สงครามการค้า

SME ไทย กว่า 4,000 ราย ถูกผลกระทบแบบจัดเต็มจากทรัมป์เก็บภาษี

ธนาคารแห่งประเทศ วิเคราะห์ผลกระทบเบื้องต้นของนโยบายการค้าโลกต่อเศรษฐกิจไทย เผยกลุ่ม SME ไทยที่ต้องปรับตัว หากสหรัฐฯ มีมาตรการเก็บภาษีสินค้านำเข้า โดยแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังต่อไปนี้ 1.กลุ่ม sectoral tariff เป็นสินค้าในหมวดยานยนต์และชิ้นส่วน (รวมล้อยาง) เหล็กและอะลูมิเนียม มี SME จำนวน 363 ราย มูลค่าเพิ่มการส่งออกคิดเป็น 0.9% ต่อ GDP โดยอัตราภาษีนำเข้าก่อนวันที่ 20 ม.ค.68 คิดเป็น 2.4% ส่วนอัตราที่คิดเพิ่มขึ้น (ณ 17 เม.ย.68) อยู่ที่ +25% 2.กลุ่ม reciprocal tariff (เลื่อนการเก็บภาษีออกไป 90 วัน) เป็นสินค้าในหมวดเครื่องจักร เครืองจักรไฟฟ้า เกษตรและเกษตรแปรรูป ปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ สิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม และอื่น ๆ มี SME จำนวน 4,437 ราย […]

ทรัมป์ประกาศยังไม่ยกเว้นภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ตามที่เป็นข่าว

เมื่อวันที่ 11 เม.ย. ที่ผ่านมา จีนได้ตอบโต้ประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่มอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ขึ้นเป็น 125% จากเดิม 84% มาตรการตอบโต้มีผลบังคับใช้ในวันที่ 12 เม.ย. ส่งผลให้สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนรุนแรงยิ่งขึ้น โดยหุ้นสหรัฐฯ ร่วงลง เนื่องจากภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มสูงถึง 145% แม้ว่าทรัมป์จะประกาศเลื่อนการขึ้นภาษีกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป และประเทศอื่น ๆ ที่ไม่มีมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ออกไป 90 วัน อย่างไรก็ตาม ทรัมป์และที่ปรึกษาคนสำคัญสร้างความสับสนในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อมีการเปิดเผยว่าสหรัฐฯ ได้ยกเว้นภาษีสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งการนำเข้าสมาร์ตโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์ไอที Howard Lutnick รัฐมนตรีกระทรวงพาณฺชย์สหรัฐฯ กล่าวว่าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จะถูกรวบรวมอยู่ในอัตราภาษีซึ่งจะแยกจากการเรียกเก็บกับบางประเทศเร็ว ๆ นี้ ขณะเดียวกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ทวีความสับสนขึ้นไปอีก เมื่อโพสต์ยาวเหยียดบนโซเชียลมีเดียเมื่อวันที่ 13 เม.ย. ว่า “ไม่มีข้อยกเว้น” สำหรับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ “เรากำลังดูเซมิคอนดักเตอร์ และห่วงโซ่อุปทานอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดในการสอบสวนภาษีศุลกากรเพื่อความมั่นคงแห่งชาติที่กำลังจะเกิดขึ้น” […]

เป็นคนเกินร้อย! ทรัมป์เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 104% หากไม่หยุดตอบโต้

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เตรียมจัดเก็บภาษีาสินค้านำเข้าจากจีนสูงถึง 104% เพื่อกดดัน และตอบโต้จีนออกมาตรการที่เก็บภาษีสินค้าจากสหรัฐฯ 34% สัญญาณเรื่องสงครามการค้าระอุขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะประเทศมหาอำนาจทั้งสหรัฐฯ และจีน โดยก่อนหน้านี้จีนเตรียมจะขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ อีก 34% ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการตอบโต้ทรัมป์ แต่สหรัฐฯ ได้แสดงท่าทีตอบโต้กลับไปว่าจะขึ้นภาษีอีก 50% หากจีนไม่ยอมถอนมาตรการนี้ออกไปในวันที่ 8 เมษายน “ถ้าจีนไม่ประกาศยกเลิกมาตรการภาษีตอบโต้สหรัฐฯ 34% สหรัฐฯ จะขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 50% ในวันที่ 9 เม.ย.” ทรัมป์ กล่าว อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีพาณิชย์จีน กล่าวว่า เราคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 50% โดยเรียกเรื่องนี้ว่าเป็น “ความผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า” กระทรวงฯ สัญญาว่าจะเพิ่มการตอบโต้สินค้าส่งออกของสหรัฐฯ ที่มา: cnn เรื่องที่เกี่ยวข้อง โดนหนัก! เปิดโผ 15 สินค้าไทยรับผลกระทบแบบจุกๆ หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า

----------------

ทรัมป์ “สั่งเก็บ” แต่ละประเทศโดนภาษีนำเข้าไปเท่าไหร่

โดนหนัก! เปิดโผ 15 สินค้าไทยรับผลกระทบแบบจุกๆ หลังสหรัฐฯ ขึ้นภาษีนำเข้า

หลังจากโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากประเทศต่าง ๆ ในอัตราใหม่ รวมถึงประเทศไทยที่โดนจัดเก็บ 36% จนนำมาสู่ความกังวลเกี่ยวกับการส่งออกสินค้าไทยไปยังสหรัฐฯ ว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร สำหรับสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 มีสัดส่วนคิดเป็น 18% โดยในปี 2567 มีมูลค่า 54,956 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนสหรัฐฯ เป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 4 ของไทย มีสัดส่วนราว 6% ของมูลค่านำเข้าทั้งหมด คิดเป็นมูลค่า 19,529 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งไทยเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯ คิดเป็น 35,428 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยกระทรวงพาณิชย์มีการคาดการณ์สินค้าที่จะได้รับผลกระทบเมื่อนโยบายนี้ดำเนินการทั้งหมด 15 รายการดังต่อไปนี้ 1 โทรศัพท์มือถือ 2. ชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ 3. ยางรถยนต์ 4. เซมิคอนดัคเตอร์ 5. หม้อแปลงไฟฟ้า 6. ชิ้นส่วนอุปกรณ์การพิมพ์ 7. ชิ้นส่วนรถยนต์ 8. อัญมณี […]

เพราะอะไร? เมนู “อเมริกาโน่” ในแคนาดาถูกเปลี่ยนชื่อเป็น “แคนาเดียโน่”

ร้านกาแฟในแคนาดาสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าได้ตื่นตาตื่นใจ หลังเปลี่ยนชื่อเมนู “อเมริกา โน่” เป็น “แคนาเดียโน่” เอาใจลูกค้าที่อยากบอยคอตสินค้าสหรัฐฯ จากความไม่พอใจที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นเป็น 25% เครื่องดื่ม “อเมริกาโน่” กำลังได้รับการรีแบรนด์ โดยไม่ใช่การปรับเปลี่ยนสูตร หรือวัตถุดิบตามฤดูกาลแต่อย่างไร แต่เป็นการเรื่องของวัฒนธรรมที่เป็นชนวนกลายเป็นประเด็นพูดถึงอย่างกว้างขวาง ซึ่งจุดเริ่มต้นเกิดจากร้านกาแฟ Kicking Horse Café ในแคนาดามีการโพสต์ IG ว่า เป็นระยะเวลา 16 ปี ที่ร้านเรียกกาแฟ Americano อย่างเงียบ ๆ ว่า “Canadianos” ในวันนี้ เราประกาศให้กาแฟชนิดนี้กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมอย่างเป็นทางการ และขอให้ร้านกาแฟทั่วประเทศเปลี่ยนมาใช้ชื่อนี้ แม้ในช่วงแรกจะเป็นเรื่องสนุกสนาน แต่หลังจากร้านโพสต์คำว่า “Canadiano” กลายเป็นคำที่แชร์อย่างแพร่หลายทางโลกออนไลน์เป็นการกระตุ้นบริบทเกี่ยวกับอัตลักษณ์, วัฒนธรรมอาหาร ไม่เว้นแม้กระทั้งการสั่งกาแฟก็มีความหมายได้ ซึ่งร้านกาแฟบางแห่งก็รับแนวคิดนี้ไป “Canadiano” ไม่ได้เป็นแค่เมนูเครื่องดื่มภายในร้านกาแฟเท่านั้น แต่ถูกนำไปใช้กับการสร้างแบรนด์ในช่วงสภาวะความตึงเครียดทางการเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะเรื่องสงครามการค้าที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ มีนโยบายที่จะเก็บสินค้านำเข้าที่มาจากแคนาดาเพิ่มขึ้นเป็น 25% ที่มา: forbes เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ […]

ศึกภาษีเดือด! จีนเอาคืนสหรัฐฯ เพิ่มภาษีสินค้าการเกษตร

สถานการณ์ความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสองมหาอำนาจ สหรัฐฯ และจีน กำลังร้อนแรงขึ้นอีกระลอก หลังจากรัฐบาลจีนประกาศตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีเพิ่มเติมต่อสินค้าทางการเกษตรและการประมงจากสหรัฐฯ โดยมาตรการนี้เป็นการตอบสนองต่อภาษีศุลกากรใหม่ที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดขึ้นเพื่อลดการนำเข้าจากจีน จีนระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคมเป็นต้นไป จะมีการเก็บภาษี เพิ่มอีก 15% สำหรับการนำเข้าไก่ ข้าวสาลี ข้าวโพด และสินค้าอื่นๆ จากสหรัฐฯ ขณะที่ สินค้าสำคัญอย่างถั่วเหลือง เนื้อหมู เนื้อวัว อาหารทะเล ผัก และผลไม้ จะถูกเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม 10% การตัดสินใจนี้ถือเป็นการกดดันกลับไปยังสหรัฐฯ โดยตรง หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์เริ่มใช้มาตรการภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์ แต่จีนไม่ได้หยุดแค่การขึ้นภาษีสินค้าเกษตรเท่านั้น ก่อนหน้านี้ จีนได้ออกมาตรการภาษีเพิ่มเติมกับ ถ่านหินและก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของสหรัฐฯ และล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ของจีนยังได้ยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังองค์การการค้าโลก (WTO) โดยระบุว่าสหรัฐฯ ละเมิดกฎของ WTO อย่างร้ายแรง นอกจากภาษี จีนยังแบนบริษัทอเมริกัน ไม่เพียงแต่จะเล่นงานทางเศรษฐกิจผ่านมาตรการภาษี จีนยังออกมาตรการคว่ำบาตร บริษัทอเมริกัน 10 แห่ง โดยห้ามทำการค้ากับจีน หลังจากถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขายอาวุธให้กับไต้หวัน นอกจากนี้ […]

นักวิชาการธรรมศาสตร์ จับตา ‘สหรัฐฯ’ ใกล้ชิด ไทย’ ไม่กระทบจากสงครามการค้า แต่ยังมีความเสี่ยงกับ 2 นโยบาย ‘ทรัมป์’

นักวิชาการธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ผลพวงสงครามการค้าสหรัฐฯ ชี้ ‘ไทย’ ยังไม่ได้รับกระทบจาก โดยตรง เหตุ “ทรัมป์” พุ่งเป้าไปที่ประเทศปัญหา ‘ยาเสพติด-เข้าเมืองผิดกฎหมาย’ เป็นลำดับแรก แต่ในทางอ้อมการขึ้นภาษีสินค้าจีน 10% อาจทำให้คำสั่งการผลิตในไทยลดลงได้ แนะจับตาอีก 2 มาตรการที่ยังไม่ประกาศ “ขึ้นภาษีสินค้าจากประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ – มาตรการกีดกันการค้าจากสหรัฐฯ” หากใช้จริง ไทยอาจตกเป็นเป้าหมายด้วย จากนโยบายการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เตรียมขึ้นภาษีสินค้าจาก 3 ประเทศ ได้แก่ จีน 10% และแคนาดา เม็กซิโก 25% โดยสองประเทศหลังนี้ ยังชะลอออกไปก่อนนั้น ดร.ปองขวัญ สวัสดิภักดิ์ อาจารย์สาขาการระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เปิดเผยว่า หากพิจารณาแค่ในบริบทของการประกาศขึ้นภาษีสินค้าจาก 3 ประเทศ ตามที่ทรัมป์ประกาศ พบว่าไทยคงยังไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง เนื่องจากไทยยังไม่ใช่เป้าหมายของการขึ้นกับแพงภาษีของทรัมป์ในรอบนี้ ทั้งนี้ หากพิจารณาถึงเป้าหมายในการขึ้นภาษีสินค้าในรอบนี้ คือพิจารณาคำสั่งฝ่ายบริหารอย่างละเอียดแล้ว จะพบว่าทรัมป์ให้ความสำคัญไปที่ปัญหาคนเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมายและยาเสพติดมากกว่า […]

จับตา 10 เทรนด์เศรษฐกิจโลก ส่อแววกระทบสิงคโปร์ ปี 68

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์ (Ministry of Trade and Industry: MTI) คาดการณ์ว่าในปี 2568 อัตราการเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริง (Real GDP) จะอยู่ระหว่าง 1% ถึง 3% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ในปี 2567 ที่ 4% แนวโน้มนี้สะท้อนถึงความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยมีปัจจัยสำคัญ ได้แก่ ความขัดแย้งทางการค้า ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ และผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานโลกที่ส่งผลกระทบต่อสิงคโปร์ 1. สงครามการค้า (Trade War) นโยบายการค้าของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีคนใหม่ในปี 2568 มีแนวโน้มสร้างแรงกดดันต่อเศรษฐกิจโลก โดยการจัดเก็บภาษีศุลกากรที่เข้มงวดอาจทำให้ต้นทุนสินค้านำเข้าและส่งออกทั่วโลกสูงขึ้น แม้ว่าสิงคโปร์จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่การลดลงของอุปสงค์ทั่วโลกจะส่งผลกระทบต่อปริมาณการค้า ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจสิงคโปร์ 2. การเติบโตที่ช้าลงของจีน (Slower Growth in China) เศรษฐกิจของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้าสำคัญของสิงคโปร์ กำลังเผชิญกับความท้าทาย อัตราการเติบโตของ GDP ของจีนคาดว่าจะลดลงเหลือ 5% ในปี 2568 […]

เวียดนามเสี่ยงตกเป็นเป้า สงครามการค้าของสหรัฐฯ

การดำเนินนโยบายตอบโต้ทางการค้าจีนของสหรัฐฯ ในช่วงการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ สมัยแรก ส่งผลให้เวียดนามกลายเป็นจุดหมายสำคัญสำหรับการย้ายฐานการผลิตของผู้ประกอบการหลายราย เช่น Apple, Nike และ Gap เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้าสินค้าสูงจากสหรัฐฯ นอกจากนี้ Nvidia ยังวางแผนที่จะเปิดศูนย์วิจัยและพัฒนา AI ในเวียดนาม ขณะที่ Samsung ก็ได้ลงทุนกว่า 22 พันล้านดอลลาร์ในเวียดนาม หลังจากที่ทรัมป์เริ่มเก็บภาษีสินค้าจีนเมื่อ 6 ปีก่อน เศรษฐกิจของเวียดนามเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี โดยเฉพาะการขยายตัวของมูลค่าการลงทุนทางตรงระหว่างประเทศ (Foreign Direct Investment หรือ FDI) และมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นสูงอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ปัจจุบันสินค้าส่งออกจากเวียดนามมีส่วนแบ่งตลาดในสหรัฐฯ สูงหลายรายการ เช่น รองเท้ากีฬาราวหนึ่งในสาม เตียงและโต๊ะกินข้าวไม้ราวครึ่งหนึ่ง และเซลล์และแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ราวหนึ่งในสี่ของมูลค่าตลาดทั้งหมดในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากแนวนโยบายทางการค้าของ Mr. Jamieson Greer ผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับตำแหน่งผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (U.S. Trade Representative) คนใหม่ ที่ต้องการให้สหรัฐฯ เพิ่มมาตรการที่เข้มงวดเพื่อยับยั้งสินค้าจีนที่ส่งออกผ่านประเทศที่ 3 เพื่อไปยังสหรัฐฯ […]

สหรัฐฯโต้ จีน ผ่านการดันภาษีนำเข้าโซลาร์เซลล์ใหม่ คาดส่งผลให้ราคาสูงขึ้น

สำนักงานการค้าระหว่างประเทศ (International Trade Administration) สังกัดกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ได้เผยแพร่ผลการพิจารณาในขั้นต้น (Preliminary Determination) ต่อกรณีข้อร้องเรียนจาก “คณะกรรมการการค้าการผลิตโซลาร์เซลล์สหรัฐฯ (American Alliance for Solar Manufacturing Trade Committee) ได้กล่าวหาว่าบริษัทผู้ผลิตโซลาร์เซลล์สัญชาติจีน ซึ่งมีโรงงานสถานที่การผลิตตั้งอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยระบุเจาะจง 4 ประเทศ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม กัมพูชา และประเทศไทย เป็นต้นเหตุที่ทำให้ราคาสินค้าโซลาร์เซลล์ในตลาดโลกร่วงอย่างน่าตกใจ อันเป็นผลมาจากการทุ่มตลาดการการส่งออกมายังสหรัฐฯ” กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯโดยสำนักงานการค้าระหว่างประเทศได้เริ่มดำเนินการไต่สวนข้อกล่าวหาดังกล่าวมาตั้งแต่ช่วงกลางปีนี้เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยได้เลื่อนกำหนดการพิจารณาในขั้นต้นมาจากวันที่ 17 กันยายน มาเป็นเมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน กระทั่งได้เผยแพร่ข้อมูลผลการพิจารณาในขั้นต้นฉบับเต็มในระบบเผยแพร่กฎระเบียบกลางของสหรัฐฯ (Federal Register) เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมนี้ ใจความสำคัญของผลการพิจารณาครั้งนี้คือการชี้ว่าสินค้าโซลาร์เซลล์จากประเทศไทยและอีกจาก 3 ประเทศ มีพฤติการณ์หรือเข้าข่ายนำเข้าสินค้ามาและจำหน่ายในสหรัฐฯใน “มูลค่าที่ไม่เป็นธรรม” (Less-Than-Fair-Value: LTFV) เป็นผลให้กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯโดยสำนักงานการค้าระหว่างประเทศได้กำหนดส่วนเหลื่อมราคาทุ่มตลาดเฉลี่ย (Weighted Average Dumping Margin) […]