องเที่ยวจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้อย่างไร ซึ่งจะต้องเป็นในเชิงที่สร้างสรรค์ ขณะเดียวกันทางภาคเอกชนเองก็ได้ส่งเสริมและกระตุ้นการท่องเที่ยวชุมชนเพิ่มมากขึ้น โดยขับเคลื่อนผ่านนโยบายประชารัฐของรัฐบาล ด้วยการเชื่อมโยงชุมชน การเกษตร เข้าด้วยกัน จากการดำเนินการของบริษัทประชารัฐรักสามัคคี จังหวัดเชียงราย ที่ขณะนี้หลายโครงการเริ่มเดินหน้าได้เป็นอย่างดี อาทิ การท่องเที่ยวชุมชนบ้านแม่สาด ต.แม่กรณ์ อ.เมืองฯ การส่งเสริมการผลิตกาแฟและการสร้างแบรนด์ผลิตภัณฑ์ของชุมชนบ้านผาฮี้ อ.แม่สาย
“แน่นอนว่าเมื่อมีเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว เราจะต้องจัดเตรียมแผนรับมือกับการท่องเที่ยวเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน ภาพของความช่วยเหลือ ความมีน้ำใจของคนไทย ก็จะช่วยเป็นปัจจัยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้ดีมากขึ้นด้วยเช่นกัน” ดร.วิรุณ กล่าว
