นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เผยว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ มี SMEs ไทยได้รับความเสียหายจาก โจรไซเบอร์ มากขึ้น สังเกตได้จากการตรวจพบเงินโอนหลายรายการถูกปลอมแปลง รวมถึงการเจาะเข้าอีเมลโดยแฮกเกอร์ เพื่อสวมรอยเป็นผู้ขายสินค้าในต่างประเทศมาติดต่อกับผู้นำเข้าไทย พร้อมปลอมคำสั่งโอนเงินในเอกสารการซื้อขาย หรือแจ้งขอเปลี่ยนบัญชีผู้รับโอนเงินเป็นบัญชีของแฮกเกอร์แทน ขณะที่อีเมลของผู้ประกอบการไทยก็จะถูกบล็อกไม่ให้ติดต่อกับผู้ขายในต่างประเทศ กว่าผู้ประกอบการไทยจะรู้ตัวก็สูญเงินไปแล้ว โดยภัยจากอาชญากรไซเบอร์ มักเกิดกับผู้ประกอบการรายย่อยที่เป็นผู้ส่งออกและผู้นำเข้า เพราะสามารถเจาะเข้าระบบคอมพิวเตอร์ได้ง่ายกว่าบริษัทขนาดใหญ่ และมียอดการสั่งซื้อราว 165,000 – 1,650,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อสินค้าจาก มาเลเซีย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ อินเดีย ไต้หวันและจีน โดยจะให้โอนเงินไปประเทศอื่น เมืองอื่น บุคคลอื่น หรือขอเปลี่ยนแปลงบัญชีการโอนเงินขณะซื้อ-ขาย
วิธีป้องกัน โจรไซเบอร์
- ระหว่างตกลงซื้อ-ขาย หากพบข้อพิรุธให้ระงับการโอนเงินทันที เพราะหากโอนเข้าบัญชีของแฮกเกอร์แล้ว จะมีโอกาสได้คืนน้อยมาก
- ผู้ประกอบการไทยควรติดต่อกับคู่ค้าผ่านช่องทางอื่นๆ นอกจากทางอีเมลด้วย เพื่อความมั่นใจว่าได้ติดต่อกับคู่ค้าที่แท้จริง เช่น โทรศัพท์ โทรสาร ฯลฯ
- ควรตั้งค่ารหัสผ่านอีเมลที่ยากต่อการคาดเดา เปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะ และการเช็กอีเมลควรดูตำแหน่ง URL ให้ดี หากพบความผิดปกติไม่ควรใส่รหัสผ่าน
- ไม่ควรใช้อีเมลของบริษัทลงทะเบียนเว็บไซต์สาธารณะ และเว็บไซต์ที่ไม่น่าไว้วางใจ
- ควรแยกอีเมลที่ใช้ติดต่อทางธุรกิจ กับอีเมลที่ใช้ในงานทั่วไปอย่างชัดเจน