ธุรกิจครอบครัวต้องใช้ “หัว” มากกว่าใช้ “ใจ”


     ผศ.ดร.เอกชัย อภิศักดิ์กุล คณบดี คณะบริหารธุรกิจ และผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาธุรกิจครอบครัว มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ความเห็นในเรื่องของการบริการธุรกิจครอบครัวแบบมืออาชีพว่า  การบริหารธุรกิจครอบครัวให้ประสบความสำเร็จผู้ประกอบการควรใช้ทั้งหัวใจและสมอง   เพียงแต่ว่าต้องมาดูกันว่าจะให้เรื่องไหนเป็นหลัก  โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจครอบครัว กลุ่มนี้จะมีเรื่องของอารมณ์และความรู้สึกอยู่แล้ว ถ้ายังไปยึดหลักเรื่องของการใช้อารมณ์หรือใช้ใจเป็นหลัก  ก็จะทำให้กิจการเดินออกไปจากเส้นทางที่เป็นมืออาชีพ
 
     ดังนั้นธุรกิจครอบครัว ควรต้องใช้เหตุ ใช้ผลน่าจะสำคัญกว่า เพราะเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก ความสัมพันธ์ที่ดี หรือความสัมพันธ์ส่วนตัวในกิจการประเภทแบบนี้ โดยพื้นฐานมีเยอะอยู่แล้ว   แต่สิ่งที่ขาดนั้นเป็นเรื่องของการทำงานแบบชนิดที่มีเหตุ มีผล มีขั้น มีตอน มีระบบ  ถ้าหากว่าเสริมส่วนนี้เข้าไป  หรือนำ 2 สิ่งนี้มาผนวกกัน ให้สมดุลกันได้แล้ว ธูรกิจก็จะเป็นรูปแบบที่สมบูรณ์ หรือเป็นธุรกิจแบบมืออาชีพ
 
     ซึ่งในปัจจุบันธุรกิจครอบครัวมีการบริหารแบบมืออาชีพน้อยมาก ด้วยความที่เป้าหมายของการทำธุรกิจครอบครัว เป็นการทำเพื่อคนในครอบครัว ไม่ได้ตั้งเป้าทำเพื่อองค์กร  แต่ถ้าหากว่าผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของธุรกิจครอบครัว  เมื่อองค์กรโตขึ้นแล้วเริ่มมองในเหตุ ในผล ที่แท้จริงแล้ว จะรู้ได้ว่าถ้าหากว่าทำองค์กร  ทำเพื่อองค์กร สร้างคุณค่าให้กับองค์กร ท้ายที่สุดแล้วจะเป็นประโยชน์ต่อคนที่เป็นเจ้าของ หรือคนที่เป็นครอบครัวเอง  
 
     ทั้งนี้อย่าไปสับสนระหว่างการเป็นเหตุกับการเป็นผล การกินดีอยู่ดีของครอบครัวเป็นผล แต่ถ้าองค์กรดี เข้มแข็ง มีการเจริญเติบโตที่น่าสนใจคนที่เป็นเจ้าของได้ประโยชน์อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าเราโฟกัสที่องค์กร เราจะได้ประโยชน์อยู่แล้ว แล้วผลจะตามมาเอง  แต่ถ้าเราโฟกัสที่ครอบครัวแล้วละเลยการทำงานที่มีประสิทธิภาพหรือการสร้างองค์กรให้เข้มแข็งเอาไว้  ท้ายที่สุดผลก็จะส่งมาที่คนที่เป็นเจ้าของคือครอบครัวเรา และถ้าองค์กรเราไม่เข้มแข็ง ผลร้ายก็จะเกิดกับเจ้าของธุรกิจ
 
รับชมรายการ SME Smart Service ย้อนหลังได้ที่ http://www.smartsme.tv/vod_detail.php?gid=18&id=3984
   
สนับสนุนโดย “TMB”