IoMT เทคโนโลยีเปลี่ยนเกมโลกการแพทย์ เชื่อมสุขภาพคุณสู่อนาคต

หลายคนอาจเคยได้ยินเกี่ยวกับ IoT หรือ Internet of Things กันมาบ้างแล้ว แต่คุณเคยได้ยินเกี่ยวกับ Internet of Medical Things (IoMT) หรือยัง IoMT เป็นเครือข่ายของอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรวบรวมและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านสุขภาพระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ ทำให้การรักษามีความแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางไปโรงพยาบาล

IoMT สามารถทำอะไรได้บ้าง

  • เชื่อมต่ออุปกรณ์ทางการแพทย์ – เช่น เครื่องวัดความดันโลหิต เครื่องวัดระดับน้ำตาลในเลือด และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด เพื่อส่งข้อมูลไปยังคลาวด์หรือแอปพลิเคชันที่แพทย์สามารถเข้าถึงได้
  • ติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ – แชร์ข้อมูลสุขภาพกับแพทย์ทันที เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและการตัดสินใจรักษา
  • วิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพ – ระบบสามารถรวบรวมและประมวลผลข้อมูล เพื่อให้แพทย์ใช้วางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม
  • ติดตามผู้ป่วยที่มีโรคเรื้อรัง – เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลต่อเนื่อง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคหัวใจ

ข้อดีของ IoMT

  • การดูแลผู้ป่วยที่ดีขึ้น – ด้วยการติดตามสุขภาพแบบเรียลไทม์ ทำให้สามารถตรวจพบอาการผิดปกติได้ตั้งแต่ระยะแรกเริ่ม และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการโรค
  • การปรับปรุงกระบวนการดูแลสุขภาพ – ช่วยให้ระบบการติดตามและวินิจฉัยทำงานได้อย่างอัตโนมัติ
  • การลดต้นทุน – ลดค่าใช้จ่ายในการดูแลสุขภาพ เช่น การเข้าโรงพยาบาลที่ไม่จำเป็น และลดระยะเวลาการพักรักษาตัว

ตัวอย่างอุปกรณ์และนวัตกรรมที่ใช้ระบบ IoMT จากทั่วโลก ซึ่งแสดงถึงความก้าวหน้าในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในวงการแพทย์

1. Medtronic Guardian Connect เป็นระบบติดตามระดับน้ำตาลในเลือดแบบต่อเนื่อง (Continuous Glucose Monitoring – CGM) สำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อุปกรณ์นี้สามารถส่งข้อมูลระดับน้ำตาลไปยังสมาร์ตโฟนแบบเรียลไทม์ และแจ้งเตือนผู้ใช้งานเมื่อระดับน้ำตาลสูงหรือต่ำผิดปกติ
2. Philips HealthSuite แพลตฟอร์มคลาวด์ที่รวบรวมข้อมูลจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น เครื่องวัดความดันโลหิต และเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด ช่วยให้แพทย์สามารถติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. Apple Watch นาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Electrocardiogram – ECG) และตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เช่น ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation) โดยข้อมูลจะถูกส่งไปยังแอปพลิเคชันสุขภาพและสามารถแชร์กับแพทย์ได้
4. Propeller Health อุปกรณ์สำหรับผู้ป่วยโรคหืดและโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) ทำงานร่วมกับเครื่องพ่นยาและบันทึกข้อมูลการใช้ยา ช่วยให้แพทย์ติดตามการรักษาและปรับปรุงการดูแลผู้ป่วยได้
5. Omron HeartGuide สมาร์ตวอทช์ที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องวัดความดันโลหิตแบบพกพา สามารถวัดค่าความดันโลหิตได้ทุกที่ทุกเวลา และส่งข้อมูลไปยังสมาร์ตโฟนเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของสุขภาพหัวใจ
6. AliveCor KardiaMobile อุปกรณ์พกพาสำหรับตรวจ ECG ซึ่งผู้ใช้สามารถวางนิ้วบนเซ็นเซอร์เพื่อตรวจวัดภาวะหัวใจเต้นผิดปกติในไม่กี่วินาที ข้อมูลนี้สามารถส่งตรงถึงแพทย์เพื่อการวินิจฉัยเพิ่มเติม
7. Biotronik BioMonitor 2 อุปกรณ์ฝังในร่างกายสำหรับตรวจสอบการทำงานของหัวใจและการเต้นผิดปกติ ข้อมูลจะถูกส่งไปยังแพทย์ผ่านเครือข่าย IoMT เพื่อให้การดูแลเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
8. Fitbit Sense อุปกรณ์สวมใส่อัจฉริยะที่ตรวจจับความเครียด อุณหภูมิของผิวหนัง และอัตราการเต้นของหัวใจแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถติดตามสุขภาพโดยรวมและแชร์ข้อมูลกับผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ
9. Tytocare อุปกรณ์ตรวจสุขภาพที่บ้าน เช่น ตรวจหู ตรวจคอ หรือฟังเสียงปอด ข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปยังแพทย์ผ่านแอปพลิเคชัน ทำให้การตรวจสุขภาพเบื้องต้นสะดวกขึ้น
10. NeuroPace RNS System อุปกรณ์ฝังในสมองสำหรับผู้ป่วยโรคลมชัก โดยจะตรวจจับสัญญาณผิดปกติในสมองและส่งสัญญาณไฟฟ้าเพื่อควบคุมการชัก ข้อมูลยังสามารถส่งไปยังแพทย์เพื่อการปรับแต่งการรักษา

สำหรับ IoMT จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำคัญในระบบการแพทย์ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ด้วยจำนวนประชากรสูงวัยที่เพิ่มขึ้น การพัฒนา IoMT จะช่วยให้การดูแลสุขภาพผู้สูงอายุมีประสิทธิภาพและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงช่วยติดตามสุขภาพอย่างใกล้ชิด แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย