“เตี๋ยวกะเพรา” จากอดีตเด็กล้างจาน สร้างเงินล้านจากเมนูกะเพรา


หากเอ่ยถึงเมนูอาหารยอดฮิตของคนไทยมาสัก 1 เมนู เวลาไปร้านอาหารตามสั่ง แน่นอนว่าเมนูที่ผุดขึ้นมาในสมอง หนึ่งในนั้นย่อมหนีไม่พ่น “กะเพรา” ด้วยความเป็นเมนูของคนส่วนใหญ่ทำให้มีผู้ที่เปิดร้านอาหารที่มี “กะเพรา” เป็นส่วนหนึ่งของเมนูกันเป็นจำนวนมาก

“เตี๋ยวกะเพรา” ก็เป็นหนึ่งในนั้น เรื่องราวธุรกิจโดยคุณดวงตะวัน เกษร ที่มีจุดเริ่มต้นจากเด็กล้างจานที่ร้านอาหารสู่เจ้าของธุรกิจเตี๋ยวกะเพรา ที่สร้างยอดขายหลักล้านต่อเดือน

ที่ผ่านมา คุณดวงตะวัน เกษร ต้องพบเจออุปสรรคอะไรมาบ้างกว่าจะมีวันนี้ Smartsme จะเล่าให้ฟัง

จุดเริ่มต้นของธุรกิจ

คุณดวงตะวัน เล่าว่าตนเริ่มทำงานในร้านอาหารมาตั้งแต่ ม.4 เพราะครอบครัวยากจน โดยสมัครเป็นพาร์ทไทม์ตำแหน่งเด็กล้างจานที่ KFC ต่อจากนั้นไปเป็นกุ๊ก ช่วงนั้นใครไม่ทำอะไรเราทำหมด เพราะอยากมีวิชา อยากรู้ว่างานแบบนี้มีกระบวนการอย่างไร ซึ่งทำตั้งแต่อายุ 15 – 16 ปี หลังจากทำมาได้สักระยะหนึ่งรู้ได้ว่าคนทำร้านอาหารต้องใจรัก มีความอดทน คนอื่นมองว่าง่าย แต่ที่จริงแล้วมันยากมาก

“ผมเคยพลาดมาก่อนในช่วงทำร้านอาหารอีสาน เพราะโฟกัสที่หน้าร้าน ไม่เคยโฟกัสเดลิเวอรี่เลย พอมาเจอโควิดทำให้เราปรับตัว ตื่นตัว ก็เลยเอาตัวเองไปอยู่ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น Grab Lineman Foodpanda Robinhood เข้าไปอยู่ให้หมด ขายได้ไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที แต่การเข้าไปอยู่ในแพลตฟอร์มต้องสร้างตัวตน ให้เป็นที่รู้จักในออนไลน์มากขึ้น” คุณดวงตะวัน กล่าว

อธิบาย “เตี๋ยวกะเพรา” ขายอะไรบ้าง

เมื่อพูดถึง “เตี๋ยวกะเพรา” ธุรกิจที่ทำอยู่ตอนนี้ คุณดวงตะวัน เล่าว่าเมนูของเรามีความหลากหลาย โดยเมนูหลัก ๆ คงหนีไม่พ้น “กะเพรา” และมีเมนูอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น บะหมี่เกี๊ยว ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ซึ่งปรับมาเป็นเหมือนกับอาหาร ทานง่ายในราคาไม่แพงมาก

เมื่อดูผลตอบรับจากลูกค้าพบว่ามีผลตอบรับค่อนข้างดี มียอดขายต่อวันประมาณ 20,000-30,000 บาท ต่อเดือนสร้างยอดขายได้หลักล้าน แม้เมนูกะเพราจะเป็นเมนูอมตะที่ทุกร้านมีหมด สำหรับคนอื่นเมนูกะเพราอาจเป็นแค่ตัวประกอบ แต่ตนมองว่ากะเพราเป็นพระเอก เมนูกะเพราน่าจะเป็นเมนูหลากหลาย คุณภาพดี ราคาจับต้องได้ ลูกค้าจ่ายแล้วมันคุ้มค่า ซึ่งไปดูร้านอื่นกะเพราไม่เยอะเท่าร้านเราแน่นอน มากินร้านเรา 3 เดือน ยังไม่ครบทุกเมนูเลย

“มากินร้านเรา 3 เดือน ยังไม่ครบทุกเมนูเลย เมนูที่ขายดีที่สุดช่วงนี้ก็จะเป็นเมนูกะเพราถาดแจ๊คผู้ฆ่ายักษ์” คุณดวงตะวัน กล่าว

จุดเด่นของกะเพราคืออะไร?

คุณดวงตะวัน เผยว่าจุดเด่นของเราคือ ผัด แห้ง ลูกค้าสามารถเลือกระดับความเผ็ดได้ กะเพราร้านเราไม่ใส่ข้าวโพดอ่อน ไม่ใส่ถั่วฝักยาว ร้านเราใส่ใบกะเพราเพียงอย่างเดียว

ทำอย่างไรให้ลูกค้ารู้จัก

คุณดวงตะวัน เล่าว่าตนไปทำให้ร้านดูหน้าเดินเข้ามา รูปภาพหน้าร้านมีความสวย เมนูแต่ละรูปต้องมีเรื่องราว เช่น เมนูเตี๋ยวกะเพรา คือเป็นเมนูที่เราเอาเส้นก๋วยเตี๋ยวไปผัดกับซอสกะเพราแล้วก็มาใส่ท้อปปิ้งด้วยเนื้อตุ๋น เนื้อเราจะใช้ส่วนของเนื้อสามชั้นข้างซี่โครง

ร้านเตี๋ยวกะเพราขายเริ่มต้นอยู่ที่ 40 บาท กะเพราไก่ 40บาท กะเพราถาด 268 บาท มีราคาตั้งแต่ 40 บาท จนถึง 268บาท ไม่ว่าจะเป็นเด็กประถม มัธยมต้ม ม.ปลาย หรือวัยทำงาน ทานได้หมด

“ลูกค้ามีเงินน้อย พอใจราคานี้ก็จ่ายราคานี้ หน้าร้านขาย 55 บาท ขายในแอปฯ 70 บาท แต่มันไม่ถึง 30% ถ้าเป็นลูกค้าจะซื้อกะเพราหมูสับจานนี้เท่าไหร่ ถ้าโอเคในราคา 70 บาท ก็ซื้อ 70 บาท ความพอใจคือ เราอยู่ได้ แล้วก็ลูกค้าพอใจที่จะจ่าย” คุณดวงตะวัน กล่าว

ออฟไลน์กับออนไลน์ อาหารที่ได้เหมือนหรือต่างกัน
คุณดวงตะวัน อธิบายว่าในโลกออฟไลน์ กับโลกออนไลน์ต้องเหมือนกัน ปริมาณหน้าร้านแบบไหน คุณภาพแบบไหน ในออนไลน์ ก็ต้องเป็นแบบนั้นด้วย ถ้าเราไปหลอกลวงลูกค้าก็หลอกได้แค่ครั้งเดียว ถ้าเราจริงใจกับลูกค้า เสิร์ฟหน้าร้านแบบไหนเสิร์ฟยังไง ออนไลน์ก็เป็นเหมือนกัน

อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จ

คุณดวงตะวัน ทิ้งท้ายพร้อมกับเคล็ดลับความสำเร็จไว้ว่า เคล็ดลับจริง ๆ ที่ทำสำเร็จก็คือ มีเมนูหลากหลาย ราคาจับต้องได้ รสชาติถูกปาก คุณภาพ วัตถุดิบดี ไม่หลอกลวงผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านหรือในโลกออนไลน์ ปริมาณเท่ากันหมด “ผมไม่เคยลดปริมาณลงจากลูกค้าขาจรมาเป็นลูกค้าขาประจำ มันก็จะทำให้เรา เติบโตไปได้ เราจะไปเปิดที่ไหนต่อไปลูกค้าก็รู้จักเราละ”