จากประสบการณ์ธุรกิจร้านอาหารที่ล้มเหลวสูญเงินกว่า 1,000,000 บาท แต่การไว้ยอมแพ้ทำให้วันนี้ แฟรนไชส์กองจู ปิ้งย่างเกาหลี กลับมาประสบความสำเร็จอีกครั้ง
ด้วยความตั้งอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง คุณมนัสวี ภาคแก้ว จึงลุกขึ้นสู้อีกอีกครั้ง ในธุรกิจรูปแบบเดิม คือ อาหารปิ้งย่าง เพราะไม่ต้องยุ่งกับการปรุงอาหารทุกๆ เมนู ไม่ต้องจ้างพ่อครัวแม่ครัวจำนวนมากๆ เพียงจัดเตรียมวัตถุดิบที่สดใหม่ให้พร้อม นอกนั้นลูกค้าก็จัดการปิ้งย่างด้วยตนเอง ระบบการจัดการร้านก็ง่าย ทำให้ แฟรนไชส์กองจู ปิ้งย่างเกาหลี เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ซึ่งตอนนี้ก็เปิดให้บริการเป็นระยะเวลาประมาณ 3 เดือนแล้ว 
โดยจุดเด่นของแฟรนไชส์กองจูอยู่ที่ น้ำจิ้มและน้ำราด ที่ช่วยเพิ่มรสชาติอาหารให้โดดเด่น คือ น้ำจิ้มมีความเข้มข้น สไตล์เกาหลีแต่รสชาติคนไทย ซึ่งทางแฟรนไชส์เป็นผู้คิดค้นสูตรเอง จึงทำให้รสชาติแตกต่างจากเจ้าอื่นๆ และปัจจุบันมีน้ำจิ้ม 3 สูตร คือ น้ำจิ้มแดง น้ำจิ้มซีฟู้ดแบบไทยๆ น้ำจิ้มหมาล่า ที่เผ็ดๆ ชาๆ ถูกใจหลายๆ คน 
ไม่เพียงแค่น้ำจิ้มที่ต้องพิถีพิถัน แต่การเลือกใช้วัตถุดิบเกรดคุณภาพก็สำคัญ นอกจากนี้ความซื่อสัตย์ต่อลูกค้าทำให้แฟรนไชส์กองจูมีลูกค้าประจำ และมีลูกค้าบอกต่อกันแบบปากต่อปาก แม้ว่าแฟรนไชส์ปิ้งย่างกองจูไม่ใช่เกาหลี 100% แต่รสชาติ คุณภาพ และบรรยากาศของร้าน ไม่แตกต่างจากต้นฉบับอย่างแน่นอน และที่สำคัญ ราคาสินค้าทุกเมนู คนทุกกลุ่มสามารถจับต้องได้ เพราะราคาเริ่มต้นต่อเซทอยู่ที่ 150 บาท เท่านั้น 
ด้านการขยายแฟรนไชส์กองจู ไม่เน้นเพิ่มจำนวนสาขา เพราะต้องการให้ร้านต้นแบบนั้นสร้างกลุ่มลูกค้า สร้างรายได้ในระดับหนึ่งก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นใจให้กับแฟรนไชส์ซีที่ต้องการซื้อแฟรนไชส์กองจู ว่าสามารถสร้างรายได้ได้จริงๆ ไม่ใช่แฟรนไชส์ที่ซื้อไปแล้วไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือล้มเหลว 
สำหรับใครที่สนใจอยากเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์กองจู ร้านอาหารเกาหลีสไตล์ไทยๆ ทางร้านจะมีให้เลือก 3 รูปแบบการลงทุน ดังนี้
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับแฟรนไชส์กองจู คุณมนัสวี บอกว่า ธุรกิจอาหาร เป็นธุรกิจที่ได้กำไรค่อนข้างสูง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการจัดการร้าน การบริหารลูกจ้าง เพราะต้นทุนวัตถุดิบสามารถควบคุมได้ ส่วนการคืนทุนขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งของร้านเป็นหลักโดยส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 3 – 6 เดือน เพราะร้านสาขาแรกบริหารอยู่ สามารถทำรายได้เฉลี่ยประมาณ 20,000 บาทต่อคืน สูงสุด 40,000 บาทต่อคืน และปัจจุบันแฟรนไชส์กองจูมี 5 สาขา โดยในปี 2561 ตั้งเป้าขยายแฟรนไชส์ไว้ 10 สาขา เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการและสามารถดูแลได้อย่างทั่วถึง 
สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ facebook : @Yangimim
บทความแฟรนไชส์อื่นๆ คลิก
เมื่อวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์กลางการเรียนรู้บีพีเอส กรุงเทพฯ ต่อด้วย ห้องเมฆาบอลรูม โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ HP Latex พร้อมด้วยผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์
ธุรกิจร้านอาหาร แม้จะเปิดง่าย แต่ดำเนินการยาก สิ่งสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการคำนวณต้นทุนที่กลายเป็นปัญหา และอุปสรรคสำคัญ เพราะหากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อกำไร-ขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องให้ความสำคัญ มองข้ามไปไม่ได้
หลังจาก Texas Chicken แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติสหรัฐฯ มีอันต้องปิดฉากธุรกิจกว่า 9 ปีในประเทศไทย เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำ โดยทุกสาขาจะปิดตัวลงวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้
