ในช่วงที่ผ่านมา แม้ว่าบนสื่อสังคมออนไลน์จะมีการพูดถึงกระแสการประหยัดของคนหนุ่มสาวในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หรือแนวโน้มการใช้จ่ายน้อย (Low Buy, No Buy) ซึ่งเน้นการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น การซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย กิจกรรมสันทนาการ การทานอาหารนอกบ้าน และการซื้อสินค้าโปรโมชั่นลดราคา อย่างไรก็ตาม รายงานการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคในจีนเผยว่า คนหนุ่มสาวจีนส่วนใหญ่ไม่ได้ลดการบริโภคลง แต่กลับให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายอย่างชาญฉลาดและมีคุณค่ามากขึ้น โดยเน้นการใช้จ่ายเพื่อสร้างประสบการณ์และพัฒนาตนเอง
แนวโน้มการยกระดับการบริโภคในกลุ่มอายุ
ผลสำรวจพบว่าคนหนุ่มสาวในช่วงอายุต่างๆ มีแนวโน้มยกระดับการบริโภคสูงขึ้น ดังนี้
• อายุ 16-25 ปี: ร้อยละ 76.7
• อายุ 26-30 ปี: ร้อยละ 67.5
• อายุ 31-35 ปี: ร้อยละ 64.1
• อายุ 36-40 ปี: ร้อยละ 63.3
พฤติกรรมการบริโภคนี้สะท้อนให้เห็นว่าคนรุ่นใหม่ไม่ได้ต้องการลดค่าใช้จ่ายเพียงเพราะภาวะเศรษฐกิจ แต่พวกเขากลับให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของเงินที่ใช้ไปมากขึ้น
การยกระดับการบริโภคในเมืองต่างๆ
กระแสนี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเมืองใหญ่ระดับ Tier 1 เช่น ปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ กวางโจว และเซินเจิ้นเท่านั้น แต่ยังขยายไปสู่เมืองรอง Tier 1 อย่าง อู่ฮั่น ซูโจว และฉางซา โดยพบอัตราการยกระดับการบริโภคสูงในเมืองเหล่านี้
• อู่ฮั่น: ร้อยละ 84.6
• ซูโจว: ร้อยละ 81.8
• ฉางซา: ร้อยละ 76.9
• หางโจว: ร้อยละ 75.0
• เซี่ยงไฮ้: ร้อยละ 73.5
• ปักกิ่ง: ร้อยละ 72.8
เมืองเหล่านี้มีไลฟ์สไตล์ที่ดึงดูดคนรุ่นใหม่ พวกเขายินดีจ่ายเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกซื้อสินค้าคุณภาพสูง การแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆ หรือการดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่
พฤติกรรมการยกระดับการบริโภคในกลุ่มหนุ่มสาว
1. ไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป
ผลสำรวจชี้ว่าการยกระดับไลฟ์สไตล์ของคนหนุ่มสาวมุ่งไปที่
• เครื่องแต่งกาย (ร้อยละ 26.8)
• การทานอาหารนอกบ้าน (ร้อยละ 26.6)
• การดื่มกาแฟ (ร้อยละ 25.7)
• การดูแลตัวเอง (ร้อยละ 22.7)
• การทำอาหารและขนม (ร้อยละ 22.4)
พวกเขาให้ความสำคัญกับเสื้อผ้าคุณภาพสูง อาหารจากร้านอาหารที่มีมาตรฐาน และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่ช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิต
2. งานอดิเรกและเทคโนโลยี
สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เกม และของเล่นที่กำลังเป็นกระแส เป็นหมวดหมู่ที่คนหนุ่มสาวยินดีจ่าย โดยมองว่าเป็นการลงทุนเพื่อความบันเทิงและการเข้าสังคม
3. การสร้างประสบการณ์ใหม่
คนหนุ่มสาวจีนให้ความสำคัญกับการใช้จ่ายเพื่อประสบการณ์ เช่น
• การเดินทางและท่องเที่ยว (เกือบร้อยละ 50)
• การเข้าชมคอนเสิร์ตและเทศกาลดนตรี ซึ่งเป็นกิจกรรมยอดนิยมที่ไม่เพียงให้ความบันเทิง แต่ยังช่วยเชื่อมโยงทางสังคม
4. การลงทุนในตนเอง
คนรุ่นใหม่มีแนวโน้มใช้จ่ายเพื่อพัฒนาตนเองในด้านต่างๆ ดังนี้
• พัฒนาความรู้: ร้อยละ 35.3
• ฟิตเนสและดูแลสุขภาพ: ร้อยละ 33.3
• เพิ่มทักษะการทำงาน: ร้อยละ 24.5
• การฝึกอบรมต่างๆ: ร้อยละ 10.0
• การปรึกษาสุขภาพจิต: ร้อยละ 5.3
ความแตกต่างระหว่างเพศในการบริโภค
พฤติกรรมการบริโภคระหว่างชายและหญิงมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน
• ผู้ชาย มีแนวโน้มใช้จ่ายเป็นสองขั้ว คือ ไม่ใช้จ่ายเลย หรือ จ่ายหนัก โดยเน้นไปที่สินค้าเทคโนโลยี กิจกรรมกลางแจ้ง ออกกำลังกาย เกม และการท่องเที่ยว
• ผู้หญิง ส่วนใหญ่มากกว่าร้อยละ 90 ใช้จ่ายเพื่อยกระดับการใช้ชีวิต เช่น เข้าร่วมคอนเสิร์ต ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและความสวยงาม สนใจการท่องเที่ยว และแนวคิด “มูเตลู” หรือการเสริมดวง
โอกาสทางธุรกิจสำหรับไทย
จากพฤติกรรมการบริโภคของคนหนุ่มสาวจีนที่เน้นคุณภาพและประสบการณ์มากขึ้น นี่อาจเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจไทย
• การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: คนหนุ่มสาวจีนสนใจการท่องเที่ยวที่ไม่ใช่แค่การพักผ่อน แต่ต้องมีการเรียนรู้วัฒนธรรมและสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่าง
• สินค้าไทยคุณภาพสูง: สินค้าเพื่อสุขภาพ อาหารพรีเมียม และผลิตภัณฑ์ดูแลตัวเองจากไทย มีโอกาสเติบโตในตลาดจีน
• การศึกษาควบคู่กับการท่องเที่ยว: หลักสูตรระยะสั้นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย อาหารไทย และศิลปะแบบดั้งเดิม อาจเป็นตลาดที่เติบโตได้
สรุป คนหนุ่มสาวจีนไม่ได้ใช้จ่ายน้อยลง แต่ใช้จ่ายอย่างคุ้มค่ามากขึ้น
จากแนวโน้มนี้แสดงให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่ไม่ได้ลดค่าใช้จ่ายโดยสิ้นเชิง แต่พวกเขามุ่งเน้นไปที่คุณค่าที่ได้รับจากการใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ คุณภาพชีวิต หรือการพัฒนาตนเอง ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญสำหรับภาคธุรกิจที่ต้องการเจาะตลาดผู้บริโภครุ่นใหม่ในจีน
ในอนาคต ตลาดผู้บริโภคจีนจะเน้นไปที่ “คุณภาพมากกว่าปริมาณ” ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจและการค้าในระยะยาว ดังนั้น ธุรกิจที่สามารถตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพวกเขาได้ จะมีโอกาสเติบโตและสร้างความสำเร็จในตลาดจีนได้อย่างแน่นอน
ข้อมูลจาก: สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองชิงต่าว
Post Views: 430
