มองให้ออกก่อนทำธุรกิจว่า “คุณคือใคร” ในโลกใบนี้


มองให้ออกก่อนทำธุรกิจว่า “คุณคือใคร” ในโลกใบนี้

               โดย ดร.พยัต วุฒิรงค์   โลกใบน้อยๆ ใบนี้กำลังก้าวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง ความเปลี่ยนแปลงที่ผมกำลังพูดนี้มีตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยี ทำให้เล็กลง มีความจุมากขึ้น สะดวกสบายมากขึ้น ทำหลายอย่างได้พร้อมๆ กัน การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภค อยากได้ต้องได้ ใจร้อนมากขึ้น ความอดทนต่ำลง ต้องสำคัญที่สุด และการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการทำธุรกิจ ต้องดีขึ้น เร็วขึ้น แปลก สด ใหม่ ทันสมัย ตอบโจทย์ ทั้งหมดนี้ยังไม่นับรวมการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้โลกไร้พรมแดน เชื่อมต่อทุกคนเข้าหากันข้ามโลกแค่ปลายนิ้วสัมผัส ทำให้ลูกค้าของเรามีจำนวนมากขึ้น หลากหลายขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ผมเกริ่นมาอย่างนี้แล้วบางท่านอาจนึกสงสัยว่า การเปลี่ยนแปลงมันก้อเกิดขึ้นตลอดเวลาอยู่แล้วและมันเกี่ยวอะไรกับเราล่ะ  

ผมขอยกตัวอย่าง โลกอินเตอร์เน็ต 3G 4G และ 5G ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเวลาอันใกล้เพื่อให้คุณได้เห็นภาพชัดเจนมากขึ้น ในอดีตเราทำธุรกิจโดยอาศัยเอกสารและการพูดคุยพบหน้ากัน เมื่อโลกแห่งอินเตอร์เน็ตเกิดการพัฒนาขึ้น ระบบอีคอมเมิร์ซ หรือระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือการทำธุรกิจผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายทำให้เราสามารถทำธุรกิจโดยก้าวข้ามระบบเอกสารและระบบขั้นตอนแบบดั้งเดิมไป เราสามารถซื้อขายของมูลค่าสูงๆ โดยไม่จำเป็นต้องรู้จัก เห็นหน้าตากัน หรือบางทีอาจอยู่กันคนละซีกโลกก้อได้ ตัวอย่างของธุรกิจที่มีชื่อเสียงและทำกำไรในโลกชนิดนี้คือ เฟซบุ๊ค กูเกิ้ล หรือไมโครซอฟท์ ที่ทำให้บิล เกตส์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในรอบหลายปีที่ผ่านมา และธุรกิจล่าสุดที่ดังมากๆ ในปัจจุบันคือ อาลีบาบา ที่ทำให้ แจ๊ค หม่า ครูสอนภาษาชาวจีนที่แทบไม่รู้เรื่องเทคโนโลยีเลยกลายเป็นคนที่ร่ำรวยติดอันดับโลกในเวลาการก่อตั้งธุรกิจเพียงไม่นาน

  โมเดลธุรกิจบนโลกอินเตอร์เน็ตที่ทำกำไรอย่างมากคือ การเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงธุรกิจระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย โดยการสนับสนุนให้เกิดความเชื่อมั่นว่าผู้ซื้อจะได้ของตามที่สั่ง และผู้ขายจะได้รับเงินที่แน่นอน นี่คือรูปแบบการทำธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งๆ ที่อาลีบาบาไม่มีหน้าร้านหรือสินค้าคงคลังเลยแม้แต่น้อย หรือแม้กระทั่งเฟซบุ๊ค และกูเกิ้ลก้อทำธุรกิจลักษณะเดียวกันจนบริษัทมีกำไรมหาศาล การเป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างคนหรือบริการที่มีความต้องการเกิดขึ้น แต่ยังไม่มีใครตอบสนองความต้องการนั้น  

หัวใจของความสำเร็จคือ การเป็นตัวกลางหรือเรียกว่า การจับคู่ (Matching) แต่อยู่ที่ว่าเราจับคู่ระหว่างอะไร ตัวสินค้า บริการ เนื้อหา หรือแม้กระทั่งคน เหมือนหนังกำลังภายในจีนที่มักมีคำคมบอกว่า กระบี่อยู่ที่ใจ เมื่อพระเอกรู้เคล็ดวิชาแล้ว ท่วงท่าการร่ายรำสามารถเปลี่ยนแปลงได้เป็นร้อยกระบวนท่า จนคู่ต่อสู้ตามไม่ทันและไม่สามารถจับทางได้ สุดท้ายก้อต้องพ่ายแพ้ไปในที่สุด  

ตัวอย่างอื่นๆ ที่ใกล้ชิดคนไทยเช่น อาโกด้า บริษัทตัวกลางในการจองโรงแรม โอแอลเอ็กซ์ บริษัทตัวกลางในการซื้อขายของมือสอง เอ็นโซโก้ บริษัทตัวกลางที่ทำให้ผู้ซื้อพบผู้ขายในราคาพิเศษ บาร์เทอร์คาร์ด บริษัทตัวกลางแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการระหว่างผู้ผลิตหรือจำหน่ายสินค้าโดยใช้เงินเสมือน บางธุรกิจได้กำไรจากส่วนต่างการขาย บางธุรกิจได้เป็นค่าโฆษณา เห็นแบบนี้คุณอาจคิดว่า แค่เปอร์เซ็นต์จากกำไรที่ได้น่าจะเป็นรายได้ที่ไม่มากนัก แต่ผมจะบอกว่า รายได้มหาศาลนะครับ ไม่อย่างนั้น กูเกิ้ล หรืออาลีบาบา คงไม่ติดอันดับต้นๆ ของบริษัทที่มีรายได้สูงในโลกหรอกครับ

  ทั้งหมดนี้หากคุณมองเป็น โอกาส มันก็คือโอกาส ที่ทำให้คุณได้กำไรมากขึ้นโดยแทบจะลงทุนน้อยมากเพราะไม่ต้องมีหน้าร้าน ไม่ต้องมีสินค้าคงคลัง แต่หากคุณมองเป็นอุปสรรค มันก็คือ อุปสรรค ที่ทำให้ธุรกิจที่คุณทำขาดทุนจนต้องปิดกิจการ

ที่ผมเล่าให้ฟังทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ว่าคุณต้องเปลี่ยนไปทำธุรกิจตัวกลางบนโลกอินเตอร์เน็ตทั้งหมด หากคุณเป็นบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายคุณก้อยังสามารถทำกำไรได้มากมาย ธุรกิจที่สามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็วจะมองเห็นโอกาส (เงิน) ที่รอให้คุณเก็บได้ตามท้องถนน การทำธุรกิจในปัจจุบันคุณไม่จำเป็นต้องมีเงินล้านก้อสามารถรวยได้ ไม่จำเป็นต้องเติบโตจากธุรกิจครอบครัวจากรุ่นสู่รุ่นจนกลายเป็นเจ้าสัว ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้านใหญ่โตถึงจะขายของได้อย่างถล่มทลาย สิ่งที่คุณต้องมีคือ “การตอบคำถามว่า…คุณคือใคร”        

คำถามสั้นๆ แต่ตอบยากมากว่า “คุณคือใคร” หากคุณจะทำธุรกิจให้มีกำไร ให้มีความแตกต่าง ให้มีคุณค่าสูงๆ คุณต้องตอบให้ได้ว่า คุณคือใคร คำถามนี้ไม่ได้ถามจริงๆ ว่า คุณคือใคร พ่อแม่ชื่ออะไร มีพี่น้องกี่คน จบการศึกษาอะไรมา แต่ให้ตอบว่า ธุรกิจคุณทำอะไรกันแน่ คุณส่งมอบคุณค่าอะไรให้ลูกค้าของคุณ และจุดเด่นของธุรกิจคุณที่ไม่เหมือนคนอื่นคืออะไร เมื่อตอบคำถามนี้ได้ คุณก้อจะชัดเจนว่า ใครคือลูกค้าของคุณ และทำไมเค้าต้องยอมจ่ายเงินให้กับคุณแทนที่จะจ่ายเงินให้กับคู่แข่งของคุณ

  หลายคนเลือกทำธุรกิจเพราะความชอบ หรือเป็นธุรกิจที่สืบทอดกันมา คุณต้องรู้ว่า ลูกค้าที่ซื้อสว่านไม่ได้ต้องการรู แต่ต้องการอะไรที่ทำให้คุณสามารถแขวนภาพสวยๆ ได้ คุณต้องมองข้ามวัตถุ แต่ต้องเข้าให้ถึงจิตใจและแก่นแท้ธุรกิจของคุณ เมื่อนั้น คุณจะเห็นธุรกิจอย่างครบวงจรตั้งแต่ต้นจนจบว่า คุณต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ธุรกิจมีความแตกต่างและมีคุณค่าเพิ่มขึ้น ทำให้ตัวคุณลอยออกมาจากคนหมู่มาก เหมือนเสื้อสีขาวที่อยู่ท่ามกลางเสื้อสีน้ำเงิน สิ่งนี้ล่ะที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จ และทำกำไรได้ดังที่หวังไว้  

หมดยุคแล้วกับการลงทุนมากๆ แล้วไปเสี่ยงดวงเอาว่า จะรวยหรือเจ๊ง คุณสามารถซื้อกล้วยหนึ่งหวีมี 20 ลูก 100 บาท แล้วแบ่งขายเป็นลูก ลูกละ 10 บาท ได้กำไรหวีละ 100 บาท ทำกำไรแบบง่ายๆ แต่คงไม่พอเพราะถ้าทุกคุณคิดและขายแบบเดียวกันหมด สุดท้ายกล้วยนั้นคงเหลือเพียงลูกละ 1 บาทและขาดทุน 80 บาทเป็นแน่

  วันนี้ยังไม่สายที่จะเริ่มต้นธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน และยังไม่สายที่จะปรับรูปแบบธุรกิจให้ชัดขึ้นเพื่อทำให้คุณมีกำไร ไม่ว่าคุณจะเป็นบุคคลธรรมดา เป็นกลุ่มคน เป็นหน่วยงาน เป็นองค์กร หรือเป็นประเทศ คุณต้องตอบให้ได้ว่า “คุณคือใคร” ในโลกใบน้อยๆ ใบนี้เพื่อสร้างคุณค่าให้กับตัวคุณเอง…สวัสดี

——————————————————————————————————————————————————————————

ดร.พยัต วุฒิรงค์

นักบริหารจัดการนวัตกรรมและสร้างคุณค่าแถวหน้าของเมืองไทย มีพื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์ธุรกิจ แต่หันมาเอาดีด้านการตลาด การบริหารคน และการบริหารจัดการนวัตกรรม เพราะมองว่ามีความท้าทายและความสุขมากกว่า สั่งสมประสบการณ์จากองค์กรอันดับ 1 ด้านนวัตกรรมและการบริหารคนของไทยเกือบ 20 ปี จากนั้นลาออกมาช่วยพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ในหลากหลายศาสตร์จาก “หิ้งสู่ห้าง” สร้างคุณค่าเพิ่มให้กับสิ่งที่มีอยู่ และพัฒนานวัตกรรมให้เกิดขึ้นตลอดเวลา ชอบพูดคุยกับผู้รู้ CEO บริษัทต่างๆ ชอบเดินทางท่องเที่ยวเพื่อหาประสบการณ์และวัตถุดิบมาต่อยอดความรู้และถ่ายทอดสู่สังคม