รูปที่ 1 รุ่นถัดไปของเทคโนโลยีสวมใส่ได้คือการทอเซ็นเซอร์เข้าไปในเนื้อผ้าและเป็นลายของผ้า
Wearable device เป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็กที่สามารถสวมใส่ไปกับร่างกายของเราได้ ซึ่งมีแบบที่ทำงานได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งอุปกรณ์อื่น และแบบที่ต้องทำงานร่วมกับอุปกรณ์อื่นเช่นสมาร์ทโฟน โดยการส่งข้อมูลผ่านบลูทูธหรือไวไฟไปยังอุปกรณ์นั้นที่ติดตั้งแอฟสำหรับประมวลและแสดงผลลัพธ์ของข้อมูลที่ได้มา
Wearable device ที่พวกเราคุ้นเคยกันดีก็คือ Smartwatches และ wristbands ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะมีเซนเซอร์ขนาดเล็กเพื่อตรวจจับชีพจร การเคลื่นไหวของผู้สวมใส่ ทำให้สามารถนับจำนวนก้าวเดิน/วิ่ง อัตราการเต้นของหัวใจ วิเคราะห์สภาพการนอนหลับ คำนวณการเผาผลาญแคลอรี่ ฯลฯ ซึ่งคลื่นลูกถัดไปของเทคโนโยยีสวมใส่ได้คือการนำเซ็นเซอร์ทอเข้าไปในเสื้อผ้า
อุปกรณ์ fitness tracker จากค่าย Fitbit และ Jawbone ที่เป็นที่นิยม ในขณะที่ Smartwatches ที่เป็นที่นิยมจะมาจากค่าย Apple, Samsung, LG และ Motorola อุตสาหกรรม Wearable พร้อมที่จะก้าวไปสูภาพที่ใหญ่กว่าโดยข้ามจากผู้บริโภคทั่วไปไปสู่การใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงการรักษาทางการแพทย์
Smart clothing สำหรับใช้ในทางการแพทย์เป็นธีมหลักในงาน Wearable Technology Show ที่กรุงลอนดอนประเทศอังกฤษ ซึ่งมีบริษัทมากมายได้นำเสื้อผ้าที่มีเทคโนโลยีเซนเซอร์ที่สามารถติดตาม บันทึกและวิเคราะห์ข้อมูลจากผู้ที่สวมใส่แล้วส่งข้อมูลผ่านบลูทูธไปยังอุปกรณ์อื่นได้ ซึ่งมีเสื้อผ้าหลากหลายแบบมาแสดงในงาน
บริษัท Ohmatex ผลิตเสื้อผ้าที่มีสายสำหรับส่งพลังงานไฟฟ้าและข้อมูลทออยู่ในเนื้อผ้า มีเซ็นเซอร์และเครื่องส่งสัญญาณที่มีน้ำหนักเบาแนบอยูในผ้า บริษัทผลิตเครื่องแบบเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน และกำลังทดสอบวิธีการฝังสายไฟและเซ็นเซอร์ในผ้าพันแผล
ผลิตภัณฑ์ที่นำมาแสดงในงานนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับการใช้งานเซ็นเซอร์และการเชื่อมต่อบลูทูธที่ใช้พลังงานต่ำเพื่อสร้างเสื้อผ้าที่ราคาไม่แพง ทนทานและหลากหลายสำหรับตรวจสอบสุขภาพของผู้ป่วยและการออกกำลังกาย
พวกเขายังต้องการผลิตเสื้อผ้าที่สามารถตรวจสอบสุขภาพซึ่งไม่ได้ผลิตมาสำหรับนักวิ่งมารธอนและนักกีฬามืออาชีพโดยเฉพาะ บริษัทที่มีที่ตั้งอยู่ที่เมืองแมนเชสเตอร์อย่าง Smart Life มีการผลิตเสื้อยืดและชุดชั้นในกีฬาที่ประกอบด้วยเซ็นเซอร์ที่ทออยู่ในผ้า สำหรับติดตาม ตรวจสอบคลื่นไฟฟฟ้าของหัวใจ อุณหภูมิ การหายใจและการเผาผลาญแคลอรี่
เซ็นเซอร์จะส่งข้อมูลไปยังสมองกลส่วนกลางซึ่งจะอยู่ที่คอเสื้อซึ่งมีน้ำหนักเพียง 15 กรัม มีคุณสมบัติกันน้ำ และประกอบด้วย accelerometer (เครื่องวัดความเอียง) และสามารถนำไปใช้ในเสื้อผ้าชุดอื่นที่ของ Smart Life ที่ออกแบมาสำหรับสมองกลนี้ โดยสามารถสลับกันใส่ได้
รูปที่ 2 เสื้อผ้ากีฬาโดย Smart Life มีเซ็นเซอร์ที่ทออยู่ในเสื้อผ้าและส่งข้อมูลไปยังสมองกลขนาด 15 กรัม
Smart clothes ส่งข้อมูล 125 ชิ้นต่อวินาทีผ่านบลูทูธพลังงานต่ำไปยัง Smart Life app ทั้ง iOS และแอนดรอยด์
รูปที่ 3 สมองกลขอเสื้อผ้า Smart Life มีน้ำหนักเบากว่าเหรียญ 1 ปอนด์ และสามารถอยู่ได้เกือบทุกที่ ซึ่งในรูปติดอยู่ที่คอเสื้อ
เซนเซอร์ของ Smart Life มีความยืดหยุ่นและทนทาน สามารถอยู่ในที่ไหนก็ได้ของร่างกาย เซนเซอร์นี้ยังสามารถช่วยพยาบาลใช้ผ้าพันแผลได้ถูกต้องมากขึ้น ความแน่นขที่เหมาะสมตามวัตถุประสงค์ของการใช้ผ้าพันแผล
บริษัท AiQ Smart Clothing ผู้ผลิตใยเหล็กสแตนเลสสำหรับการส่งกระแสไฟฟ้าผ่านเสื้อผ้า ผลิตเสื้อผ้าสำหรับคนพิการ เพื่อตรวจสอบสุขภาพของผู้สวมใส่ และแจ้งเตือนผู้สวมใส่หรือผู้ดูแลเกี่ยวกับปัญหาของสุขภาพก่อนที่ผู้สวมใส่จะป่วย หรือเมื่อพวกเขาไม่สามารถที่จะบอกใครได้
AiQ ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2551 อยู่ในทุกๆ ส่วนของอุตสาหกรรม smart clothing ตั้งแต่ต้นน้ำไปยังปลายน้ำ ผลิตวัตถุดิบและส่วนประกอบ ทำระบบที่ใช้รวบรวมและตรวจสอบข้อมูล จนถึงผลิตสินค้าจำหน่ายให้กับผู้บริโภค
AiQ มุ่งเน้นไปที่ตลาดระหว่างแกดเจ็ตสำหรับผู้บริโภคและอุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเหมาะสม ซึ่งตลาดเหล่านี้จะเติบโดมากที่สุดในอีก 12 เดือนข้างหน้า หลังจากที่ Apple ได้เปิดตัว ResearchKit เครื่องมือสำหรับแอพเพื่อตรวจโรคต่างๆ โดยเป็นความร่วมมือของ Apple กับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ ResearchKit เป็น API สำหรับนักพัฒนาเพื่อนำพัฒนาแอพ ซึ่งจะเก็บข้อมูลไว้ใช้วิจัยโรคผู้พัฒนาแอพจะเข้าถึงเซ็นเซอร์ของ iPhone ที่จะเชื่อมต่อและประมวลผลข้อมูลที่ใช้ในทางการแพทย์อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เรียบเรียงจาก http://www.ibtimes.co.uk/wearables-2-0-sensors-woven-into-clothing-lead-medical-revolution-1491495
