เพราะการทำงานอาจมีอุปสรรคหรือปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ JobsDB.com เว็บไซต์หางานชั้นนำ ได้ให้ข้อมูลถึงการ รับมือกับความกดดัน ในการทำงาน และวิธีลดแรงกดดันจากการทำงาน ดังนี้
- ศึกษาลักษณะงานที่ทำอย่างถี่ถ้วนเพื่อลดแรงกดดัน
หากความกดดันของคุณเกิดจากเนื้องานและการทำงานของคุณแล้ว วิธีที่จะช่วยลดความกดดันจากการทำงานของคุณได้อย่างดี คือ การศึกษาและเรียนรู้งานที่ทำอยู่อย่างถ่องแท้ รู้ให้ลึก รู้ให้จริง รู้ให้ถี่ถ้วน รู้ให้รอบถึงเนื้องาน ลักษณะงาน ความเป็นไปได้ของปัญหาและวิธีทางแก้ปัญหาจากการทำงานเท่าที่พอจะศึกษาหาข้อมูลได้ เมื่อเรามีความรู้ความเข้าใจในงานที่ทำอยู่อย่างดีแล้ว เราจะเกิดความมั่นใจเวลาปฏิบัติงานมากขึ้น เมื่อเกิดปัญหาหรือสิ่งที่ติดขัดในการทำงาน เราจะสามารถใช้ความรู้ความเข้าใจของเราแก้ปัญหาได้ทีละเปลาะ วิธีนี้จะช่วยป้องกันแรงกดดันจากงานและช่วยลดแรงกดดันได้ในขั้นต้นได้
- ปรับตัวและเข้าใจความแตกต่างของเพื่อนร่วมงาน
หลายครั้งสาเหตุสำคัญที่สร้างความกดดันให้เกิดขึ้นมาจากหัวหน้า เพื่อนร่วมงานหรือลูกน้อง บางคนมีปัญหาปรับตัวเข้ากับเพื่อนร่วมงานไม่ได้ ทำให้เกิดความเครียดและตัดสินใจลาออกในที่สุด บางคนอาจมองว่าการทำงานเป็นสนามแข่งขันที่จะยอมแพ้กันไม่ได้ ซึ่งจะยิ่งสร้างความเครียดและความกดดันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด โดยเฉพาะพนักงานมือใหม่ทางที่ดีควรศึกษาความแตกต่างของเพื่อนร่วมงานของคุณว่าแต่ละคนมีนิสัยใจคอและวิธีการทำงานเป็นอย่างไร พยายามมองหาข้อดีมากกว่าข้อเสีย สร้างมนุษยสัมพันธ์ที่ดี พูดคุย ถามไถ่ทุกข์สุขที่อาจไม่ใช่แค่เรื่องงานเพียงอย่างเดียว วิธีการปรับตัวและสร้างความสัมพันธ์อันดีเบื้องต้นที่ง่ายที่สุด คือการส่งยิ้ม ทักทาย และให้ความช่วยเหลือกับเพื่อนร่วมงานของคุณ นับว่าเป็นเสน่ห์ที่คุณไม่ต้องเสียเงินลงทุน แต่รับประกันได้ว่าคุณจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าที่จะลดความกดดันได้อย่างดีทีเดียว
- จัดลำดับความสำคัญของงานอย่างมีประสิทธิภาพ
งานที่หลั่งไหลเข้ามาในเวลาที่ไล่เลี่ยกันหรือแม้กระทั่งในเวลาเดียวกัน ย่อมสร้างความกังวลใจและความกดดันอย่างมากว่าจะทำงานชิ้นนั้นๆ หรืออีกสิบชิ้นนั้นๆเสร็จหรือไม่ พนักงานมือใหม่หลายคนอาจกำลังประสบกับปัญหานี้ สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ตั้งสติก่อนสตาร์ท งานที่ล้นมือ ไม่ได้แปลว่าคุณจะจัดสรรไม่ได้ เพียงแต่ต้องนำงานนั้น ๆ มาเรียงลำดับความสำคัญว่างานใดมีความเร่งรีบ มีเดตไลน์จ่อใกล้เข้ามาและส่งผลกระทบมากกว่า ควรทำงานนั้นก่อน การทำ P-D-C-A (Plan-Do-Check-Act) หรือ To do list ในแต่ละวันจะสามารถช่วยคุณได้ ลิสท์นี้จะทำให้เห็นว่าในแต่ละวันมีสิ่งใดที่เราต้องทำและสิ่งใดที่เราทำสำเร็จไปแล้วบ้าง เป็นการช่วยสร้างเป้าหมายในการทำงาน และหากติดขัดใดในการทำงานควรปรึกษาเพื่อนร่วมงานหรือหัวหน้าทันที
การมองโลกในแง่ดี จะช่วยลดการปะทะ ลดความเครียดในการทำงาน และสร้างอุปนิสัยที่เป็นคนสดใส ร่าเริง ให้คุณสามารถทำงานและปฏิบัติงานได้อย่างมั่นใจ เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน การมีทัศนคติที่ดีต่อชีวิตและการทำงานจะทำให้ความกดดันเกิดขึ้นได้ยาก หรือเมื่อเกิดขึ้นแล้ว การมองปัญหาในมุมบวกจะทำให้คุณหาทางแก้ปัญหาได้เร็วกว่า มีประสิทธิภาพมากกว่า และจะสามารถลดแรงกดดันที่รุมเร้าได้ถึงครึ่งต่อครึ่ง เมื่อมีแรงกดดันเกิดขึ้น ให้มองว่ามันเป็นความท้าทายและเป็นแบบทดสอบที่จะทำให้เราเติบโตและแช็งแกร่ง วิธีคิดนี้จะทำให้เราผ่านความกดดันไปได้ง่ายขึ้น
- สร้างความสมดุลให้ชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
ถึงแม้ว่างานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่งานก็ไม่ใช่ทุกอย่างของชีวิต เราอยากให้คุณสร้างความสมดุลระหว่างการใช้ชีวิตส่วนตัวและการทำงานให้พอเหมาะพอดีกัน work-life balance ที่ดีจะช่วยคลายความเครียดและแรงกดดันจากการทำงาน คุณอาจหาเวลาว่างจากการทำงาน ไปออกกำลังกาย ทำงานอดิเรก ใช้เวลากับคนรัก พักผ่อน ออกไปใช้ชีวิตให้ครบทุกด้าน เพื่อสร้างภูมิต้านทานจากแรงกดดันจากการทำงาน
บางครั้งความกดดันอาจเกิดจากความคาดหวังที่มาจากตัวคุณเองหรือคนที่รายล้อมรอบตัวคุณ ความคาดหวังว่างานที่ทำต้องออกมาดี สมบูรณ์แบบ ไม่มีความผิดพลาด เป็นเรื่องปกติของคนทำงานทุกคน แต่การทำงานอาจมีอุปสรรคหรือปัญหาที่เราควบคุมไม่ได้ ทำให้ผลที่ออกมาไม่สำเร็จสมบูรณ์แบบอย่างที่คุณคาดไว้ เมื่อคุณได้ทำงานหรือแก้ปัญหาอย่างดีที่สุดแล้วแต่ผลที่ออกมาไม่เป็นดังคาด เราอยากให้คุณปล่อยวาง เอาพลังที่จะมาเครียดกับความกดดันไปใช้ในการทำงานอื่น ๆ ให้ดียิ่งขึ้นไปอีกจะดีกว่า