News
สำนักพระราชวัง เปิดให้พสกนิกรถวายน้ำสรงพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ วันพรุ่งนี้ (14 ต.ค.59)
สำนักพระราชวังออกประกาศเรื่อง การถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร ความว่า ด้วยสำนักพระราชวัง จะได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถวายน้ำสรงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ ซึ่งประดิษฐาน ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พุทธศักราช 2559 ตั้งแต่เวลา 8 นาฬิกา 30 นาที ถึงเวลา 12 นาฬิกา
พระมหากรุณาธิคุณต่อเกษตรกร โครงการศูนย์ศึกษาพัฒนาผลไม้ ตามพระราชดำริ จ.จันทบุรี
พ.ศ. 2521 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำริว่าในอนาคตจะมีการขยายตัวของสวนผลไม้มากขึ้น และถึงแม้ว่าจังหวัดจันทบุรีจะมีปริมาณฝนตกมากกว่าครึ่งปีจนเกิดน้ำท่วมหลากเป็นประจำแต่ในฤดูแล้งมักขาดน้ำ เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรพระองค์จึงทรงรับสั่งให้สร้างแหล่งกักเก็บน้ำขนาดเล็ก เช่น ลำธาร ลำคลองตามร่องเนิน เอาไว้ใช้ยามแล้งและป้องกันยามน้ำท่วม ทรงพระมีกระแสรับสั่งให้คณะทำงานสำรวจพื้นที่และพระราชสินทรัพย์ส่วนพระองค์จัดซื้อที่ดินสวนซึ่งมีลำคลองพาดผ่านพื้นที่ อ.มะขามจำนวน109 ไร่ แต่ราษฎรในพื้นที่หวั่นจะเกิดน้ำท่วม จึงมีพระราชดำริให้ ชะลอไว้ก่อนโดยเปลี่ยนไปสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่อื่นที่ราษฎรต้องการ พ.ศ. 2524 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ มีพระราชดำริกับคณะโครงการทำงาน ให้ตั้งศูนย์ศึกษาพัฒนาผลไม้ เป็นตัวอย่างให้ราษฎรศึกษาพัฒนาในการประกอบอาชีพ พร้อมสร้างแหล่งน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้ง แบ่งเป็นพื้นที่สวนผลไม้60ไร่ สระเก็บน้ำ12ไร่และพื้นที่ว่างเปล่าอีก37ไร่ เพื่อศึกษาทดลองการเกษตร ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมทหารราบที่21รักษาพระองค์ฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงดิน ระบบส่งน้ำและการปลูกผลไม้ซึ่งมีความก้าวหน้าตามลำดับ พ.ศ. 2548 พลเอกนิพนธ์ ภารัญนิตย์ ที่ปรึกษาโครงการพัฒนาตามพระราชดำริ สำนักราชเลขาธิการ ได้ขอความร่วมมือกับปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์พร้อมผู้ว่าราชการ จ.จันทบุรี ให้พิจาณาแต่งตั้งคณะทำงานศูนย์พัฒนาผลไม้ฯ โดยมีหัวหน้าราชการที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ ส่วนเจ้าหน้าที่ นักวิชาการจากหน่วยงานต่างๆและผู้นำชุมชนเป็นคณะทำงาน แล้วร่วมกันกำหนดแผนแม่บทของศูนย์พัฒนาผลไม้ฯ ระยะ4ปี พ.ศ. 2551 – 2554 ศูนย์พัฒนาผลไม้ฯ เป็นแหล่งศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง พัฒนาผลผลิตในรูปแบบเกษตรอินทรีย์ รวมถึงส่งเสริมผลผลิตให้ขายได้ทั้งในและนอกประเทศ ทำให้ราษฎรนำไปปฏิบัติจนเกิดผลเป็นรูปธรรมและศูนย์พัฒนาผลไม้ฯได้กลายเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ของราษฎรอย่างแท้จริง ภาพจาก welovethaiking
**ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี**
**ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี** 1.ให้สถานที่ราชการลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่ 14 ต.ค. 2559 เป็นต้นไป 2.ให้ข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี ส่วนเอกชนพิจารณาตามความเหมาะสม
เทสโก้ โลตัส จับมือ กท.พาณิชย์ติดอาวุธ SME ก้าวสู่ไทยแลนด์ 4.0
เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 ณ ห้องรอยัลจูบิลลี่ อิมแพค เมืองทองธานี เทสโก้ โลตัส ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ จัดสัมมนาใหญ่ “Tesco Lotus& SME: Growing Together 4.0 คิดต่าง สร้างคุณค่า มัดใจลูกค้ายุค 4.0” ตอกย้ำนโยบายส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย โดยงานนี้ได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการ SME กว่า 1,500 ราย ร่วมงาน สัมมนากลยุทธ์ 4 รู้ รู้เขา รู้เรา รู้ใจ รู้ทาง เพื่อติดอาวุธทางความคิดต่อยอดทางธุรกิจ และยังมีกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจเพื่อเป็นคู่ค้ากับเทสโก้ โลตัส นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการฝ่ายการพาณิชย์ เทสโก้ โลตัส กล่าวว่า เทสโก้ โลตัส มีนโยบายในการสนับสนุนเอสเอ็มอีไทยอย่างครบวงจร ครอบคลุมผู้ประกอบการทุกระดับ ตั้งแต่เริ่มต้นธุรกิจ เป็นคู่ค้าหรือพันธมิตรร่วมกัน และส่งเสริมเอสเอ็มอีที่ประสบความสำเร็จให้พร้อมขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น ซึ่งในปีนี้เอสเอ็มอีมีความสำคัญกับธุรกิจค้าปลีกและภาพรวมของเศรษฐกิจในประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 […]
ครม.ไฟเขียวแผนส่งเสริม SMEs หวังเพิ่มจีดีพี 50 %ในปี 64
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าที่ประชุมครม.เห็นชอบ แผนการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี ฉบับที่ 4 (60-64) ซึ่งจะทำให้มูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (จีดีพี) ของเอสเอ็มอีต่อจีดีพีของประเทศ เพิ่มจาก 42 % เป็น 50 % ในปี 64 รวมทั้งยังทำให้เอสเอ็มอีสามารถส่งออกได้เพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 30 % และมีมูลค่าการส่งออกรายละ 100 ล้านบาทต่อปี ขณะที่คุณภาพแรงงานของเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้นจนสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 6 แสนบาท ขณะเดียวกันเอสเอ็มอียังสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้มากขึ้น โดยตั้งเป้าสัดส่วนสินเชื่อเอสเอ็มอีต่อสินเชื่อรวมเพิ่มขึ้นเป็น 38 % และได้รับแหล่งเงินทุนประเภททุนเพิ่มขึ้น 20 % ที่สำคัญยังทำให้รายได้เฉลี่ยของเอสเอ็มอีระดับล่างที่ได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้นอีก 20% ทั้งนี้แผนส่งเสริมเอสเอ็มอีจะครอบคลุมใน 3 ยุทธศาสตร์ ทั้งการส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีให้เติบโตและมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้น โดยยกระดับผลิตภาพ เทคโนโลยี และนวัตกรรม การส่งเสริมให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน ส่งเสริมการเข้าถึงตลาดและการเข้าสู่สากล รวมถึงการพัฒนาและส่งเสริมความเป็นผู้ประกอบการ โดยผลักดันให้เยาวชนเข้าอบรมเป็นเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น 40 % นอกจากนี้ยังมียุทธศาสตร์ที่ส่งเสริมและพัฒนาเอสเอ็มอีแบบเฉพาะกลุ่ม เพราะแต่ละเอสเอ็มอีมีความต้องการความช่วยเหลือที่แตกต่างกันจึงต้องมีแนวทางให้ชัดเจน โดยจะเร่งสร้างผู้ประกอบการใหม่ที่มีมูลค่าสูง อย่างน้อยให้เพิ่มขึ้น 20 […]


