ตุรกี CRISIS ไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทย


นายศรพล ตุลยะเสถียร ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจมหภาค สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. บอกถึงกรณีค่าเงินตุรกีอ่อนค่าลงอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมาว่าจะมีผลกระทบต่อไทยและมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเงินทุนและตลาดหุ้นไทยในระยะสั้น ผลจากนักลงทุนที่ตื่นตระหนกบ้างในทางจิตวิทยา แต่ปัญหาตุรกีจะไม่กระทบภาพรวมเศรษฐกิจไทย เนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีความเข้มแข็ง จากทุนสำรองระหว่างประเทศที่อยู่ระดับสูง หนี้ต่างประเทศต่ำ

ด้านนางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายยุทธศาสตร์และความสัมพันธ์องค์กร ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. ระบุว่า ธปท. ติดตามสถานการณ์ในตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิดจากเหตุการณ์ในประเทศตุรกี ความเชื่อมโยงทางการค้า การลงทุน และการเงินของไทยกับประเทศตุรกียังไม่สูงมาก ผลกระทบต่อตลาดการเงินไทยจึงอยู่ในวงจำกัด โดย ธปท.จะติดตามผลกระทบต่อประเทศอื่น และประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป

นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. ยอมรับว่า ภาคเอกชนรู้สึกกังวล และอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ตลาดการเงินโลกอย่างใกล้ชิด หลังจากเกิดเหตุการณ์ค่าเงินตุรกีอ่อนค่าต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ส่งออก นำเข้า เนื่องจากการเคลื่อนค่าเงินของตุรกีจะกระทบค่าเงินโดยรวมในตลาดโลกเป็นลูกโซ่ ส่วนหนึ่งเป็นคู่ค้ากับประเทศไทยหลายกลุ่ม อาทิ กลุ่มยุโรป อินโดนีเซีย สหรัฐ จึงต้องติดตามเพื่อรองรับสถานการณ์ต่อไป ขณะที่ค่าเงินบาทอาจกระทบสั้นๆ เพราะสถานะการเงินของไทย ค่อนข้างแข็งแกร่ง

ขณะที่ ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักวิจัย ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย บอกว่า ผลกระทบจากวิกฤติตุรกีต่อไทยมีไม่มาก โดยไทยเกินดุลการค้ากับตุรกี และสัดส่วนการส่งออกไปตุรกีมีเพียง 0.5% ของการส่งออกทั้งหมด โดยประเมินว่าเงินบาทจะอ่อนค่าแค่ระยะสั้น ก่อนพลิกกลับมาแข็งค่าช่วงไตรมาส 4 ที่ระดับ 32.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ