แชร์ลูกโซ่ยังระบาดหนัก “ข้าราชการ-พนักงานบริษัท” เป็นเหยื่อมากกว่าชาวบ้าน


นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า ขอเตือนให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติ เนื่องจากขณะนี้พบมีผู้ได้รับความเสียหายจากการถูกหลอกไปลงทุนในลักษณะ แชร์ลูกโซ่ อยู่จำนวนมาก ดังนั้นจึงขอเตือนให้มีการตรวจสอบความน่าเชื่อถือของบริษัท และผู้ที่ชักชวนเข้ามาลงทุนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนตัดสินใจไปลงทุน “แม้ที่ผ่านมากระทรวงการคลัง จะมีการเตือนและร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปราบปรามแชร์ลูกโซ่อย่างเข้มข้น แต่ก็ยังพบว่ามีกลุ่มมิจฉาชีพยังออกหลอกลวงประชาชนอยู่เยอะ ทั้งการชักชวนให้ไปลงทุนในหุ้น น้ำมัน ค่าเงิน สกุลเงินดิจิทัล หรือการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ อยู่ ซึ่งประชาชนหากพบว่าการลงทุนใดให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติขอให้มีการตรวจสอบให้ดีเสียก่อน เพราะไม่เช่นนั้นอาจมีความเสี่ยงที่จะถูกหลอกลวงได้” นายพรชัย กล่าว

รายงานข่าวจากสำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน (สพช.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ระบุว่า สถิติประชาชนเข้ามาร้องเรียนปัญหาแชร์ลูกโซ่ และอาชญากรทางการเงินกับ สพช.ในช่วง 7 เดือนปี 2561 (ม.ค .-ก.ค.) ยังคงมีจำนวนสูงมากกว่า 200 ครั้ง สร้างความเสียหายแก่ประชาชนหลายร้อยล้านบาท ส่วนใหญ่ผู้ที่ตกเป็นเหยื่อถูกหลอกพบว่าเป็นกลุ่มที่มีการศึกษาในระดับดี ข้าราชการ เป็นพนักงานบริษัทมากขึ้น ต่างจากเดิมที่ส่วนใหญ่จะผู้ถูกหลอกจะเป็นกลุ่มชาวบ้านที่มีการแนะนำปากต่อปาก เนื่องจากกลุ่มมิจฉาชีพมีการจูงใจในการให้ผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงจากการลงทุนในตลาดหุ้น สกุลเงินดิจิทัล มากกว่า 30-40% ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความโลภจนหลงเชื่อลงทุน ที่สำคัญพบว่าวงเงินที่ถูกมิจฉาชีพหลอกลวงความเสียหายรุนแรงมากขึ้นจากเดิมมีการถูกหลอกกันหลักหมื่นถึงแสนบาท แต่ปัจจุบันความเสียหายเพิ่มขึ้นเป็นตั้งแต่รายละ 1 ล้านบาท หรือหลักสิบล้านบาทก็มี สำหรับรูปแบบขอแชร์ลูกโซ่ จะเน้นการหาสมาชิกเพิ่ม เพื่อระดมทุนและการันตีผลตอบแทนสูงเกินจริง เช่น หากมีใครเสนอผลตอบแทน 20-30% ขอให้ระวังก่อนเลยว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ ขณะที่ผลตอบแทนที่ได้จากการลงทุน จะได้จากการหาสมาชิกรายใหม่เข้ามาลงทุน

นอกจากนี้ การเข้ามาเป็นสมาชิกจะมีการจ่ายค่าแรกเข้าสูงซึ่งในช่วงแรกจะได้รับผลตอบแทนจริง เพราะจะนำเงินลงทุนจากสมาชิกรายใหม่ที่ได้มาหมุนเวียนและจ่ายให้แก่สมาชิกรายก่อนๆ ซึ่งท้ายที่สุดจะเริ่มเลื่อนการจ่ายผลตอบแทน และหนีไปในที่สุด