TECH

ส่องรายได้พนักงาน Google-Facebook แต่ละตำแหน่งได้เงินเดือนเฉลี่ยต่อปีเท่าไหร่

Google และFacebook คือองค์กรที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ใครหลายคนใฝ่ฝันอยากจะเข้าไปทำงาน ด้วยประสบการณ์, ค่าตอบแทน, ความก้าวหน้าในอาชีพ ดังนั้น เรามาดูกันว่าแต่ละตำแหน่งงานใน Google และ Facebook จะมีฐานเงินเดือนเท่าไหร่บ้าง ตามรายงานของ PayScale ที่ได้สำรวจค่าจ้างของพนักงาน พบว่า เงินเดือนเฉลี่ยต่อปีของพนักงาน Google อยู่ที่ 114,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,439,380 บาท) ส่วนเงินเดือนเฉลี่ยต่อปีของพนักงาน Facebook จะสูงกว่าอยู่ที่ 119,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,590,230 บาท) หากลงรายละเอียดไปยังแต่ละตำแหน่งใน Google และFacebook จะพบว่ามีเงินเดือนเฉลี่ยต่อปี ดังต่อไปนี้ เงินเดือนตำแหน่ง software engineer ตำแหน่ง software engineer ของ Google ในซิดนีย์ มีรายได้เฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 115,827 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,494,500 บาท) อย่างไรก็ตาม รายได้ต่อปีในตำแหน่งนี้จะอยู่ที่ 76,000-152,000 […]

ถ้ากูเกิลไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาทำธุรกิจกับหัวเว่ย ทางออกของยักษ์ใหญ่จากจีนคืออะไร?

เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานคณะกรรมการบริหารของหัวเว่ย กล่าวกับ CNN เมื่อเร็ว ๆ นี้ ว่า หากกูเกิลไม่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ ให้กลับมาทำธุรกิจกับหัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งจะเป็นการกีดกันไม่ให้ดีไวซ์รุ่นใหม่ ๆ ของหัวเว่ยใช้ Google Mobile Services (GMS) บริษัทก็จำเป็นต้องเอาอีโคซิสเต็มของตัวเองมาใช้แทน “ผมเชื่อว่าในอีก 2 – 3 ปีข้างหน้า เราจะสร้างอีโคซิสเต็มที่จะใช้ร่วมกันทั่วโลกเองได้สำเร็จ” นี่เป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก ๆ ไม่ใช่แค่สำหรับหัวเว่ย แต่สำหรับพวกเราทุกคนด้วย เขาหวังว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะ “พักเรื่องการเมืองไว้ก่อน” และคำนึงถึงประโยชน์ของบริษัทอเมริกันเป็นหลัก หัวเว่ยเชื่อมั่นในระบบโกลบอลซัพพลายเชนที่ทุกประเทศเกื้อหนุนกันเพื่อประโยชน์แก่ทุกฝ่าย เขานับถือสหรัฐอเมริกาในฐานะชาติที่ยิ่งใหญ่และทุกคนที่หัวเว่ยได้เรียนรู้อะไรมากมายจากความสำเร็จของสหรัฐฯ ความนับถือนั้นจะยังคงอยู่ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เพื่อความอยู่รอด บริษัทจำเป็นต้องเตรียมตัวให้พร้อมในกรณีที่บริษัทอเมริกันไม่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งชิ้นส่วนให้หัวเว่ย “หากบริษัทอเมริกันไม่ได้รับอนุญาตให้ทำธุรกิจกับเรา เราก็ยังมีทางเลือกอื่น และเมื่อเราพบว่าทางเลือกใหม่แข็งแกร่งพอและไว้วางใจได้ ผมคิดว่าเราอาจจะไม่กลับไปหาบริษัทอเมริกันแล้วก็ได้” นายเหรินกล่าว หลังจากสหรัฐฯ ประกาศแบนหัวเว่ยในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หัวเว่ยมุ่งมั่นพัฒนาและดำเนินธุรกิจเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันที่จะเป็นอิสระจากเทคโนโลยีของอเมริกาแบบ 100% เมื่อเดือนกรกฏาคม จาง หมิงกัง รองประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย ประเทศฝรั่งเศส ได้คาดการณ์ว่า วันประกาศอิสรภาพจะมาถึงในปี […]

AI กำลังเพิ่มบทบาทในวงการแพทย์

ผลการศึกษาของ Accenture ชี้ว่า ภายในปี 2569 การประยุกต์ใช้งาน AI ในด้านการแพทย์จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 150 พันล้านดอลลาร์ต่อปี การดำเนินการทางการแพทย์ต้องอาศัยกระบวนการต่าง ๆ อย่างมาก จึงมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะใช้ AI เพื่อขับเคลื่อนการปรับปรุงประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการในส่วนที่ยังเข้าไม่ถึง และรองรับการทำงานซ้ำ ๆ โดยอัตโนมัติ ทั้งในส่วนของการวิจัยและพัฒนา (R&D) การดูแลรักษาผู้ป่วย การถ่ายภาพทางการแพทย์ และงานด้านการบริหารจัดการ การใช้งาน AI ที่ได้รับความนิยมในวงการแพทย์ การผ่าตัดโดยใช้หุ่นยนต์ เทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูลจากเวชระเบียนก่อนการผ่าตัด แนะนำเครื่องมือในแบบเรียลไทม์ในระหว่างการผ่าตัด ใช้ข้อมูลจากประสบการณ์การผ่าตัดจริงเพื่อนำเสนอเทคนิคการผ่าตัดใหม่ ๆ ประโยชน์ที่ได้รับคือ การลดข้อผิดพลาด และลดระยะเวลาพักฟื้นของผู้ป่วยภายหลังการผ่าตัด ตัวอย่าง: Mazor Robotics ใช้ AI เพื่อช่วยเหลือในกระบวนการผ่าตัดแบบส่องกล้อง ความช่วยเหลือของพยาบาลเสมือนจริง แอปฯ ที่สั่งงานด้วยเสียงและข้อความได้รับการฝึกฝนเพื่อให้สามารถถามและจัดการคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพ โดยรองรับการตรวจสุขภาพผ่านการสั่งงานด้วยเสียงพูดและ AI ลดการเดินทางไปยังโรงพยาบาลโดยไม่จำเป็น ประเมินอาการ และส่งผู้ป่วยไปยังแผนกที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การดูแลรักษาอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เป้าหมายของแอปฯ นี้คือ เพื่อลดระยะเวลาที่พยาบาลต้องใช้ในการให้บริการแก่ผู้ป่วย ตัวอย่าง: Sensely […]

----------------

10 แอปพลิเคชันยอดนิยมที่ผู้ใช้ทั่วโลกยอมจ่ายเงินมากที่สุด

“สมาร์ทโฟน” กลายเป็นอุปกรณ์สื่อสารที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันไปอย่างสิ้นเชิง ตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมา เราเห็นแอปพลิเคชันถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้คน ไม่ว่าจะเป็น Airbnb ที่เข้ามาช่วยให้การจองที่พักเป็นไปอย่างง่ายดาย หรือแอปพลิเคชันการส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ที่ผู้บริโภคสามารถสั่งออเดอร์แล้วให้มาส่งถึงที่พัก โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง เรียกได้ว่าอยากจะได้อะไรก็ดูจะสะดวกไปเสียหมด อย่างไรก็ตาม ผู้พัฒนาแอปพลิเคชันยังคงไม่หยุดที่จะนำเสนอบริการที่ดีขึ้น ๆ ไปอีก และกลายเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่สร้างรายได้มหาศาล หากแอปพลิเคชันนั้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ โดยในบทความนี้มาดูกันว่าช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีแอปพลิเคชันอะไรบ้างที่คนยอมจ่ายเงินมากที่สุด 10 อันดับแรก ที่มา: appannie เรื่องที่เกี่ยวข้อง ส่อง! 10 อันดับแอปฯ ที่มียอดการดาวน์โหลดสูงสุดในรอบทศวรรษ

ธุรกิจโทรคมนาคมใช้งาน AI ด้านไหนบ้าง?

ข้อมูลจาก Tractica ชี้ว่าการลงทุนด้านโทรคมนาคมในเทคโนโลยี AI คาดว่าจะแตะระดับ 36.7 พันล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2568 สองปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการใช้งาน AI ในธุรกิจโทรคมนาคม ได้แก่ การลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโดยอาศัยระบบงานอัตโนมัติ และการมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า กรณีการใช้งาน AI ที่สำคัญในภาคธุรกิจโทรคมนาคมคาดว่าจะเป็นเรื่องของการตรวจสอบและจัดการการดำเนินงานเกี่ยวกับเครือข่าย โดยครองสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้าน AI สูงที่สุดในช่วงระยะเวลาดังกล่าว ส่วนกรณีการใช้งาน AI ที่สำคัญอื่น ๆ เกี่ยวข้องกับโปรแกรมผู้ช่วยเสมือนจริงสำหรับบริการลูกค้า, ระบบ CRM อัจฉริยะ และไซเบอร์ซีเคียวริตี้ การใช้งาน AI ที่ได้รับความนิยมในธุรกิจโทรคมนาคม การปรับปรุงเครือข่าย ใช้ AI เพื่อทำนายการเชื่อมต่อที่เหมาะสมสำหรับเครือข่ายโทรคมนาคม ขับเคลื่อนการวิเคราะห์เครือข่ายและการสร้างแบบจำลองที่ซับซ้อน และการวางแผนเกี่ยวกับเครือข่ายอัจฉริยะ และผลักดันให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพ แชทบอท โปรแกรมแชทแบบอัตโนมัติที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับตอบข้อซักถามของลูกค้า โอนการติดต่อของลูกค้าไปยังเจ้าหน้าที่ในแผนกที่เกี่ยวข้อง และโอนลูกค้าเป้าหมายไปยังทีมงานฝ่ายขาย ถือว่ามีความสำคัญต่อการดำเนินงาน ตัวอย่าง: Spectrum ใช้โปรแกรมผู้ช่วยเสมือนจริง ‘Ask Spectrum’ ซึ่งขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อช่วยเหลือลูกค้าสำหรับการแก้ไขปัญหา การตรวจสอบข้อมูลบัญชี […]

ส่อง! 10 อันดับแอปฯ ที่มียอดการดาวน์โหลดสูงสุดในรอบทศวรรษ

ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตประจำวันของผู้คนอย่างมาก โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน ที่มนุษย์ต้องพกติดตัวทุกครั้งจนเหมือนกับเป็นสิ่งของนอกเหนือจากปัจจัย 4 ที่แทบขาดไม่ได้ ปฏิเสธไม่ได้สมาร์ทโฟนในปัจจุบันสร้างความสะดวกสบายเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องการติดต่อสื่อสาร, การทำงาน, ความบันเทิง โดย Forbes ได้อ้างอิงข้อมูลจาก appannie ที่ทำการจัดอันดับแอปพลิเคชันที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ลองมาสำรวจดูกันว่าในสมาร์ทโฟนของคุณมีแอปพลิเคชันเหล่านี้อยู่หรือไม่ จะเห็นได้ว่า Facebook คือแอปพลิเคชันที่ถูกดาวน์โหลดมากที่สุดมาเป็นอันดับ 1 ไม่เพียงเท่านั้นยังมีแอปพลิเคชันอื่น ๆ ที่อยู่ในธุรกิจของ Facebook พาเหรดเข้ามาติด Top 10 ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Facebook Messenger (อันดับ 2), WhatApp Messenger (อันดับ 3) และ Instagram (อันดับ 4) อีกทั้งแอปพลิเคชันที่ถูกดาวน์โหลดส่วนใหญ่ถึง 8 อันดับมาจากบริษัทในสหรัฐฯ ได้แก่ Facebook, Facebook Messenger, WhatApp Messenger, Instagram, Snapchat, Skype, YouTube […]

Apple, Google และ Amazon ตัดสินใจที่จะรวมมือกันบนเทคโนโลยีสมาร์ทโฮม

ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่มีการแข่งขันสูงอย่าง Apple, Google และ Amazon ได้ประกาศว่าพวกเขากำลังร่วมมือกันเพื่อให้เทคโนโลยีสมาร์ทโฮมใช้งานง่ายขึ้น นักวิเคราะห์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็น “เซอร์ไพรส์” และแสดงให้เห็นว่าบริษัททั้งหมดพยายามที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าดีขึ้น หลังจากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีได้ทำการแย่งชิงอำนาจเหนือเทคโนโลยีสมาร์ทโฮมอย่างดุเดือด โดยมี Alexa ของ Amazon และ Google Assistant ครองส่วนแบ่งตลาดอยู่ในตอนนี้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็คือ ผู้ผลิตสินค้าเกี่ยวกับสมาร์ทโฮมมักจะต้องเลือกค่ายที่จะทำการเชื่อมต่อ กล่าวคือหากอุปกรณ์ของคุณทำงานร่วมกับ Alexa ได้ มันก็จะไม่สามารถควบคุมได้ด้วย Siri หรือตัวไหนใช้งานกับ Google Assistant ได้ก็อาจจะใช้ไม่ได้กับตัวอื่น ๆ เมื่อยักษ์ใหญ่ทั้งสามรายมีความร่วมมือกัน นั่นหมายถึงในอนาคตการเลือกซื้ออุปกรณ์สำหรับนำมาใช้เป็นสมาร์ทโฮมจะมีความสะดวกสะบายมากขึ้น เพราะไม่ว่าจะซื้ออุปกรณ์รุ่นไหนมาก็สามารถเชื่อมต่อกับ Alexa, Siri และ Google Assistant ได้ อย่างไรก็ตามความร่วมมือเพิ่งจะเริ่มต้น คาดว่าจะเริ่มมีผลใช้งานจริงก็คงจะเป็นปลายปี 2020 อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50842062

โรงงานซัมซุงในจีนมูลค่า 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ พร้อมที่จะผลิตชิปจำนวนมากในปี 2020

โรงงานซัมซุงในมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเตรียมจะเริ่มการผลิตชิปในปริมาณมากในปี 2020 บริษัทซัมซุง ไชน่า เซมิคอนดักเตอร์ จำกัด (Samsung China Semiconductor Co. Ltd.) เผยว่าโรงงานผลิตชิปซัมซุง ระยะที่ 2 ซึ่งสร้างขึ้นในมณฑลส่านซี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ด้วยเงินลงทุนรวม 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 4.53 แสนล้านบาท) จะเริ่มการผลิตในปริมาณมากในปี 2020 โครงการส่วนแรกของโรงงานผลิตชิประยะที่ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซีอาน สร้างขึ้นจากเงินลงทุน 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.11 แสนล้านบาท) จะเสร็จสมบูรณ์และเปิดดำเนินการภายในเดือนมีนาคม 2020 ขณะที่ส่วนที่ 2 ของโรงงานมีกำหนดจะแล้วเสร็จภายในช่วงครึ่งหลังของปี 2021 เมื่อปี 2017 ซัมซุงได้ลงนามในข้อตกลงกับรัฐบาลมณฑลส่านซีเพื่อเริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตชิประยะที่ 2 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายขีดความสามารถในการผลิตชิป ทั้งนี้ โรงงานผลิตชิประยะแรกเปิดดำเนินการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2014 เนื่องจากซีอานได้ออกมาตรการมากมายเพื่อกระตุ้นการพัฒนาอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ ที่มา: สำนักข่าวซินหัว

ศาลไซเบอร์จีนใช้ผู้พิพากษา AI ตัดสินคดีความด้านดิจิทัลผ่านแอปฯ WeChat

จีนกลายเป็นประเทศที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยในการตัดสินคดีความเกี่ยวกับดิจิทัลในศาลผ่านแอปพลิเคชันในโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ที่ผ่านมา จีนได้ส่งเสริมให้มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทำงานของศาล ไม่ว่าจะเป็น บล็อกเชน และคลาวด์คอมพิวติ้ง ให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยตามรายงานของศาลประชาชนชั้นสูงของจีน เผยว่าศาลไซเบอร์ในเมืองหางโจวมีการดำเนินงานในรูปแบบ “mobile court” ซึ่งให้โจทก์ และจำเลยสามารถยื่นเอกสารประกอบคดี รวมถึงฟังคำไต่สวน-พิจารณาคดีผ่านแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่าง WeChat นับตั้งแต่เดือนมีนาคม-ตุลาคม 2019 ศาลไซเบอร์ในเมืองหางโจวมีการพิจารณา และไต่สวนคดีดิจิทัลทั่วประเทศผ่านผู้พิพากษา AI ไปแล้วกว่า 3.1 ล้านคดี สำหรับศาลไซเบอร์ในเมืองหางโจว ก่อตั้งขึ้นในปี 2017 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดภาระการทำงานของบุคลากรที่เป็นคนจริง ๆ ในกระบวนการยุติธรรมลง และยังเป็นการรองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในจีนที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว จึงทำให้เกิดคดีความทางไซเบอร์มากยิ่งขึ้น ทั้งการละเมิดลิขสิทธิ์ในสื่อออนไลน์, ข้อพิพาทการทำการค้าในธุรกิจออนไลน์ ที่มา: japantimes

Instagram ใช้ AI เพื่อตรวจจับคำบรรยายภาพที่ไม่เหมาะสม

Instagram เตรียมคุณสมบัติใหม่ เพื่อใช้ AI ทำการเตือนผู้ใช้เมื่อพบว่ามีคำบรรยายภาพของพวก เป็นข้อความที่ไม่เหมาะสม หรือเป็นข้อความที่เคยถูก report มาก่อนหน้านี้แล้ว บริษัท Facebook ผู้เป็นเจ้าของ Instagram ออกมาเปิดเผยว่าได้มีการฝึกฝนให้ระบบ AI ของตน มีความสามารถตรวจสอบคำบรรยายภาพที่ไม่เหมาะสมได้ โดยแนวคิดนี้มีขึ้นมาเพื่อต้องการให้ผู้ใช้งานได้มีโอกาสหยุดคิดทบทวนก่อนที่จะส่งข้อความออกไป ทุกวันนี้ในโลกของโซเชียลมีเดียเต็มไปด้วยข้อความที่ไม่เหมาะสมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเชื้อชาติ, เพศ และการใส่ร้ายป้ายสี คุณสมบัติใหม่ของ Instagram จะช่วยทำการตรวจสอบแล้วทำการแจ้งเตือนผู้ใช้หากพบว่ามีบางส่วนของคำบรรยายภาพที่กำลังทำการพิมพ์อยู่นั้นมีข้อความที่ไม่เหมาะสม เพื่อให้โอกาสกับผู้ใช้ทำการแก้ไขก่อนที่จะส่งออกไปเผยแพร่ นอกจากนี้ยังเป็นการให้ความรู้กับผู้ใช้เกี่ยวกับสิ่งต้องห้ามในระบบอีกด้วย อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50813086

สหรัฐฯ เตือนทั่วโลกว่า จีนส่งออก AI ด้านความปลอดภัยไปมากกว่า 60 ประเทศทั่วโลกแล้ว

รายงานจากสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัทสัญชาติจีนได้ส่งออกเทคโนโลยีตรวจตราความปลอดภัยระบบ AI ไปยังกว่า 60 ประเทศ ซึ่งรวมถึงอิหร่าน, เมียนมา, เวเนซุเอลา, ซิมบับเว และประเทศอื่น ๆ อีกหลายแห่ง รายงานดังกล่าวระบุว่า จีนพยายามผลักดัน “เทคโนโลยีเผด็จการ” ระดับโลก ซึ่งรวมถึงเทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่จีนใช้เพื่อกวาดล้างชาวอุยกูร์และชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในเขตปกครองตนเองซินเจียง ทั้งนี้ กองทุนการกุศลคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (Carnegie Endowment for International Peace) ได้เปิดเผยรายงานดังกล่าว ท่ามกลางความวิตกกังวลว่า จีนจะใช้เทคโนโลยีในการเพิ่มอำนาจให้ตนเอง และอาจมีการส่งข้อมูลต่าง ๆ ไปให้กับรัฐบาลจีน ข้อมูลในรายงานระบุว่า เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทหัวเว่ย, ฮิควิชัน, ต้าหัว และแซดทีอี ได้จัดหาอุปกรณ์ตรวจตราความปลอดภัยด้วยระบบ AI ไปยัง 63 ประเทศ โดยมี 36 ประเทศเป็นประเทศที่ลงนามในโครงการ Belt and Road และการส่งออกผลิตภัณฑ์ของจีนมักมาพร้อมกับการปล่อยกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลประเทศต่าง ๆ ทำการซื้ออุปกรณ์ของพวกเขา นักวิจารณ์ระบุว่า โครงการ […]

5 Gadget สุดยี้ ที่คุณไม่ควรจะซื้อให้ใคร

ช่วงนี้เป็นเทศกาลของการให้ของขวัญ ใครที่กำลังมองหาไอเดียในการซื้อของขวัญกันอยู่ โดยเฉพาะการมองหา Gadget เราขอเสนอตัวเลือกที่คุณควรจะตัดออก เพื่อหลีกเลี่ยงความโกรธและความไม่พอใจของผู้รับ อยู่ให้ห่างจากสิ่งของเหล่านี้ 5 อันดับแรกของ Gadget ที่คุณควรหลีกเลี่ยงในการซื้อเป็นของขวัญ 1. สินค้าที่ใช้แบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้ง ต่อให้มันจะเป็นสินค้าที่มีความน่ารักขนาดไหนก็ตาม หากมันยังเป็นการใช้แบตเตอรี่แบบใช้แล้วทิ้งอยู่ละก็ ให้เลิกคิดที่จะซื้อมันเป็นของขวัญทันที เพราะคุณกำลังจะสร้างภาระให้กับผู้รับในการสร้างขยะเป็นพิษให้กับโลกใบนี้ แน่นอนว่าหากใครได้รับของขวัญแบบนี้มีแต่ความโกรธเท่านั้น ก็มันชาร์จไฟจากยูเอสบีไม่ได้นี่นา 2. ฟิล์มกันรอยแบบกระจก อันนี้ก็ติดอันดับต้น ๆ ของการสร้างความโกรธเคืองให้กับผู้รับ เพราะฟิล์มกันรอยชนิดนี้มันยากต่อการติดตั้งมาก ๆ นอกจากนั้นพอนำไปใช้งานจริงก็พบว่ามันไม่ทนแถมยังแตกง่ายอีกต่างหาก ถ้าอยากจะซื้อของลักษณะแบบนี้จริง ๆ ก็ให้เลือกซื้อฟิล์มกันรอยแบบธรรมดายังจะดีกว่า 3. Power Bank แบบโนเนม จริงอยู่ที่ตอนนี้ราคาของ Power Bank ดูเหมือนจะไม่สูงมากแล้ว แต่ก็นั่นแหละยิ่งถูกก็ยิ่งอันตราย เพราะหากเป็นของที่ไม่ผ่านมาตรฐาน ซื้อไปให้คนอื่นมันก็ไม่ต่างกับส่งของอันตรายเข้าไปอยู่ในบ้านเขา จะซื้อทั้งทีก็เลือกรุ่นที่ดูดีมีราคาและมีมาตรฐานกำกับดีกว่า ปลอดภัยทั้งคนให้และคนรับ 4. Bluetooth ที่ไร้แบรนด์ ตอนนี้ Gadget ที่เป็น Bluetooth มีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหวี, แปรงสีฟัน, แก้วน้ำ และเครื่องขั่งน้ำหนัก […]

บีบีซีใช้ AI เขียนข่าวผลการเลือกตั้งทุกเขตทั่วประเทศพร้อมกัน

ถือเป็นครั้งแรกที่บีบีซีสามารถเผยแพร่ข่าวประกาศผลการเลือกตั้งของทุกเขตได้ในเพียงชั่วข้ามคืน ซึ่งทั้งหมดเป็นผลงานของการนำเอา AI เข้ามาใช้งาน มันเป็นบททดสอบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบีบีซีเกี่ยวกับการเขียนข่าวด้วย AI บทความทั้งหมดประกอบไปด้วย บทความภาษาอังกฤษกว่า 700 บทความ และอีก 40 บทความในภาษาเวลส์ บทความทั้งหมดถูกตรวจสอบโดยบรรณาธิการที่เป็นคนก่อนการเผยแพร่ หัวหน้าโครงการ BBC News Labs กล่าวว่า เทคโนโลยีได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการงานข่าวแทนการใช้งานมนุษย์ การใช้ความช่วยเหลือของ AI สำหรับข่าวการเลือกตั้งทุกเขตพร้อมกันนั้น หากใช้แรงงานคนไม่มีวันจะที่จะเสร็จทัน AI สามารถสร้างบทความจากข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลยได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นผลการเลือกตั้งทั่วไปของแต่ละเขตจึงสำเร็จได้ในระยะเวลาอันสั้น แต่ที่เหนือไปกว่านั้นก็คือ AI ของสำนักข่าวแห่งนี้ สามารถทำการกำหนดรูปแบบงานเขียนให้คงแบบอย่างของบีบีซีเอาไว้ได้ด้วย นักข่าวยังคงต้องทำการกำหนดรูปแบบให้กับข่าวที่ต้องการให้ AI เขียน จากนั้น AI จะนำตัวเลขและผลมาเรียบเรียงเป็นบทความ ส่วนขั้นตอนสุดท้ายก่อนทำการเผยแพร่ก็ยังต้องใช้บรรณาธิการที่เป็นคนทำการตรวจสอบอยู่ดี ส่วนข้อจำกัดของการใช้งาน AI ในตอนนี้ก็คือ มันยังคงเขียนบทความเชิงรายงานข่าวตามข้อมูลที่ได้รับมาเท่านั้น ยังไม่สามารถทำการวิเคราะห์ข่าวต่างๆ ได้ และนั่นเป็นงานและหน้าที่ของคนที่จะต้องไปทำการวิเคราะห์มากขึ้น เรียกได้ว่าคนต้องขยับไปทำงานที่ยากขึ้นนั่นเอง อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50779761

เยี่ยมไปเลย นักวิจัย มจธ. สร้างหุ่นยนต์ต้นแบบทำความสะอาดแผงโซลาร์เซลล์ ต้นทุนต่ำ คืนทุนเร็ว

เทรนด์กระแสการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ถูกพูดถึงมานาน แต่วันนี้นอกจากเราจะมีแผงโซลาร์เซลล์ไว้ใช้งาน สิ่งหนึ่งที่จำเป็นไม่แพ้กันนั่นคือการทำความสะอาด ล่าสุด วันนี้ (13 ธันวาคม 2562) อาจารย์เอกชัย เป็งวัง หัวหน้าโครงการการพัฒนาต้นแบบเครื่องจักรสำหรับทำความสะอาดแผงเซลล์แสงอาทิตย์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) นำทีมคณะกรรมการอำนวยการโครงการร่วมฯ ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนทุนร่วมกับทีมงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เข้าเยี่ยมชมการสาธิตและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับเครื่องจักรทำความสะอาดแผงเซลล์แสงอาทิตย์ ที่ มจธ. และ ลงพื้นที่จริงที่โครงการผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ (Sunny Bangchak) ของบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จ.พระนครศรีอยุธยา อาจารย์เอกชัย เป็งวัง เปิดเผยข้อมูลว่า ปัจจุบัน โครงการ “การพัฒนาต้นแบบเครื่องจักรสำหรับทำความสะอาดแผงเซลล์แสงอาทิตย์” ได้ผลิตหุ่นยนต์ต้นแบบที่มีลักษณะเป็น Modular Robot ที่สามารถปรับเปลี่ยนความยาวตามลักษณะของแผงต่างๆ (ในช่วง 1 – 4 เมตร) ทำความสะอาดร่วมระหว่างการฉีดน้ำและการขัดด้วยแปรงที่สามารถปรับแรงกดได้ นอกจากนี้หุ่นยนต์มีน้ำหนักเบา ขนย้ายได้ด้วยคน 2 คน โดยต้นทุนของหุ่นยนต์นี้อยู่ที่ราคา […]

เที่ยวบินไฟฟ้าเชิงพาณิชย์แห่งแรกของโลกเริ่มขึ้นแล้ว

เครื่องบินที่ใช้พลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ได้ทำการบินอย่างเป็นทางการแล้วในแวนคูเวอร์ประเทศแคนาดา นี่คือโฉมหน้าใหม่ของอุตสาหกรรมการบิน เที่ยวบินระยะทางสั้น ๆ ของ Harbour Air นั้นเป็นเที่ยวบินหกที่นั่งที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน นี่คือก้าวแรกในการสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับอุตสาหกรรมการบินของโลก อีกทั้งยังสามารถช่วยผลักดันเรื่องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการใช้เชื้อเพลิงของเครื่องบิน เที่ยวบินประวัติศาสตร์นี้เป็นการเริ่มต้นยุคที่สามของการบิน เที่ยวบินดังกล่าวเป็นรุ่นที่รองรับผู้โดยสาร ได้ 6 มีระบบขับเคลื่อนกำลังสูง 750 แรงม้า (560 กิโลวัตต์) เครื่องบินรุ่นนี้ได้รับการเปิดตัวไปแล้วเมื่อต้นปีในงาน Paris Air Show ก่อนจะนำมาใช้งานจริง โดยผู้ให้บริการเครื่องบินขึ้นลงบนน้ำได้อย่าง Harbour Air คาดว่าจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดในปี 2022 ตอนนี้เครื่องบินพลังงานไฟฟ้าทำการบินได้เพียงในระยะทางสั้นๆ เท่านั้น อย่างเครื่องบินที่บินในแวนคูเวอร์สามารถบินได้ด้วยพลังงานแบตเตอรี่ลิเธียมประมาณ 160 กม. (100 ไมล์) เท่านั้น ยังต้องมีการพัฒนาเรื่องของความจุและน้ำหนักของเบตเตอรี่อีกมาก สำหรับการใช้งานในเครื่องบิน ถึงแม้ว่ามันจะยังไม่ค่อยถูกใจ แต่ก็เพียงพอแล้วสำหรับการเริ่มต้น อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/business-50738983

เครื่องแรกของไทย! เปิดตัวหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดสมองผู้ป่วยโรคลมชัก พร้อมกับฟังก์อื่น ๆ อีกเพียบ

ประเทศไทยมีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัดสมองผู้ป่วยโรคลมชักเครื่องแรกของประเทศไทยจากผลงานของกรมการแพทย์ที่จะเข้ามาช่วยให้กระบวนการผ่าตัดเป็นไปอย่างแม่นยำ ลดภาวะแทรกซ้อน ตลอดจนลดระยะเวลาการผ่าตัดได้ถึง 4-8 ชั่วโมงเลยทีเดียว นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า “หุ่นยนต์ผ่าตัดสมอง” เกิดจากการพัฒนาระบบเทคโนโลยีชั้นสูงเข้ามาช่วยในกระบวนการผ่าตัดสมอง มีความแม่นยำสูง และลดชั่วโมงในการผ่าตัดจากเดิม 4-8 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงการรักษาที่ทันสมัย ปลอดภัย หุ่นยนต์ดังกล่าวไม่เพียงแค่ช่วยผ่าตัดสมองเท่านั้น แต่ยังสามารถทำอย่างอื่นได้อีกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น • การผ่าตัดวางขั้วไฟฟ้าเพื่อหาจุดกำเนิดของโรคลมชัก • การผ่าตัดวางเครื่องมือ DBS ในโรคพาร์กินสัน • การผ่าตัดเนื้องานในสมองทั่วไป และเนื้องอกบริเวณต่อมใต้สมองซึ่งอยู่ในส่วนลึก • การผ่าตัดชิ้นเนื้อในสมองส่วนลึก • การผ่าตัดส่องกล้องในสมอง• การผ่าตัดอื่น ๆ ที่ต้องใช้ความแม่นยำสูง ทั้งนี้ ตามสถิติพบว่าประเทศไทยมีผู้ป่วยเป็นโรคลมชักกว่า 500,000 ราย และเกือบ 100,000 รายมีภาวะดื้อยากันชัก อีกครึ่งหนึ่งสามารถผ่าตัดได้ตามวิธีมาตรฐาน และอีกครึ่งหนึ่งต้องตรวจหาจุดกำเนิดซึ่งมีความซับซ้อน

สตาร์ทรถด้วยรีโมทจากระยะไกล อาจกลายเป็นฆาตกรโดยไม่รู้ตัว

ในนิวยอร์กเกิดอุบัติเหตุกับชายคนหนึ่ง ที่ถูกรถชนขณะที่ยืนอยู่ระหว่างรถยนต์ 2 คันที่จอดไว้ เรื่องเลวร้ายเริ่มต้นเมื่อมีรถยนต์คันหนึ่งถูกสตาร์ทเครื่องด้วยรีโมทจากระยะไกล ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่าเขามองเห็นชายคนหนึ่งกำลังยืนอยู่ระหว่างรถที่จอดต่อกันอยู่ แล้วอยู่ ๆ รถคันที่จอดอยู่ข้างหลังก็พุ่งเข้าไปชนเขา คนรอบข้างก็พยายามช่วยกันผลักรถที่เข้ามาชนออกไป แต่พบว่ามันก็ยังเคลื่อนที่เข้ามาชนเขาซ้ำอีก หลังจากหาสาเหตุที่มาที่ไปของเรื่องนี้ก็พบว่า เกิดจากการที่เจ้าของรถคันข้างหลังทำการกดรีโมทเพื่อสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกล และคาดว่าเจ้าของรถคงมองไม่เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เรื่องนี้จึงกลายเป็นเรื่องเศร้าเมื่อชายคนที่ถูกรถชนได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนทางผู้ผลิตรถยนต์รุ่นที่เกิดเรื่องกล่าวว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับครอบครัวและเพื่อนของผู้เสียชีวิต ส่วนทางบริษัทก็ต้องค้นหาข้อผิดพลาดในระบบต่อไป อย่างไรก็ตามในคู่มือการใช้งานของระบบเตือนผู้ใช้ว่าพวกเขาไม่ควรสตาร์ทเครื่องยนต์จากระยะไกลหากพวกเขาไม่เห็นเหตุการณ์รอบตัวรถ เพราะอาจเป็นภัยคุกคามต่อชีวิตของผู้คนในบริเวณใกล้เคียงได้ อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50756243

มาดูกันในปี 2019 คนไทยค้นหาอะไรกันใน Google

Google คือเครื่องมืออันดับ 1 ในการหาข้อมูล หากใครสงสัย และอยากได้คำตอบในเรื่องอะไร เพียงแค่เข้า Google แล้วพิมพ์เรื่องที่อยากค้นหา ข้อมูลต่าง ๆ ก็จะมาปรากฏอยู่ตรงหน้าภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว โดยในปี 2019 Google เปิดเผยข้อมูลคำค้นหาแบ่งตามหมวดหมู่ต่าง ๆ ของคนไทย ซึ่งคำฮิตคำไหนจะมาเป็นอันดับ 1 นั้น มาดูกันเลย คำค้นหาประจำปี1.ชิมช้อปใช้2.กรงกรรม3.เมียน้อย4.ใบไม้ที่ปลิดปลิว5.หัวใจศิลา คำค้นข่าวในประเทศ1.ข่าวลัลลาเบล2.ข่าวออฟฟี่ แม็กซิม3.ข่าวน้องโยโย่4.ข่าวป๊อป ปองกูล5.ข่าวปุ๊กกี้ ปริศนา คำค้นหาข่าวต่างประเทศ1.ข่าวพายุเข้าญี่ปุ่น2.ข่าวพายุปาบึก3.ข่าวดาวเคราะห์น้อยชนโลก4.ข่าวซึงรี5.ข่าวฮ่องกง คำค้นหาร้านค้า1.ร้านหน่องริมคลอง2.ร้านกาแฟชายทุ่ง3.ร้านวรรณระยอง4.ร้านภูฟ้า5.ร้านป้าบุญล้อม คำค้นหาละคร1.กรงกรรม2.เมียน้อย3.ใบไม้ที่ปลิดปลิว4.หัวใจศิลา5.มธุรสโลกันตร์ คำค้นสถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ1.จอร์เจีย2.สิงคโปร์3.ฮ่องกง4.อินเดีย5.จีน สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ1.กาญจนบุรี2.นครนายก3.เชียงใหม่4.จันทบุรี5.สุราษฏร์ธานี ที่มา: Google

รถบรรทุกไร้คนขับของ Plus.ai ขับข้ามฝั่งสหรัฐฯ ได้ใน 3 วัน

Plus.ai บริษัทสตาร์ทอัพในซิลิคอนแวลลีย์ ได้ประกาศความสำเร็จในให้ AI ทำการควบคุมรถบรรทุกขนาดใหญ่ โดยขับจากฝั่งตะวันตกไปยังฝั่งตะวันออก นี่คือการขับเคลื่อนเชิงพาณิชย์ที่ปราศจากคนขับ โดยการเดินทางครั้งนี้ ยานพาหนะได้ทำการลากรถพ่วงเก็บความเย็นที่อัดแน่นไปด้วยเนย เป็นระยะทางมากถึง 2,800 ไมล์ วิ่งจากแคลิฟอร์เนียไปยังเพนซิลวาเนียในเวลาน้อยกว่า 3 วัน การเดินทางครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของความปลอดภัย และความสามารถของระบบควบคุมการขับของ AI จากนี้ไปการส่งมอบของที่ใช้เวลาหลายวันจะมีความแม่นยำและรวดเร็วขึ้นกว่าเดิม เบื้องหลังความสำเร็จครั้งนี้อยู่ที่การทำงานของ AI ร่วมกับเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์การมองเห็นคอมพิวเตอร์ ทำงานผ่านเซ็นเซอร์ของกล้อง, เรดาร์ และไลดาร์ (การตรวจจับด้วยแสง) ทั้งหมดนี้เป็นการขับเคลื่อนของ AI ทั้งหมด ยกเว้นตอนที่อยู่นอกทางหลวงเท่านั้นที่ยังต้องใช้คนควบคุม ในขณะที่โลกกำลังมีความต้องการด้านการขนส่งสูงขึ้น การนำเอารถไร้คนขับเข้ามาใช้จะช่วยให้ระบบขนส่งทำงานได้ต่อเนื่องและรวดเร็วมากขึ้น สามารถช่วยลดอุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากความเหนื่อยล้าของคนขับได้ เพราะในขณะที่รถอยู่ในโหมดขับเคลื่อนด้วยตนเองอยู่นั้น คนขับสามารถทำการพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ นี่คืออีกหนึ่งความสำเร็จในเรื่องนี้ ตอนนี้มีสตาร์ทอัพอีกหลายรายที่กำลังพัฒนาเกี่ยวกับเรื่องของรถไร้คนขับ ซึ่งทุกคนคาดหวังว่ามันจะเป็นอนาคตที่ดี อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50742080

หมดเวลาทำเกษตรแบบเก่า รวมไว้ให้แล้ว 54 แอปฯ ขั้นเทพที่ช่วยให้เกษตรกรไทยกลายเป็น “Smart Farmer”

ภาคการเกษตรในยุคปัจจุบัน ต้องมีการปรับเปลี่ยนจากการทำการเกษตรแบบเดิม ๆ ในอดีต มาสู่การทำการเกษตรอัจฉริยะ หรือ Smart Farmer กันเสียที ด้วยหลาย ๆ ปัจจัยที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท ช่วยในการอำนวยสะดวกให้เกาตรกรได้ตั้งแต่การผลิต การแปรรูป การตลาด ปฏิวัติรูปแบบจากระบบการผลิตต้องพึ่งพาลมฟ้าอากาศ มาเป็นกำหนด วางแผน และบริหารจัดการผ่านแอปพลิเคชันรูปแบบต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง การแปรรูปและการตลาดยุคใหม่ ก็เช่นกัน นั่นคือไม่สามารถใช้วิธีการแบบเดิม ๆ ได้แล้ว แต่ต้องหันมาโฟกัสความต้องการของลูกค้า เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป การไม่ปรับตัวจะส่งผลให้รายได้ภาคการเกษตรจะเติบโตได้ในระดับที่ต่ำ มีความเสี่ยงสูง ที่สำคัญจะมีปัญหาราคาตกต่ำซ้ำรอยเดิม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะแกนหลักในการขับเคลื่อนผลักดันนโยบายปฎิรูปภาคการเกษตร ได้พัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับให้เกษตรกรใช้เป็นแหล่งค้นหาความรู้ ข้อมูลในการทำการเกษตรทั้งด้านการผลิต แปรรูป การตลาด รวมทั้งหมด 54 แอปพลิเคชัน โดยเกษตรกรและผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดนำไปใช้ได้ฟรี ดังนี้ 1. ProtectPlants เป็นแอปพลิเคชันที่ให้ความรู้เกี่ยวกับโรคพืชและศัตรูพืช มีฟังก์ชั่นเด่นที่คอยติดตามการระบาดศัตรูพืชเพื่อให้เกษตรกรป้องกันได้ทันท่วงที 2. สมุดทะเบียนเกษตรกรดิจิทัล (DOAE Farmbook application) […]

โอเปอร์เรเตอร์ยักษ์ใหญ่ในเยอรมัน ใช้ Huawei สร้างเครือข่าย 5G

เทเลโฟนิกา บริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายในเยอรมนี วางแผนที่จะใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยในเครือข่าย 5G ของตนโดยไม่รอข้อสรุปเรื่องของการถกเถียงว่าผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ยมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยหรือไม่ การประกาศของ เทเลโฟนิกา สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือในการเริ่มทำงานบนเครือข่ายที่รวดเร็ว แม้ว่าจะไม่มีคำวินิจฉัยที่ชัดเจนจากรัฐบาลยุโรปเกี่ยวกับความปลอดภัยในการใช้งานอุปกรณ์จากหัวเว่ย อย่างไรก็ตามบนระบบเดิมอย่าง 4G และ LTE ของบริษัทก็ได้มีการใช้เทคโนโลยีของหัวเว่ยและโนเกียควบคู่กันไปอยู่แล้ว เพื่อสร้างความยืดหยุ่นในการใช้งานและขยายตัว และในเรื่องของ 5G ก็จะออกมาในรูปแบบที่คล้ายกัน สำหรับแผนงานด้าน 5G ของเทเลโฟนิกาในเยอรมัน มีกำหนดจะเริ่มในไตรมาสแรกของปี 2020 โดยจะให้บริการกับลูกค้าในเบอร์ลิน, ฮัมบูร์ก, มิวนิค, โคโลญ และแฟรงค์เฟิร์ต เป็น 5 เมืองแรกที่จะเข้าถึง อ้างอิง: https://edition.cnn.com/2019/12/11/tech/telefonica-germany-5g-huawei

ผลงานนักวิจัยไทย! นำขยะจากทะเลไทยมาเพิ่มมูลค่า (Up-cycling) เป็นวัสดุก่อสร้าง ลดปัญหาสิ่งแวดล้อม

หน่วยวิจัยวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล (มทร.) ธัญบุรี นำทีม อ.ดร.ประชุม คำพุฒ และว่าที่ร้อยเอก ดร.กิตติพงษ์ สุวีโร นำขยะจากทะเลไทยมาเพิ่มมูลค่า (Up-cycling) เป็นวัสดุก่อสร้างสำหรับอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ และถ่ายทอดความรู้ให้กับชุมชน พื้นที่แถบชายทะเล ดร.ประชุม คำพุฒ เล่าว่า ประเทศไทยมีขยะทะเลติดอันดับหกของโลก ทางสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พร้อมกับนักวิจัยด้านวัสดุและด้านสิ่งแวดล้อมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ดำเนินงานวิจัย โครงการ “ทะเลไทยไร้ขยะ” เพิ่มมูลค่าด้วยการอัพไซคลิ่ง ขยะจากทะเลไทย ซึ่งในปีแรกของการดำเนินงานมุ่งเน้นการนำขยะทะเลประเภทขยะพลาสติก ทั้งพลาสติกที่รีไซเคิลได้ คือ ขวดน้ำพลาสติก และพลาสติกที่เป็นประเภทใช้ครั้งเดียวไม่นิยมนำรีไซเคิล ประกอบด้วย ถุงพลาสติกหูหิ้ว แก้วน้ำพลาสติก ฉลากพลาสติกข้างขวด และหลอดดูดน้ำพลาสติก ซึ่งขยะพลาสติกเหล่านี้เป็นปัญหาหลักของประเทศที่ทุกภาคส่วนทราบดีว่ามีความสำคัญเร่งด่วนที่ต้องแก้ไขปัญหาอย่างท้าทาย โดยในปีแรกนี้ ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ มทร.ธัญบุรี ได้ทำการวิจัยผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ อาทิเช่น ถังขยะพลาสติก ด้วยกระบวนการขึ้นรูปแบบหมุนจากขวดและฝาขวด ผลงานของ ดร.ณรงค์ชัย โอเจริญ ผลิตภัณฑ์วัสดุผนังสามมิติสำหรับตกแต่งภายในอาคารจากขยะพลาสติก โดย ผศ.ดร.ธรรมศักดิ์ […]

Walmart ใช้รถไร้คนขับทำการส่งของในต้นปี 2020 เริ่มต้นที่ฮูสตันเป็นเมืองแรก

Walmart เพิ่มการลงทุนในสงครามค้าปลีกปี 2020 โดยการนำเอาเทคโนโลยีรถไร้คนขับมาทำการส่งสินค้าตามคำสั่งของลูกค้า ในปี 2020 รถส่งของแบบไร้คนขับของ Walmart จะเริ่มทำการส่งของตามคำสั่งซื้อของลูกค้า โดยจะเริ่มต้นที่ฮูสตันก่อนเป็นเมืองแรก งานนี้เพื่อการชิงการเป็นผู้นำในตลาดค้าปลีกโดยเป็นการร่วมมือกับบริษัท Nuro Mountain View ซึ่งเป็นบริษัทผลิตหุ่นยนต์ในแคลิฟอร์เนีย เพื่อทดสอบยานพาหนะไฟฟ้าขับเคลื่อนด้วยตนเองที่ใช้ซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ของ Nuro ในช่วงที่ผ่านมา Walmart ได้ให้ความสำคัญกับการขยายความสามารถในการจัดส่งสินค้าสำหรับร้านค้าปลีก ซึ่งแน่นอนว่าครั้งนี้จะเป็นอีกครั้งที่สร้างความท้าทายให้กับ Amazon เป็นอย่างมาก การเลือกใช้เทคโนโลยีครั้งนี้จะทำให้ขอบเขตของความสามารถในการส่งของทำได้ดีขึ้นในทุกมิติ “เราสามารถควบคุมการส่งมอบของถึงประตูหน้าบ้านของครอบครัวหลายล้านครอบครัว เทคโนโลยีนี้จะกลายเป็นตัวตัดสินความสามารถในการจัดส่งของ เราเชื่อว่าจะทำการขยายบริการการจัดส่งของได้ดียิ่งขึ้น เพราะเป้าหมายของเราคือการทำให้ลูกค้ามีชีวิตที่ง่ายขึ้น” SVP of digital operations ของ Walmart กล่าว นี่เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะทำให้ชีวิตของลูกค้าของ Walmart ง่ายขึ้น ส่วนสงครามการลดราคาค่าสมาชิกและค่าขนส่งยังคงดำเนินต่อไป อ้างอิง: https://finance.yahoo.com/news/walmart-partners-with-nuro-to-test-autonomous-grocery-delivery-in-houston-150848048.html

เจ้าพ่อ Shark Tank กล่าวว่า Bitcoin ไม่มีโอกาสจะกลายเป็นสกุลเงินที่เชื่อถือได้

การลงทุนในโทเค็นของสกุลเงินดิจิทัลเป็นการเก็งกำไรที่มีความเสี่ยงสูง อีกทั้งตลาดส่วนใหญ่ไม่มีการควบคุม ใครก็ตามที่อยากจะลองลงทุนรูปแบบนี้ ต้องพร้อมที่จะสูญเสียการลงทุนทั้งหมด Bitcoin (BTC) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักตลอดช่วงเวลา 11 ปีที่เกิดขึ้นมา ซึ่งความเห็นจากนักลงทุนรุ่นเก๋าอย่าง Warren Buffett แนะนำว่าไม่ควรลงทุนแบบนี้ แต่ตรงกันข้ามกับ Mark Zuckerberg ที่ลงทุนไปในจำนวนไม่น้อย ล่าสุดก็ถึงคราวของเจ้าพ่อ Shark Tank อย่าง Mark Cuban ออกมาพูดถึงเรื่องนี้บ้าง เขากล่าวว่า Bitcoin ไม่มีโอกาส ที่จะกลายเป็นสกุลเงินที่น่าเชื่อถือได้เลย เพราะมันยากเกินไปที่จะเข้าใจ ไม่ใช่เพราะมันใช้งานไม่ได้ ในทางเทคนิคถือว่าสอบผ่านมันมีความปลอดภัยที่จะใช้งาน แต่สำหรับเรื่องของการประเมินมูลค่าว่าจะขึ้นหรือลงนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจยากเกินไป นอกจากนี้ Bitcoin ยังมีคู่แข่งอีกจำนวนมาก มันยากเกินไปที่คนทั่วไปจะรับรู้ว่าตัวมันเองนั้นเหนือกว่าคู่แข่งรายอื่น แม้ว่าเขาจะแสดงความคิดเห็นแบบนี้ แต่เขาก็ไม่ได้ปิดกั้นทางเลือกที่บอกว่ายาก ในฐานะเจ้าของทีม Dallas Mavericks ใน NBA เขาเปิดกว้างให้ให้แฟน ๆ ของทีมใช้ Bitcoin ในการชำระเงินสำหรับค่าตั๋วและสินค้าของทีมได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ทำให้ทีมของเขาเป็นทีมที่สองใน NBA ที่รองรับการใช้จ่ายด้วย Bitcoin แต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมในการใช้งาน อ้างอิง: https://www.forbes.com/sites/benjaminpirus/2019/12/10/mark-cuban-says-no-chance-for-bitcoin-to-become-a-reliable-currency […]

เทคโนโลยีทำให้ทั่วโลกจ่ายภาษีธุรกิจง่ายขึ้น

รายงานวิจัยประจำปีในหัวข้อ Paying Taxes 2020 ซึ่งได้ศึกษาการบริหารงานภาษีอากรทั่วโลก ชี้ว่า หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกได้ใช้พลังของเทคโนโลยี เพื่อทำให้การจ่ายภาษีธุรกิจของบริษัทต่าง ๆ นั้นเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น PwC และ World Bank Group จัดทำรายงานฉบับนี้ เพื่อชูให้เห็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ฝ่ายบริหารงานภาษีมอบให้แก่ผู้ชำระภาษีหากใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ โดยทั้งในบราซิลและเวียดนาม ระยะเวลาที่จำเป็นในการปฏิบัติตามข้อผูกมัดด้านภาษีปรับตัวลดลง ส่วนที่ประเทศโกตดิวัวร์ สาธารณรัฐคีร์กีซ และอิสราเอลนั้น ตัวเลขการชำระภาษีได้ปรับตัวลงอย่างมาก ภาระในการปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านภาษีธุรกิจเฉลี่ยทั่วโลกยังคงค่อนข้างทรงตัว เมื่อดูจากเกณฑ์วัดหลัก 4 ประการที่ใช้ประเมินความสะดวกสบายในการจ่ายภาษีสำหรับธุรกิจต่าง ๆ เกณฑ์วัดเหล่านี้ประกอบด้วยเวลาในการปฏิบัติตาม, จำนวนการชำระ, อัตราภาษี และภาษีพิเศษ สำหรับอัตราภาษีและภาษีพิเศษนั้นค่อนข้างทรงตัวทั่วโลก แต่ก็มีบางประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายอยู่บ้าง โดยซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้เริ่มเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) เพราะทั้งสองประเทศต้องการขยายฐานภาษีและลดการพึ่งพารายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ ส่วนประเทศกานาได้ทยอยย้ายจากการใช้โครงสร้าง VAT ไปเป็นภาษีขายในขั้นต่าง ๆ นอกจากนี้ แกมเบีย สหรัฐอเมริกา จีน และโมร็อกโก ยังได้มีการลดภาษีที่คิดจากผลกำไรของบริษัทด้วย นอกจากนี้ การเพิ่มการเข้าถึงช่องทางขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม ยังได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการยกระดับกระบวนการหลังยื่นภาษีในอาร์เมเนียและอียิปต์ รายงานดังกล่าวระบุว่า ตุรกีได้ยกเว้นให้การซื้อหลักทรัพย์ทุนไม่ต้องเสียภาษี VAT […]

Pepper PARLOR ร้านคาเฟ่ที่ใช้หุ่นยนต์เป็นพนักงาน

SoftBank Robotics เปิดตัวร้าน Pepper PARLOR ร้านกาแฟที่มีหุ่นยนต์มากถึง 3 แบบ ที่ทำงานแตกต่างกันไปในร้าน ไม่ว่าจะเป็นงานบริการ, งานสร้างความบันเทิง และงานทำความสะอาด เพื่อแสดงให้เห็นการทำงานร่วมกันระหว่างมนุษย์และหุ่นยนต์ เป้าหมายในการเปิดร้านนี้ขึ้นมาก็เพื่อสร้างพื้นที่ที่ผู้คนสามารถสัมผัสกับการอยู่ร่วมกันของผู้คนและหุ่นยนต์ได้อย่างสมดุล คนในร้านสามารถเพลิดเพลินไปกับวิวัฒนาการของหุ่นยนต์ และทำความคุ้นเคยกับอนาคตของการอยู่อาศัยร่วมกับหุ่นยนต์ ทางร้านใช้ Pepper หุ่นยนต์กึ่งมนุษย์นั้นทำการโต้ตอบกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการทักทายหรือการรับคำสั่งซื้อของลูกค้า ในขณะเดียวกันหุ่นยนต์ NAO ก็ให้บริการด้านความบันเทิง การแสดงออกของท่าเต้นทำเพื่อสร้างความบันเทิงให้กับลูกค้า และเมื่อถึงเวลาที่ร้านปิดในแต่ละวัน ก็จะเป็นหน้าที่ของหุ่นยนต์ทำความสะอาดที่ชื่อ Whiz SoftBank ไม่ได้เปิด Pepper PARLOR เพียงเพื่อให้คนทั่วไปได้เห็นว่าในอนาคตหุ่นยนต์จะทำงานร่วมกับคนได้อย่างไร แต่ยังมีการเก็บข้อมูลของคนที่เข้ามาใช้งานคาเฟ่ เพื่อนำไปพัฒนาหุ่นยนต์ให้มีความสามารถเพิ่มขึ้นด้วย อ้างอิง: https://futurism.com/the-byte/cafe-robots-opens-japan

จีนกำลังมีปัญหาเรื่องเกมออนไลน์ทั้งในส่วนของผู้เล่นและผู้พัฒนา

ตอนนี้จำนวนคนที่เล่นเกมบนโทรศัพท์มือถือของจีนอยู่ที่ 598 ล้านคน และคาดว่าในอีก 5 ปี คือในปี 2023 จำนวนนักเล่นเกมจะเพิ่มมากถึง 728 ล้านคน จากตัวเลขของจำนวนคนเล่นเกมคงจะบ่งบอกได้ว่าตลาดเกมออนไลน์ของจีนนั้นใหญ่โตขนาดไหน จนทำให้รัฐบาลจีนเองต้องเข้ามาควบคุมตลาดนี้ ทั้งในส่วนของผู้เล่นและผู้สร้าง โดยเมื่อไม่นานมานี้ได้ทำการควบคุมเกี่ยวกับเวลาที่ใช้ในการเล่นเกม โดยมีการกำหนดช่วงเวลาเล่นสำหรับคนที่มีอายุน้อยกว่า 18 ปี มีการห้ามเล่นเกมตั้งแต่ 22.00 น. ไปจนถึง 8.00 น. นอกจากนี้ยังมีการจำกัดชั่วโมงการเล่นในแต่ละวันอีกด้วยคือ 90 นาทีในวันธรรมดา และ 3 ชั่วโมงในวันหยุด ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เยาวชนไปให้ความสำคัญกับการเล่นเกมมากจนเกินไป ส่วนทางด้านผู้พัฒนา พบว่ามีการพัฒนาเกมและปล่อยออกมาโดยไม่ได้ทำการขอใบอนุญาตจากทางการ ซึ่งมีนักพัฒนาจำนวนมากที่ทำแบบนี้ ทางการจีนจึงเร่งทำการควบคุม และออกกฎหมายเรื่องค่าปรับที่สูงถึง 7 เท่าของรายได้ที่ผู้พัฒนาเกมได้รับ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ในประเทศจีนจะต้องขอใบอนุญาตสำหรับแต่ละเกมที่พวกเขาทำก่อนที่จะเผยแพร่ ส่วนเยาวชนก็ต้องเล่นในเวลาที่กำหนด นี่เป็นแนวทางของรัฐบาลจีนที่พยายามทำการควบคุมเรื่องของเกมออนไลน์ อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50686535

อะไรทำให้ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยถึงกับบอกว่า “เราไม่สนเรื่องสหรัฐฯ แบนเราอีกแล้ว”

หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ที่สุด และผู้ผลิตสมาร์ทโฟนอันดับสองของโลก ประกาศกร้าวว่าบริษัทเลิกสนใจการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัฐบาลทรัมป์ไปนานแล้ว “เราไม่คาดหวังว่าสหรัฐอเมริกาจะถอนชื่อหัวเว่ยออกจากบัญชีดำ” เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของหัวเว่ย กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์เมื่อเร็ว ๆ นี้ กับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล “ให้อเมริกาใส่ชื่อหัวเว่ยในบัญชีดำตลอดไปก็ได้ เพราะเราอยู่ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว” เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หัวเว่ยถูกรวมเข้าไปอยู่ในบัญชี Entity List ของสหรัฐอเมริกา มีผลบังคับไม่ให้หัวเว่ยทำธุรกิจใด ๆ กับบริษัทสัญชาติอเมริกัน นับเป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองที่หัวเว่ยมองว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อยกับธุรกิจของบริษัท ภายหลังจากการขึ้นบัญชีดำ เขาเองได้คาดการณ์ไว้ว่า หัวเว่ยอาจต้องสูญเสียรายได้ราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่การประเมินของเขากลับไม่ถูกต้อง เพราะบริษัทประกาศว่ารายได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีเติบโตสูงขึ้นถึง 24% เขากล่าวย้ำว่า ไม่เคยเกลียดสหรัฐฯ และหัวเว่ยก็จะไม่ปิดประตูใส่ประเทศใด ๆ เพื่อประโยชน์ด้านความก้าวหน้าและการพัฒนาด้านดิจิทัลอย่างรวดเร็วของโลก ซีอีโอของหัวเว่ยกล่าวย้ำมาโดยตลอดว่าตนยึดถือหลัก “ความร่วมมือที่เปิดกว้างเพื่อความสำเร็จร่วมกัน” และต้องการที่จะทำงานกับทุกประเทศทั่วโลกเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาโลกยุคดิจิทัล เมื่อนักข่าวถามเรื่องข้อกล่าวหาที่ปราศจากหลักฐานของสหรัฐฯ ที่ว่า หัวเว่ยอาจต้องปฏิบัติตามกฎหมายในการส่งข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้แก่รัฐบาลจีน หากมีการร้องขอ เหริน กำชับว่า เขาและพนักงานเกือบ 200,000 คนทั่วโลกจะปฏิเสธคำร้องขอนั้น พร้อมยืนยันว่า บริษัทมีมาตรการที่เข้มงวดต่อการทำผิดกฎระเบียบของพนักงาน […]

รู้จักกับ “Breakup Tours” แอปฯ ท่องเที่ยวที่เข้ามาช่วยเยียวยาหัวใจให้กับคนอกหัก

หากพูดถึงเรื่องของ “ความรัก” เรียกได้ว่าไม่เข้าใครออกใครเลยจริง ๆ เพราะวันหนึ่งเคยทำให้เรามีความสุข แต่ปัจจุบันกลายเป็นความทุกข์เข้ามาแทนที่จนอยากจะทำอะไรสักอย่างเพื่อไม่ให้ต้องฟุ้งซ่านจมปรักอยู่กับความสัมพันธ์แบบนี้ กิจกรรมที่เหล่าคนหัวใจสลายมักทำกันก็มีหลากหลายแตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะเป็น การออกไปสังสรรค์กับเพื่อนหรือเข้าวัดปฏิบัติธรรม รวมถึงการออกเดินทางไปสถานที่ใดสักที่หนึ่ง หากคุณกำลังอยู่ในสถานะอกหัก และชื่นชอบการเดินทาง บางทีแอปพลิเคชันที่จะนำเสนอต่อไปนี้อาจจะเหมาะกับคุณก็เป็นได้ แอปพลิเคชันที่ว่านี้มีชื่อว่า “Breakup Tours” ซึ่งประกาศเปิดตัวไปในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยบริษัทจากฮ่องกงที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มคนที่กำลังอกหักอยู่ตอนนี้ ซึ่งปกติแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการเดินทางมักจะสอบถามผู้ใช้ในเรื่องวันการเดินทางหรือไม่ก็ราคาห้องพัก แต่แอปพลิเคชัน “Breakup Tours” จะถามคำถามสุดทิ่มแทงหัวใจ เช่น มีอะไรอยากจะบอกแฟนเก่าของคุณหรือไม่ หรือหากคุณรับสายจากแฟนเก่าที่โทรมาตอนนี้ คุณจะพูดว่าอะไร Stephen Chung ผู้ร่วมก่อตั้ง ผู้ร่วมก่อตั้ง “Breakup Tours” กล่าวว่าบริษัทต้องการสร้างแรงจูงใจให้กับผู้ที่กำลังอกหักว่าการเดินทางสามารถเยียวยาได้ทุกสิ่ง เมื่อคุณยังยึดติดกับเรื่องเดิม ๆ ทำอะไรเหมือนเดิม ก็จะทำให้รู้สึกอย่างค้นหาสิ่งที่ขาดหายไปของชีวิต และการเดินทางคือคำตอบที่จะทำให้พบสิ่งใหม่ ๆ อย่างไรก็ตาม แอปพลิเคชัน “Breakup Tours” เปิดให้ดาวน์โหลด และใช้งานได้ในแค่ฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น โดยในปี 2020 บริษัทผู้ผลิตมีแผนที่จะขยายบริการไปยังประเทศอื่น ๆ เช่น ไต้หวัน และ ไทย […]

AI ช่วยดับไฟป่าก่อนที่จะลุกลามได้อย่างไร?

เมื่อฤดูไฟป่าโหมกระหน่ำแคลิฟอร์เนียในช่วงฤดูใบไม้ร่วง การเริ่มต้นของหลายรัฐในการใช้งานปัญญาประดิษฐ์เพื่อระบุตำแหน่งที่เกิดเพลิงไหม้ได้ภายในไม่กี่นาที มันช่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมเพลิงได้ก่อนที่มันจะลุกลาม Descartes Labs หน่วยงานซึ่งใช้ AI ในการวิเคราะห์ภาพถ่ายจากดาวเทียม ได้เปิดตัวเครื่องตรวจจับไฟป่าของสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยซอฟต์แวร์ AI ของบริษัทสามารถทำการตรวจสอบภาพถ่ายผ่านดาวเทียมได้อย่างรวดเร็ว สามารถระบุตำแหน่งของกลุ่มควันและความร้อนที่ผิดปกติในพื้นที่ป่าได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นทำการแจ้งเตือนไปยังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบที่ใกล้ที่สุดได้ทันที AI สามารถระบุการเกิดไฟป่าได้อย่างแม่นยำแม้จะเป็นการเริ่มต้นในพื้นที่เล็ก ๆ นี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากวิธีการเดิมที่ใช้ในการค้นหาไฟป่า จากที่เคยใช้เครื่องบินและหอคอยเฝ้าระวัง หรือการรอให้มีพลเรือนแจ้ง การหันมาใช้ AI ของ Descartes ช่วยให้รัฐพบไฟป่าได้เร็วกว่าที่พวกเขาเคยทำได้มาก อีกทั้งยังเป็นการระบุตำแหน่งที่มีความแม่นนำสูง ความต้องการโซลูชั่นการดับเพลิงทุกรูปแบบกำลังเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศทำให้ไฟป่าทวีความรุนแรงขึ้นทั่วรัฐแคลิฟอร์เนียและสหรัฐอเมริกาตะวันตกเฉียงใต้ และ AI ก็เป็นหนึ่งในทางออกที่ดีของเรื่องนี้ อ้างอิง: https://edition.cnn.com/2019/12/05/tech/ai-wildfires/index.html

หัวเว่ย ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ หลังถูกขึ้นบัญชีดำมานาน

หัวเว่ย เทคโนโลยี่ ซึ่งเป็นบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน เปิดเผยในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้ยื่นฟ้องรัฐบาลสหรัฐฯ ในกรณีขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยในรายชื่อ Entity List ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ซื้อขายสินค้ากับบริษัทสหรัฐฯ โดยรัฐบาลสหรัฐฯ อ้างเหตุผลด้านความมั่นคง นายสง หลิวปิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในวันนี้ที่สำนักงานใหญ่ของหัวเว่ยในเมืองเซินเจิ้น ว่า ไม่มีหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่า หัวเว่ยเป็นภัยคุกคามความมั่นคงต่อสหรัฐฯ และยังกล่าวด้วยว่า การที่สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ย เป็นการตัดสินใจที่มีแรงจูงใจทางการเมือง สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีของหัวเว่ย โดยสหรัฐฯ พุ่งเป้าไปที่สินค้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหัวเว่ย ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่กำลังดำเนินอยู่ในขณะนี้ เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ขึ้นบัญชีดำหัวเว่ยในรายชื่อ Entity List ซึ่งเป็นบัญชีรายชื่อของบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้ซื้อขายสินค้ากับบริษัทสหรัฐฯ หากไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล โดยรัฐบาลสหรัฐฯ แสดงความกังวลว่า อุปกรณ์ของหัวเว่ยอาจช่วยให้รัฐบาลจีนสามารถสอดแนมสหรัฐฯ ได้ ส่วนเมื่อเดือนที่แล้ว คณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (FCC) ระบุว่า หัวเว่ย เทคโนโลยี่ และบริษัท ZTE Corp ของจีนเป็นความเสี่ยงด้านความมั่นคงของประเทศ […]

แอปเปิลประกาศรายชื่อสุดยอดแอปพลิเคชันและเกมประจำปี 2562

บริษัทแอปเปิล อิงค์จัดงานอีเวนท์ที่นครนิวยอร์กเมื่อวานนี้ โดยมีการประกาศรายชื่อแอปพลิเคชัน และเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประจำปี 2562 ในงานดังกล่าว ที่ผ่านมา แอปเปิลเพียงแต่ออกข่าวประชาสัมพันธ์ให้แก่สื่อมวลชน โดยระบุถึงแอปพลิเคชัน และเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประจำปี แต่สำหรับปีนี้ แอปเปิลได้จัดงานอีเวนท์ดังกล่าวเพื่อเชิดชูความสำเร็จของบรรดานักพัฒนาแอปพลิเคชัน และเกม รายชื่อแอปพลิเคชัน และเกมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดประจำปี 2562 ของ Apple สุดยอดแอปพลิเคชันสำหรับ iPhone: Spectre Cameraสุดยอดเกมสำหรับ iPhone: Sky: Children of the Lightสุดยอด Arcade Game สำหรับ iPhone: Sayonara Wild Hearts สุดยอดแอปพลิเคชันสำหรับ iPad: Flow by Moleskineสุดยอดเกมสำหรับ iPad: Hyper Light Drifter สุดยอดแอปพลิเคชันสำหรับ Mac: Affinity Publisherสุดยอดเกมสำหรับ Mac: GRIS สุดยอดแอปพลิเคชันสำหรับ Apple TV: The Explorersสุดยอดเกมสำหรับ […]

Larry Page ผู้ร่วมก่อตั้งของ Google ก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Alphabet

ผ่านมากว่า 20 ปีแล้ว หลังจากเริ่มต้นทำ Google ในโรงรถ Menlo Park, Larry Page และ Sergey Brin กำลังจะทิ้งบทบาทผู้บริหารของพวกเขาที่ Alphabet บริษัทแม่ของ Google Page และ Brin กำลังก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอและประธานบริษัทของ Alphabet และจะทำการแต่งตั้ง Sundar Pichai ซีอีโอคนปัจจุบันของ Google เข้ารับตำแหน่งซีอีโอของ Alphabet เพิ่มอีกตำแหน่ง ส่วนผู้ร่วมก่อตั้งจะยังคงทำหน้าที่ในคณะกรรมการของบริษัทต่อไป พวกเขายังคงควบคุมการออกเสียงลงคะแนนในธุรกิจทั้งหมด “เราไม่เคยเป็นคนที่ยึดมั่นในบทบาทการจัดการ เมื่อเราคิดว่ามีวิธีที่ดีกว่าในการบริหารบริษัท ทั้ง Alphabet และ Google ไม่ต้องการซีอีโอและประธาน 2 คนอีกต่อไป” พวกเขากล่าว หลายคนตั้งข้อสังเกตของการสับเปลี่ยนผู้บริหารที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ Google กำลังเผชิญกับการตรวจสอบอย่างหนักหน่วงจากหน่วยงานกำกับดูแล อีกทั้งยังถูกนักการเมืองในสหรัฐอเมริกาและยุโรปได้ตั้งคำถามเกี่ยวกับวิธีปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสังคม Larry Page ได้หายหน้าไปจากเหตุการณ์สำคัญของบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่การพิจารณาคดีเทคโนโลยีขนาดใหญ่บน Capitol Hill ในปี 2018 Page […]

Sony เบียด Nikon ขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของยอดขายกล้องดิจิทัล

การแข่งขันในตลาดกล้องดิจิทัล ถือว่ามีสถานการณ์ดุเดือดไม่แพ้อุตสาหกรรมอื่นๆ โดย Sony ก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 2 ของตลาด เบียด Nikon ลงไปอยู่ในอันดับ 3 ส่วนเบอร์ 1 ของตลาดยังคงเป็น Canon ตามรายงานของ Nikkei ระบุว่า Nikon จะถูก Sony แซงหน้าในเรื่องของยอดขายกล้องดิจิทัลไปเป็นที่เรียบร้อย หลัง Nikon ออกมาเปิดเผยข้อมูลว่าบริษัทขาดทุนเป็นครั้งแรกจากธุรกิจถ่ายภาพ ด้าน Sony ประกาศในปี 2018 ว่าบริษัทเล็งจะเป็นผู้นำระดับโลกของแบรนด์กล้องถ่ายภาพดิจิทัลให้ได้ภายในปี 2021 ซึ่งถือว่าเป็นเป้าหมายที่ค่อนข้างใหญ่มาก อย่างไรก็ตาม ถือเป็นทิศทางที่ดีเมื่อ Sony ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของยอดขายกล้องดิจิทัล และมีแนวโน้มว่ายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องเรื่อย ๆ อีกทั้ง ตามการจัดอันดับของ BCN พบว่ายอดขายกล้องของ Sony ยังคงเติบโต สวนทางกับ Canon และ Nikon ที่มียอดขายลดลง ที่มา: petapixel

จีนมองไกลสร้าง “ฟาร์มโซลาร์เซลล์กลางอวกาศ” ผลิตกระแสไฟส่งกลับมายังโลก

พลังงานแสงอาทิตย์ กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ถูกมองว่าจะเป็นพลังงานทดแทนต่อไปในอนาคต ด้วยประโยชน์ที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พลังงานสะอาด เพราะไม่มีมลพิษ และใช้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ที่ผ่านมา ประเทศจีน คือประเทศที่มีการผลักดันเรื่องพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยดูจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตั้งอยู่บนภูเขาในอำเภอจินจ้าย มณฑลอานฮุยทางตะวันออกของจีน ที่ไม่เพียงแค่ผลิตไฟฟ้าเท่านั้น แต่ยังสามารถช่วยเหลือชาวบ้านให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และหลุดพ้นจากความยากจน โรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทำให้ชาวบ้านในจีน 105,800 คน หลุดพ้นความยากจน ล่าสุด จีนไม่หยุดที่จะพัฒนาพลังงานแสงอาทิตย์เพียงเท่านี้ เพราะกำลังมีโครงการที่มีชื่อเรียกว่า “สถานีไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนอวกาศ” ภายในปี 2035 หวังลี่ นักวิจัยในโครงการประจำสถาบันเทคโนโลยีอวกาศแห่งชาติจีน (CAST) กล่าวว่า สถานีพลังงานแสงอาทิตย์กลางอวกาศจะทำงานด้วยการกักเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งไม่เคยมาถึงพื้นโลกได้ ซึ่งจีนจะเปลี่ยนพลังงานเหล่านี้เป็นคลื่นไมโครเวฟหรือเลเซอร์ แล้วส่งกลับมายังโลกเพื่อให้มนุษย์ในอุปโภค “เราหวังยกระดับความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ รวมถึงความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อให้มนุษย์ได้ใช้พลังงานที่สะอาดอย่างไร้ขีดจำกัด” หวังลี่ กล่าว สำหรับความคิดการเก็บพลังงานแสงอาทิตย์จากจีนเกิดขึ้นเมื่อปี 2008 ที่มีการบรรจุเป็นประเด็นสำคัญให้มีการทำวิจัยในเรื่องนี้ ซึ่งความทะเยอทะยานของจีนในวันนั้นกลายเป็นเรื่องท้าทายสำหรับเทคโนโลยีที่มีในปัจจุบัน เนื่องจากต้องดำเนินการปล่อยแผงพลังงานแสงอาทิตย์สู่อวกาศและดำเนินการติดตั้งจำนวนมาก รวมถึงต้องติดตั้งระบบส่งพลังงานปริมาณมหาศาลแบบไร้สายที่มีประสิทธิภาพด้วย ดังนั้น จีนจึงทุ่มเงินลงทุนราว 200 ล้านหยวน (ราว 860 ล้านบาท) ในการดำเนินการก่อสร้างฐานทดสอบในเขตปี้ซาน เทศบาลนครฉงชิ่ง เพื่อศึกษาวิจัยการส่งพลังงานอันทรงพลังแบบไร้สาย ตลอดจนผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ที่มา: […]

ออสเตรเลียใช้กล้องระบบ AI จับภาพผู้ขับขี่ที่ใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับรถ

ทางการออสเตรเลียเปิดใช้งานกล้องปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สามารถตรวจจับผู้ขับขี่ที่ใช้โทรศัพท์มือถือแบบผิดกฎหมาย งานนี้ภาพคมชัดรับรองดิ้นไม่หลุด ทางการออสเตรเลียได้ทำการทดสอบระบบกล้องที่ใช้ระบบ AI มาแล้วตั้งแต่กลางปี พบว่าในช่วง 3 เดือนแรกพบผู้ขับขี่กระทำความผิด โดยการใช้งานโทรศัพท์มือถืออย่างผิดกฎหมายขณะทำการขับรถมากกว่า 100,000 ราย ตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมนี้เป็นการเริ่มใช้งานจริง หลังจากที่ AI ทำการบันทึกภาพผู้กระทำผิดแล้ว จะทำการส่งใบแจ้งเตือนไปยังผู้กระทำความผิด โดยภาพที่ได้นั้นผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความชัดเจนในทุกสภาพอากาศ ในช่วง 3 เดือนแรกจะเป็นเพียงการแจ้งเตือน แต่หลังจากนั้นจะมีโทษปรับประมาณ 7,000 บาท และ 9,000 บาทในเขตโรงเรียน ออสเตรเลียจึงกลายเป็นประเทศแรกที่ใช้ AI ช่วยในการจับและออกใบสั่ง หลังจากที่ในสหราชอาณาจักรตำรวจเทมส์วัลเลย์และแฮมเชียร์เปิดตัวระบบที่สามารถตรวจจับสัญญาณโทรศัพท์มือถือที่มาจากยานพาหนะบนท้องถนนได้เมื่อต้นปี อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50630763

Apple Pay ช่วยลดความแออัดของรถไฟใต้ดินของกรุงลอนดอน

การใช้ iPhone และ Apple Watch ทำหน้าที่ในการจ่ายค่าเดินทางของระบบขนส่ง ที่ต้องการความเร่งด่วนอย่างรถไฟใต้ดิน ถือเป็นการเติมเต็มคำว่า “ด่วน” ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพราะการทำงานของ Apple Pay ไม่ต้องใช้ขั้นตอนหรือเทคนิคการตรวจสอบใบหน้าในการยืนยันตัวตน ผู้ใช้งานเพียงทำการแตะโทรศัพท์หรือนาฬิกา ก็สามารถเข้าและออกจากบริการขนส่งได้แล้ว การใช้งาน Apple Pay จะช่วยให้การเข้าและออกจากระบบรถไฟใต้ดินทำได้อย่างรวดเร็ว หนึ่งคนใช้เวลาเข้าและออกเพียงไม่กี่วินาที มันจะช่วยลดปัญหาของการต่อคิวเข้าและออกจากระบบได้อย่างมากมาย แต่งานนี้ Apple ต้องทำการให้ความรู้กับผู้ที่ต้องการใช้งาน ในเรื่องของการตั้งค่าของบัตรเครดิตที่จะทำการผูกเข้ากับโทรศัพท์หรือนาฬิกา เพราะการตั้งค่าที่ถูกต้องจะนำมาซึ่งความสะดวกพี่เพิ่มขึ้นมากมาย ผู้ใช้ Apple Pay สามารถเปิดใช้งานบัตรเดินทางได้โดยกำหนด “บัตรเดินทางด่วน” ในส่วน Wallet & Apple Pay ของการตั้งค่า iOS เกือบลืมบอกไปปว่านี่เป็นการใช้งานในกรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ อ้างอิง: https://www.bbc.com/news/technology-50634062

รัฐบาลจีนบังคับใช้กฎหมาย “สแกนใบหน้า” ก่อนลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือ

เข้มงวด! รัฐบาลจีนบังคับใช้กฎหมาย ต้อง “สแกนใบหน้า” ก่อนลงทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือ ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการออนไลน์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 1 ธ.ค.2020 ประเทศจีน เริ่มบังคับใช้กฎหมาย “สแกนในหน้า” ก่อนจดทะเบียนขอใช้บริการโทรศัพท์มือถือ กระทรวงเทคโนโลยีอุตสาหกรรมและข้อมูลข่าวสารของจีน ประกาศกฎหมายนี้เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ล่าสุดได้บังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม เพิ่มเติมจากที่ก่อนหน้านี้ในปี 2556 รัฐบาลจีนออกกฎหมายให้ผู้ลงทะเบียนใช้บริการโทรศัพท์มือถือต้องใช้ชื่อจริงที่ตรงกับบัตรประชาชน ด้วยสังคมจีนในปัจจุบัน ประชากรส่วนใหญ่ใช้อินเทอร์เน็ตโดยผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ทั้งติดต่อสื่อสาร ทำธุรกรรมทางการเงิน และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ กฎหมายดังกล่าวจึงมีไว้เพื่อปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของผู้ใช้บริการออนไลน์ชาวจีน ทั้งนี้ นอกจากกฎหมายดังกล่าวแล้ว ประเทศจีนยังมีระบบเครดิตทางสังคมซึ่งเข้มงวด ที่ผู้คนอาจได้รับรางวัลหรือลงโทษตามคะแนนทางสังคม โดยความผิดที่อาจส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับเครดิตทางสังคมนั้น เช่นการไม่ข้ามถนนตรงทางม้าลาย หรือปล่อยสุนัขของตนเองให้อยู่เพ่นพ่าน ซึ่งจีนมีการตรวจจับอย่างเข้มงวด ด้วยกล้องวงจรปิดกว่า 170 ล้านตัว รวมกับเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า ซึ่งทั้งหมดนี้ถือเป็นการเฝ้าระวังกิจกรรมของประชาชนที่เป็นส่วนหนึ่งในการจัดระเบียบสังคมของจีน

ภัยคุกคามทางไซเบอร์มุ่งเป้าสู่ eSports มากยิ่งขึ้น

งานวิจัยล่าสุดจากเทรนด์ไมโครชี้ให้เห็นถึงการอันตรายทางไซเบอร์จำนวนมากเกิดกับกลุ่มธุรกิจเกมออนไลน์เพื่อการกีฬาหรือ eSports ทำให้บรรดาผู้ผลิตเกม, ผู้ให้การสนับสนุน, ผู้ชม และนักกีฬา eSports มีความเสี่ยงมากขึ้นจาก การโจรกรรมข้อมูล, แรนซั่มแวร์ และ DDoS การเติบโตอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรม eSports คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่ามากถึง 1.7 พันล้านเหรีบญสหรัฐฯ ภายในปี 2021 ทุกวันนี้มีการแข่งขันในระดับมืออาชีพ มีสนามแข่งขันและการจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ มีนักกีฬาอาชีพที่ทำเงินหลักหลายล้านบาท สิ่งเหล่านี้ทำการดึงดูดอาชญากรเข้ามาอย่างมากมาย เงินกลายเป็นตัวกำหนดเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์เสมอ ขณะที่ eSport ได้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าระดับพันล้านดอลลาร์นั้น ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าเหล่าผู้โจมตีจะมองเห็นแหล่งทำเงินแห่งใหม่ จากการคาดการณ์ธุรกิจนี้จะโดนโจมตีในลักษณะเดียวกันกับที่เคยเกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเกม แต่จะทวีความรุนแรงมากกว่า เพราะเป็นการโจมตีที่หวังในเรื่องของเงินโดยตรง การอ้างอิงจากงานวิจัยล่าสุด เทรนด์ไมโครทำนายว่าอาชญากรไซเบอร์จะใช้ความพยายามอย่างมากในการสร้างเม็ดเงินจากแรนซั่มแวร์ที่พุ่งเป้าโจมตีไปที่ผู้ให้การสนับสนุน และโจมตีบรรดานักกีฬา eSports โดยตรง รวมถึงมีการให้บริการโจมตี DDoS, การจารกรรมข้อมูลส่วนตัว, การให้บริการปรับแก้คะแนนจากการเล่นเกมแบบผิด ๆ ไปจนถึงการขโมยบัญชีผู้เล่นเกม ซึ่งการตั้งรหัสผ่านหรือใช้ระบบความปลอดภัยในการยืนยันตนที่อ่อนแอจะกลายเป็นช่องโหว่ที่ถูกใช้ประโยชน์จากการโจมตีย่างต่อเนื่อง ผลกระทบที่เกิดจากการรั่วไหลข้อมูล ที่เกิดกับบริษัทผู้ผลิตเกมและผู้ให้การสนับสนุนอาจรุนแรงมาก จนนำไปสู่การเสียชื่อเสียงของแบรนด์และการสูญเสียรายได้ในที่สุด โดยเฉพาะเซิร์ฟเวอร์ที่บริษัทเหล่านี้ใช้เป็นโฮสต์ของระบบเกมจะกลายเป็นเป้าหมายหลักในการเจาะระบบ ซึ่งบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้จะต้องยกระดับระบบการป้องกันในระดับสูงสุด เพื่อเตรียมรับมือกับเรือ่งดังกล่าว อ้างอิง: https://www.trendmicro.com/vinfo/us/security/news/cybercrime-and-digital-threats/cheats-hacks-and-cyberattacks-threats-to-the-esports-industry-in-2019-and-beyond

1 … 18 19 20 … 37