ปาจรีย์ จาวุธาณินทร์ เจ้าของแฟรนไชส์ เล่าว่า แต่เดิมก่อนที่จะเปิดร้านเครื่องดื่มน้ำผลไม้ เธอดำเนินธุรกิจส่งออกผลไม้ไปยังต่างประเทศ เกิดเป็นแนวคิดต่อยอดจากวัตถุดิบผลไม้สดอย่าง มะม่วงน้ำดอกไม้ ที่มีคุณภาพระดับพรีเมี่ยมมาสร้างเป็นธุรกิจใหม่ จนได้ออกมาในรูปแบบของร้านสมูทตี้ แบรนด์ แมงโก้ มาเนีย หลังจากระยะเวลาทดสอบไม่นานจึงได้สูตรน้ำผลไม้ที่ลงตัวและทดลองเปิดร้านจำหน่าย ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี และมีผู้สนใจซื้อแฟรนไชส์เป็นจำนวนมาก
ด้วยความโดดเด่นที่ใช้วัตถุดิบผลไม้สดเกรดส่งออก จนลูกค้ารับรู้ได้ถึงรสชาติของผลไม้ที่สดใหม่และหารับประทานได้ยากในตลาดเมืองไทย ซึ่งพระเอกหลักที่เป็นเมนูเด่น คือ มะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีผลไม้ชนิดอื่นให้เลือก อาทิ ผลไม้สดตระกูลเบอร์รี่และอื่นๆ ครีมมี่เมนู และอิตาเลียนโซดา ขนมหวาน เช่น ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง พุดดิ้งมะม่วง ข้าวเหนียวมะม่วง และอื่นๆ อีกกว่า 10 เมนู
ในส่วนของรูปแบบการลงทุนแฟรนไชส์มีให้เลือกลงทุน 2 แบบ คือ
1.รูปแบบ Take away ราคา 120,000 บาท
2.รูปแบบร้านนั่งทาน ราคา 180,000 บาท
สิ่งที่จะได้รับของทั้ง 2 แบบนี้เหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันในรูปแบบของร้าน
สำหรับเงินทุนหมุนเวียนขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน ราคาขาย เริ่มต้นที่ 69-119 บาท กำไรต่อแก้วอยู่ที่ประมาณ 60% ระยะเวลาคืนทุน 6 – 12 เดือนปัจจุบัน แมงโก้ มาเนีย มีมากกว่า 20 สาขา และยังได้ขยายสาขาไปยังต่างประเทศ สิ่งสำคัญของการเปิดแฟรนไชส์นั้น ผู้ลงทุนควรเลือกทำเลที่เหมาะสม ทางแมงโก้ มาเนีย จะลงพื้นที่สำรวจทำเลนั้นๆ ให้อีกด้วย
“ธุรกิจเครื่องดื่มถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อได้เปรียบของแมงโก้ มาเนีย อยู่ที่วัตถุดิบที่เป็นผลไม้สดระดับพรีเมี่ยมเพื่อการส่งออก ลูกค้าที่ได้ลองทานจะรับรู้ได้ถึงความสดใหม่ เพียงแค่ผู้ลงทุนมีใจรักในธุรกิจ ตั้งใจจริง ก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้ง่าย เพราะขั้นตอนการบริการจัดการต่างๆ ทางบริษัทได้จัดวางระบบไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว” ปาจรีย์กล่าว
สำหรับผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คลิก
บทความแฟรนไชส์อื่นๆ คลิก
เมื่อวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์กลางการเรียนรู้บีพีเอส กรุงเทพฯ ต่อด้วย ห้องเมฆาบอลรูม โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ HP Latex พร้อมด้วยผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์
ธุรกิจร้านอาหาร แม้จะเปิดง่าย แต่ดำเนินการยาก สิ่งสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการคำนวณต้นทุนที่กลายเป็นปัญหา และอุปสรรคสำคัญ เพราะหากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อกำไร-ขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องให้ความสำคัญ มองข้ามไปไม่ได้
หลังจาก Texas Chicken แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติสหรัฐฯ มีอันต้องปิดฉากธุรกิจกว่า 9 ปีในประเทศไทย เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำ โดยทุกสาขาจะปิดตัวลงวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้
