: “ทำธุรกิจ..อย่ามองข้ามฮวงจุ้ย” โดย อ.มาโนช ประภาษานนท์


..การทำธุรกิจทุกวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เพราะการแข่งขันค่อนข้างจะสูง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  แถมความผันผวนต่อสถานการณ์ของโลก ไม่ว่าจะเป็นผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจโดยรวม ผลกระทบจากภัยธรรมชาติที่คาดเดาไม่ได้ ล้วนส่งผลถึงความไม่แน่นอนทั้งสิ้น

ใครที่คิดจะทำธุรกิจตอนนี้ ก็ต้องคิดกันหนักหน่อย ต้องมองให้รอบด้าน ต้องมีแผน 1..2..3..แผนเดียวคงเอาไม่อยู่แน่ นักธุรกิจเดี๋ยวนี้นอกจากจะเก่งเรื่องการตลาด การขายแล้ว ยังต้องพึ่งพาศาสตร์อย่างอื่นด้วย ไม่ว่าจะเป็นการตรวจดวงชะตา เพื่อดูจังหวะทางการค้าการลงทุน การดูโหงวเฮ้งเพื่อเลือกคนเข้าทำงาน และแน่นอนการดูฮวงจุ้ยเพื่อเลือกทำเลการค้า

“ฮวงจุ้ยเข้ามาเกี่ยวข้องกับธุรกิจได้อย่างไร”

การทำธุรกิจไม่ว่าจะเป็นธุรกิจใดก็ตาม พื้นฐานการทำตลาดก็คือ 4 P    ( product – price – place – promotion )  วิชาฮวงจุ้ยจะเข้ามาช่วยในเรื่อง Placeการเลือกสถานที่ ถือเป็นปัจจัยสำคัญในเรื่องของการจัดจำหน่าย ทำเลที่ดีทำให้ร้านอยู่ในจุดที่โดดเด่นมองเห็นได้ง่าย ลูกค้าไปมาสะดวก การจัดสถานที่ให้ดูสวยงามน่าเชื่อถือ ย่อมเอื้อประโยชน์ให้ทำธุรกิจได้ง่ายขึ้น

สมัยก่อน การทำตลาดมักจะเน้นไปที่ Product เป็นอันดับแรก ขอให้ Product ดีเสียอย่างยังไงก็ขายได้ อย่างกรณีร้านอาหาร เป็นตัวอย่างที่มองเห็นได้ชัด ร้านอาหารอร่อยขึ้นชื่อ ถึงแม้จะอยู่ในซอกซอยลึกแค่ไหน ก็ยังมีคนขับรถไปกิน เจ้าของร้านมักจะพูดเสมอว่า ไม่เห็นต้องพึ่ง Place ที่ดีเลย

แต่ปัจจุบัน เจ้าของร้านที่คิดแบบนั้น คงจะเหลือน้อยเต็มที เพราะร้านอาหารเจ้าดังๆ ล้วนขึ้นห้างฯ กันหมด ทำเป็น “แฟรนไชส์ “ ขยายสาขาไปทั่วทุกจุด ทำกำไรมหาศาลให้กับเจ้าของธุรกิจ เพราะมองเห็นถึงความสำคัญของ Place นี่เอง

หลักฮวงจุ้ย จะเน้นที่ทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญ โดยเฉพาะกับการประกอบธุรกิจ การเลือกอยู่ในทำเลที่ถูกต้อง ย่อมช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้ง่าย แต่ในทางกลับกันถ้าเลือกทำเลผิด อาจส่งผลในทางตรงกันข้าม ดังคำกล่าวที่ว่า “แค่เลือกร้านผิดฝั่งถนน อาจทำให้ธุรกิจเจ๊งได้”

ยกตัวอย่างธุรกิจห้างสรรพสินค้า ถ้าเลือกตั้งผิดฝั่งถนน ก็อาจทำให้ธุรกิจเสียผลประโยชน์อย่างมหาศาล ธุรกิจอย่างห้างสรรพสินค้า จะต้องเลือกตั้งในฝั่งขาออก (กลับบ้าน) ไม่ใช่ขาเข้า (ออกจากบ้าน) เพราะธุรกิจ Support ลูกค้าในช่วงเย็น มากกว่าช่วงเช้า ยิ่งการจราจรบริเวณนั้นติดขัดด้วยแล้ว คงไม่มีใครอยาก ยูเทิร์นรถเข้าห้างฯเป็นแน่ ห้างฯส่วนใหญ่จึงนิยมตั้งอยู่ทางฝั่งขากลับบ้านแทบทั้งสิ้น

วิชาฮวงจุ้ย สอนให้รู้จักดูกระแส (ชี่) ดูการไหลเวียนของผู้คนบริเวณนั้น โดยเฉพาะกลุ่มที่เป็น Target ว่ามีกระแสมาทางใด แต่ละธุรกิจจะไม่เหมือนกัน บางคนมองแต่เพียงว่า เลือกให้ร้านอยู่ในตำแหน่งชุมชนที่มีคนหนาแน่นก็น่าจะเพียงพอแล้ว โดยลืมนึกไปว่า กระแสของผู้คนบริเวณฯนั้นเป็นอย่างไร การรู้ข้อมูลในทางฮวงจุ้ย ย่อมนำมาซึ่งการตัดสินใจเลือกตำแหน่งของร้านได้อย่างถูกต้อง และดีกว่าคู่แข่ง (ถ้ามี)

นอกจากนี้ วิชาฮวงจุ้ยยังช่วยในการเลือกซื้อที่ดิน เพื่อการลงทุนอีกด้วย นักธุรกิจหลายคน ตะเวนดูที่ดินเพื่อกว้านซื้อสำหรับการลงทุนในอนาคต ทำให้ลดต้นทุนลงได้มากในการขยายธุรกิจ นอกจากนี้ถ้ามีที่ดินเหลือยังขายได้กำไรมหาศาลอีกด้วย

ผมมีลูกค้าคนหนึ่ง ไปซื้อที่ดินในต่างจังหวัดประมาณเกือบ 100 ไร่ๆละ 100,000 บาท

แล้วแบ่งพัฒนาที่ดินครึ่งหนึ่ง ทำเป็นตลาดช้อปปิ้งมอลล์ ดึงแบรนด์ดังๆมาลง อย่าง 7 Eleven เอ็มเค สุกี้ มีเอทีเอ็มของธนาคารชื่อดังหลายแห่ง มีศูนย์มือถืออีกหลายยี่ห้อ ปรากฏว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี แต่ที่ได้มากกว่าก็คือ การขายที่ดินที่เหลืออีกครึ่งหนึ่งเกือบ 50 ไร่ ในราคาไร่ละเฉียดล้านให้กับห้างฯดังที่จะมาลง

ทุกวันนี้ ฮวงจุ้ยได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจไปแล้ว อย่างในฮ่องกงถ้าใครทำธุรกิจแล้วไม่ดูฮวงจุ้ย คงกลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดแน่ๆ เพราะฮ่องกง ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งฮวงจุ้ยโดยแท้ เหตุผลที่ฮ่องกงนำวิชาฮวงจุ้ยมาใช้มากกว่าที่อื่น ก็คงเป็นเพราะ ฮ่องกง มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การจะทำอะไรก็จะมีผลกระทบได้ง่าย แถมการแข่งขันทางธุรกิจสูงมาก การชิงความได้เปรียบจึงเกิดขึ้นอยู่เสมอ วิชาฮวงจุ้ยจึงกลายเป็นอาวุธสำคัญที่นักธุรกิจนำมาใช้ จนในปัจจุบันต้องมีการออกกฎหมายควบคุมกันแล้ว

บ้านเราถึงแม้ว่าจะไม่รุนแรงเหมือนในฮ่องกง แต่ถ้าดูแนวโน้มแล้ว การนำวิชาฮวงจุ้ยมาใช้กับธุรกิจ ดูจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นี่ดูจากตัวผมเองที่ถูกเชิญให้ไปช่วยดูฮวงจุ้ย ช่วง 2-3 ปีมานี้ การดูฮวงจุ้ยที่เกี่ยวกับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างโรงงาน การสร้างอาคารพาณิชย์ การดูสำนักงาน ออฟฟิค หรือแม้แต่ร้านค้ารายย่อยๆ ดูจะเพิ่มมากขึ้นกว่าการดูฮวงจุ้ยบ้านเสียอีก

ซึ่งจากการสอบถามผู้ประกอบการหลายท่าน บอกผมว่า ที่ต้องดูฮวงจุ้ยก็เพราะ ไม่อยากให้มีข้อผิดพลาดไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามที่จะมากระทบต่อธุรกิจที่ลงทุนไป ถึงไม่เชื่อเรื่องนี้ก็ต้องดู เพื่อความสบายใจว่าได้มีการตรวจเช็คแล้ว

ตัวอย่างที่ยกมาให้ฟังนี้ คงพอมองเห็นภาพได้ชัดขึ้น ถึงบทบาทของฮวงจุ้ยกับธุรกิจ ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยนิดเท่านั้น ยังมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย ที่นำวิชาฮวงจุ้ยมาใช้เพื่อส่งเสริม หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดี ให้กับธุรกิจได้ อย่าได้มองข้ามเชียวล่ะ..