มีเดีย เซ็นเตอร์ ตั้งเป้าขึ้น Top 3 ส่ง ‘เติมดี’ เติมเงิน-ชำระบิล 100,000 ตู้ใน 2 ปี


เพราะมิได้จำกัดกรอบการทำธุรกิจอยู่แค่ตู้เติมเงิน ในสายตาของ คุณธัญญะ ดาวเรือง กรรมการผู้จัดการ บริษัท มีเดีย เซ็นเตอร์ จำกัด สิ่งที่เขาพัฒนาขึ้นนั้นคือ Gateway ผ่านตู้บริการอัตโนมัติ หรือที่เรียกว่าคีออสก์ ที่สามารถเลือกใส่สินค้าหรือบริการใดๆ ลงไปก็ได้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่อยู่ห่างไกล รวมทั้งกลุ่มคนที่ยังเข้าไม่ถึงบริการของธนาคารให้ได้มากที่สุด และนี่คือหนึ่งในจุดแข็งที่ทำให้ผู้ลงทุนตู้ ‘เติมดี’ ทำเงินได้อย่างต่อเนื่องไม่ว่าเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปอย่างไร และทำธุรกิจได้อย่างอุ่นใจว่าจะไม่ถูกลอยแพในระยะยาว

<< มีโนวฮาวพัฒนาตู้คีออสก์ได้ตามสั่ง
ถึงจะยังไม่ใช่แบรนด์อันดับ 1 ในตลาด ด้วยก้าวสู่สมรภูมิตู้เติมเงินมาได้เพียง 4 ปี แต่ความจริงคุณธัญญะไม่ใช่ผู้ประกอบการหน้าใหม่เลย เขามีประสบการณ์ในธุรกิจนี้ร่วม 20 ปี โดยเติบโตมากับตู้คาราโอเกะ-ตู้เพลงหยอดเหรียญ เมื่อคิดจะต่อยอดมาทำตู้คีออสก์แบบ Self-service ประเภทอื่นๆ จึงไม่ใช่เรื่องยากนัก และไม่หวั่นแม้ตลาดจะแข่งขันดุเดือดเพียงใด
“จุดแข็งคือเรามีความรู้ด้านเทคโนโลยี มีนวัตกรรมเครื่องหยอดเหรียญ/รับธนบัตรที่เชื่อถือได้ และมีความสามารถในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ตามความคิดได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะอยากให้ตู้มีฟีเจอร์หรือฟังค์ชั่นพิเศษอย่างไร เราสามารถคิดและทำได้ทันที ด้วยทีมค้นคว้า วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ รวมทั้งโรงงานผลิตที่ได้มาตรฐาน ทำให้เราสามารถแข่งขันได้ในตลาด ทั้งในเรื่องราคา คุณภาพ และฟังค์ชั่นการใช้งาน เปรียบเหมือนเราสามารถสร้างเรือเองได้ ก็ย่อมจะออกไปหาปลาจากแหล่งใหญ่ๆ ในทะเลได้ตามต้องการ ตลาดนี้ยังมีโอกาสอีกมาก”
ด้วยเหตุนี้ ไม่ว่าโลกเราจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร หรือบริการเติมเงินมือถืออาจจะล้มหายตายจากไปในอนาคต แต่คนที่ลงทุนตู้ ‘เติมดี’ ก็ยังคงทำธุรกิจได้อย่างสบายใจ เพราะมั่นใจว่าคุณธัญญะจะทรานสฟอร์มตู้คีออสก์ให้ทันสมัย และเป็นอะไรก็ได้ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคยุคนี้

<< อุ่นใจด้วยการรับประกันตลอดอายุการใช้งาน
สำหรับผลิตภัณฑ์ไฮไลท์ของ ‘เติมดี’ ที่ผู้คนนิยมลงทุนไปติดตั้งทำเงิน ตลอด 24 ชั่วโมง คือ ตู้เติมเงินและชำระบิล ในแง่ของผู้ผลิต คุณธัญญะบอกว่านี่เป็นระบบที่ดีที่สุดตั้งแต่ทำธุรกิจมา ในแง่ของผู้ลงทุน ตู้นี้มีโอกาสสร้างรายได้สูง แต่อัตราซ่อมบำรุงต่ำ ดูแลไม่ยุ่งยาก เพราะสินค้าและบริการเติมผ่านอากาศทั้งหมดนั่นเอง
“นอกจากความสามารถในการชำระบิลมากกว่า 140 รายการ อาทิ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าผ่อนสินเชื่อต่างๆ และยังสแกนบาร์โค้ดจ่ายได้โดยสะดวก ซึ่งแตกต่างจากตู้เติมเงินอื่นๆ แต่เหตุผลหลักที่คนเลือกลงทุนกับ ‘เติมดี’ คือ การรับประกันตลอดอายุการใช้งาน เราไม่ต้องการให้ตู้หยุดการทำงานเลย เพราะทุกๆ ทรานแซคชั่นสร้างรายได้ให้กับเจ้าของตู้ หากตู้เสียหายจากการงัดแงะ สูญหาย โจรกรรมหรือเกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติ เรายินดีเปลี่ยน-ซ่อมให้ฟรี หรือเอาตู้ใหม่ไปตั้งให้เลย หากลงทุนกับเราแล้ว มั่นใจได้ว่าคุณจะทำธุรกิจนี้ตลอดไป ไม่ต้องกังวล”
โดยบริษัทมีศูนย์ซ่อมกระจายอยู่ตามภูมิภาคกว่า 30 ศูนย์ รวมทั้งทีมซ่อมที่พร้อมให้บริการครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ ทั้งนี้ กำหนดไว้ว่าตู้จะต้องกลับมาใช้งานได้ภายใน 3 วัน กรณีที่เกินกำหนด คุณธัญญะยังยินดีชดเชยรายได้จริงที่หายไปให้ด้วย นอกจากตู้เติมเงินและชำระบิล ‘เติมดี’ ยังมีตู้หยอดเหรียญประเภทอื่นๆ อีกมากมาย เช่น ตู้น้ำหยอดเหรียญ ตู้น้ำมันหยอดเหรียญ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ฯลฯ ที่ตั้งให้บริการความสะดวกแก่ประชาชนระดับรากหญ้าทั่วประเทศ

<< เริ่มต้นลงทุน 32,500 บาท คืนทุน 1-2 ปี
ปัจจุบันตู้เติมเงินและชำระบิล ‘เติมดี’ หน้าจอ 10 นิ้ว มีให้เลือกลงทุน 2 รุ่นด้วยกัน คือ รุ่นโลว์คอร์ส 32,500 บาท กับ รุ่นสแตนดาร์ด 37,500 บาท กรณีทำธุรกิจนี้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ใดก็ตาม แต่ต้องการตู้ที่มีฟีเจอร์หรือฟังค์ชั่นที่แตกต่าง เพียงติดต่อมาที่บริษัท นอกจากจะได้รับตู้ใหม่ไปสร้างรายได้ ยังจะได้รับส่วนลดเพิ่มอีก 5,000 บาท
ในส่วนของรายได้นั้น คุณธัญญะบอกว่าขึ้นอยู่กับทำเลเป็นสำคัญ หากตั้งตู้ในทำเลที่มีผู้คนพลุกพล่านมากเท่าไร โอกาสในการทำเงินก็สูง เช่น ห้างสรรพสินค้า สถานีขนส่งมวลชน ร้านของชำในชุมชนใกล้ป้ายรถเมล์ เป็นต้น ทั้งนี้ รายได้เฉลี่ยของตู้อยู่ที่ 10% ของยอดการเติมเงินและชำระบิลผ่านตู้ โดยหากมีรายได้เดือนละ 4,000 บาท ใช้เวลา 10 เดือนหรือ 1 ปีก็คืนทุนแล้ว หรือหากมีรายได้เพียง 2,000 บาท ก็ใช้เวลาคืนทุน 2 ปี หลังจากนั้นเจ้าของตู้ก็จะเป็นเสือนอนกิน รับรายได้ยาวไป
“ชั่วโมงนี้ในตลาดมีตู้กว่า 300,000 ตู้ โดยเบอร์ 1 ครองมาร์เก็ตแชร์เกือบครึ่งหนึ่งของตลาด สำหรับ ‘เติมดี’ เรามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยเดือนละกว่า 1,500 ตู้ อันเนื่องมาจากความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่เพิ่มขึ้น โดยคาดว่าไม่เกิน 1 ปีนี้ เราจะมีตู้มากถึง 75,000 ตู้ และอีก 2 ปีข้างหน้า น่าจะเพิ่มจำนวนเกิน 100,000 ตู้แน่นอน เป้าหมายการขึ้น Top 3 จึงไม่ใช่เรื่องยาก เพราะเรามีมาร์เก็ตติ้งเน็ตเวิร์กที่แข็งแกร่ง เรามีผู้ดูแล 4 ท่าน ประจำ 4 ภูมิภาค ในแต่ละภูมิภาคยังมีแบ่งเป็นระดับเมเนเจอร์ ซูเปอร์ไวเซอร์ และเซลล์ ปัจจุบันเรามีเซลล์เกิน 500 คนแล้ว”

<< ปรับตัวและลงทุนเพิ่ม รับสังคมไร้เงินสด
คุณธัญญะเผยว่าแม้สังคมไทยจะเริ่มก้าวเข้าสู่สังคมไร้เงินสด (Cashless Society) แต่ตู้เติมเงินและชำระบิลยังคงจำเป็นอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลที่ประชาชนเข้าไม่ถึงบริการธนาคาร ทั้งยังไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้ ด้วยตัวตู้ตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบาย ประหยัดเวลา ไม่ต้องเดินทางไกล วันนี้ถึงจะมีตู้ติดตั้งในตลาดกว่า 300,000 ตู้ ทว่าก็ยังไม่ทั่วถึง ยังคงมีอีกหลายพื้นที่ที่รอสนองนีดอยู่
“เราตั้งใจจะพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์ผู้ใช้งานมากที่สุด และเชื่อมโยงคน 2 กลุ่มเข้าหากันด้วยระบบของเรา คือคนยุคใหม่ที่ใช้ QR Code, e-Money กับคนระดับชุมชนพื้นฐานที่ยังคงใช้เงินสด เช่น นักเรียน พ่อค้าแม่ค้า กลุ่มอาชีพอิสระ แรงงานต่างขาติ ฯลฯ เราจึงได้เปิดบริษัทลูกขึ้นมาคือ บริษัท อีเพย์เมนท์ โพรไวเดอร์ ซิสเท็ม จำกัด ด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านบาท เพื่อสนองนโยบาย Cashless Society ของรัฐบาล และรองรับการทำธุรกรรมทางการเงิน e-Money ในอนาคต
ในปีนี้นอกจากเครื่องชั่งน้ำหนักออนไลน์ เครื่องชาร์จพาวเวอร์แบงก์ ที่เป็นสินค้าใหม่ เรายังจะเปิดตัวตู้ Smart Pay ซึ่งเราพัฒนาต้นแบบเสร็จเมื่อ 2 ปีที่แล้ว หากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุมัติให้เปิดระบบในปีนี้ เราวางแผนจะกระจายติดตั้งตู้ทั่วประเทศ 1 หมู่บ้านต่อ 1 ตู้ ความพิเศษของตู้ Smart Pay คือฟังค์ชั่นการรับและถอนเงินสด เหมาะสำหรับพื้นที่ห่างไกลที่ยังไม่มีเครื่องเอทีเอ็มให้บริการ ทำให้ประชาชนไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลา เดินทางเข้าเมืองไปทำธุรกรรมให้ลำบาก รวมทั้งจะเปิดโอกาสให้ร่วมลงทุนในลักษณะแฟรนไชส์ เพื่อร่วมกันกระจายบริการให้เข้าถึงท้องถิ่นมากขึ้น”

<< ก้าวต่อไปเชื่อมโยงระบบทั่วทั้งอาเซียน
คุณธัญญะไม่เพียงภาคภูมิใจที่มีส่วนยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย แต่เขายังได้นำตู้เติมเงินและชำระบิล ‘เติมดี’ ฝีมือการพัฒนาของคนไทย ไปขยายตลาดในต่างแดนด้วย ประเดิมที่ตลาด สปป.ลาว ที่มีภาษาและวัฒนธรรมที่ใกล้เคียงกันก่อน โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีด้านระบบทั้งหมด แล้วให้พาร์ทเนอร์นำไปกระจายให้ประชาชนคนลาวได้สัมผัสความแปลกใหม่ และใช้งานกันโดยสะดวก
“ทาง สปป.ลาว ต้องการจำหน่ายหวยออนไลน์ผ่านตู้ด้วย เราก็จัดการพัฒนาแพลตฟอร์มให้ตามต้องการ ปัจจุบันมีการสั่งตู้เติมเงินและชำระบิลไปแล้ว 150 ตู้ ใช้งานจริงแล้ว 100 ตู้ที่เวียงจันทน์ จากนี้เราจะเริ่มดีลกับประเทศอื่นๆ ต่อ วิชั่นของเราคือ มุ่งสู่ความเป็นเลิศในระดับอาเซียน โดยมีเป้าหมายจะสร้างระบบรองรับกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ภายใน 5 ปี และเมื่อเปิดการค้าเสรี 100% น่าจะมีการเติมเงินและชำระบิลข้ามประเทศกันได้ เพราะระบบเราเชื่อมโยงถึงกันทั้งอาเซียน”
ธุรกิจตู้คีออสก์แบบ Self-service จึงยังน่าลงทุน และมีโอกาสเติบโตอีกมากทั้งในและต่างประเทศ โดยบริษัทพร้อมดูแลผู้ลงทุนตลอด ไม่มีทอดทิ้ง ทั้งนี้ คุณธัญญะเผยว่า ‘ความซื่อสัตย์’ และ ‘เชื่อถือได้’ คือสิ่งที่บริษัทยึดมั่น และปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยเท่าเทียม เพื่อให้ทุกคนเติบโตไปด้วยกันอย่างมีความสุข
สนใจลงทุนสอบถามได้ที่ โทร 02-105-4418