เปลี่ยนจากคนเกเร ไม่เอาไหน หันมาขายไก่อบถังข้างทาง รายได้ดี เดือนละเป็นแสน


จากเด็กหนุ่มเกเร ไม่เอาไหน หาเรื่องไปวัน ๆ สู่การเปลี่ยนแปลงตัวเองเพราะแฟนท้อง และยิ่งไปกว่านั้นคือคุณแม่ป่วยเป็นมะเร็ง ไม่มีเงินรักษา หันมาสร้างอาชีพเพื่อหารายได้รักษาแม่ และดูแลครอบครัว ขายไก่อบถังข้างทาง รายได้ดีเดือนละเป็นแสน เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

อะไรคือจุดเปลี่ยนที่ทำให้เปลี่ยนจากคนไม่เอาไหน หันมาทำงาน สร้างอาชีพ

คุณสมพร พรมลา (คิงส์) เจ้าของธุรกิจคิงส์ไก่อบถัง เล่าว่า ตอนเป็นเด็กนักเรียน เกเร นักเลง มีเรื่องท้าตี ท้าต่อยไปเรื่อย มีเรื่องจนถึงบางทีขึ้นโรงขึ้นศาล พ่อแม่ต้องเสียเงิน จนสุดท้ายคนในแถวบ้านเขาไม่อยากให้เพื่อนมาคบ จุดเปลี่ยนครั้งแรกก็คือตอนนั้นแฟนท้องรู้สึกว่าเรามีลูกและเราต้องทําอะไรที่มันจริงจังแล้ว จุดเปลี่ยนครั้งที่สองที่ทําให้เราเริ่มเก็บเงินคือคุณแม่ตรวจพบมะเร็ง คุณหมอบอกว่าต้องใช้ค่ารักษาในห้องผ่าตัดอย่างเดียวประมาณห้าหมื่นกว่าบาทยังไม่รวมค่าคีโมเลย ตอนแรกจะกู้ก็ไม่รู้จะไปกู้ที่ไหนเราก็เริ่มจริงจังกับงาน เราเริ่มทํางานเราไม่เกเรกับงานแล้วเราเริ่มเก็บเงิน แต่ตอนแรกเราก็ขายได้แหละแต่เราไม่เคยเก็บเงินเลย เพราะว่าหามาเราก็ใช้ไป เราไม่รู้เลยว่าเรามีรายได้เดือนหนึ่งเท่าไหร่ เพราะเราได้มาเท่าไรเราใช้เท่านั้นเลย จนระยะเวลาประมาณไม่ถึงครึ่งปีผมมีเงินแสนไปผ่าตัดแม่ได้สำเร็จ

เมื่อก่อนทำงานอะไร?

คุณคิงส์ เล่าต่อว่า แต่ก่อนผมทํางานเป็นลูกจ้างหลายที่ พอออกหลายที่เกินไปก็มีน้าแนะนําให้ไปขายของ เริ่มแรกขายของทะเลก่อน และมาเจอพี่ท่านหนึ่งซึ่งเขาขายไก่อบโอ่งอยู่ เขาก็แนะนําให้ว่า อยากขายไก่ไหมเดี๋ยวพี่สอนให้เพราะว่าเขาสงสารเราเห็นว่าเราล้มลุกคลุกคลานมาเยอะพอเขาสอนแล้วก็เริ่มทําขาย แรก ๆ ก็ทําไม่ค่อยเป็นแต่ก็ลองผิดลองถูกมาจนชํานาญ จนได้มาเป็นร้านคิงส์ไก่อบถังถึงทุกวันนี้

อุปสรรคที่เคยเจอในช่วงที่ทำธุรกิจ

คุณคิงส์ เผยว่าขายสามเดือนแรกต้องต้องหยุดขายก่อนเพราะว่าอบไก่ไหม้ แล้วก็ไม่สุกมีอยู่สองอย่าง ขายไม่ค่อยได้เลย เพราะว่าเดี๋ยวไหม้บ้างเดี๋ยวไม่สุกบ้าง แล้วลูกค้าก็ตําหนิเยอะมาก ลงทุนใหม่ทุกวันเลย บางทีเราลงทุนแค่ไก่อย่างเดียววันละสามถึงสี่พัน พอลงทุนไปเรื่อย ๆ แบบเดี๋ยวไหม้บ้างเดี๋ยวไม่สุกบ้าง แล้วลูกค้าไม่ซื้อเลย ต้องทิ้งไก่พวกนั้น ควักทุนลงใหม่เรื่อย ๆ จนแบบว่าไม่ไหวละ เรารู้สึกว่าเราจมทุนไปเรื่อย ๆ นับเป็นเงินหลักหมื่นเกือบเกือบแสน จนสุดท้ายเราหยุดขายไปประมาณเดือนหนึ่งแล้วก็ไม่รู้จะขายอะไรแล้ว ต้องกลับมาขายใหม่ก็เลยลองสู้อีกครั้ง จนสังเกตว่ามันเป็นยังไง จนรู้สึกว่าชํานาญเริ่มทําได้ครับ ประมาณปีหนึ่งเริ่มชํานาญ

จุดเด่นของร้านคิงส์ ไก่อบถังคืออะไร?

คุณคิงส์ เผยต่อว่า จุดเด่นของร้านคิงส์ก็คือ ลูกค้าจะชอบความนุ่ม ความฉ่ำ เพราะว่าเราใช้ถ่านย่างเราไม่ได้ใช้แก๊สย่างถังอบไก่ ไปซื้อฝาแล้วก็ซื้อเหล็กมาดัดทําเป็นราวแขวน ของที่ร้านผมทําเองหมด แล้วก็มีแจ่วมะขามลูกค้าก็เลยชอบเพราะว่าในพื้นที่นี้ไม่ค่อยมีคนทําแบบนี้

เงินลงทุนร้านคิงส์ ไก่อบถัง

คุณคิงส์ อธิบายว่า ตอนนั้นใช้ลงทุนไม่ไม่ถึงหมื่น เราเริ่มจากเล็ก ๆ ไปก่อน เริ่มจากของที่เรามีอยู่แล้ว แล้วก็มาประดิษฐ์เอาเอง ส่วนมากก็จะใช้ทุนไม่ค่อยเยอะเท่าไร เพราะว่าของที่เราเริ่มใช้แรก ๆ ไม่ได้ใช้ของแพงใช้ของบ้าน ๆ ก่อนจากของที่เราหาได้ แล้วก็ซื้อเพิ่มเติมอีกไม่เยอะ

ยอดขายพีคสุด

คุณคิงส์ เผยว่า ยอดขายแล้วแต่วัน อยู่ที่ประมาณเจ็ดสิบกิโลกรัมได้ มันก็จะมีที่ขายได้น้อยขายได้มาก ปะปนกันไป ถ้าบางเดือนที่เคยได้มาก็เคยได้เป็นแสนกว่าบาทก็มี

แนะนำสำหรับคนที่อยากทำธุรกิจ

คุณคิงส์ เผยต่อว่า ถ้าเกิดว่าอยากจะขายไก่เหมือนคิงส์ ลงทุนแรก ๆ ราคาก็ประมาณห้าพันบาท อยู่ที่ว่าสินค้าอุปกรณ์ที่เราเลือก ว่าเราจะใช้ดีขนาดไหน จะมีถังอบไก่ เขียง ถาด แผงตั้งร้าน แล้วถ้าเกิดว่าเราขายตามตลาดเราก็ต้องใช้เต็นท์

เคล็ดลับในการทำธุรกิจ

คุณคิงส์ ทิ้งท้ายกับคำถามนี้ไว้ว่า เคล็ดลับหลัก ๆ เลยก็คือ ต้องอดทน อดทนอย่างเดียว เพราะว่าการค้าขายมันไม่เหมือนการทํางาน การทํางานเรามีรายได้ที่ตายตัวเราไปทํางานทุกวัน แต่เวลาขายของมันจะต้องมีวันขายดี ขายไม่ดี วันฝนตก วันที่เราต้องขาดทุนบ้างอะไรบ้าง เราก็ต้องอดทน แล้วก็สู้ ที่สําคัญก็คือว่าเวลาเราอยู่กันต่อหน้าลูกค้าเราต้องหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ห้ามหน้าบูด หน้าบึ้ง ห้ามใส่อารมณ์กับลูกค้า นี่คือคือข้อข้อดีของพ่อค้าแม่ค้าที่ว่าจะได้เปรียบร้านอื่น