ผู้ใช้เฟซบุ๊ก “หน่อย โซ่ตึง” ได้โพสต์ข้อความ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ออกกฎให้ยานพาหนะที่ท่อไอเสียเป็นท่อสูตร ไม่ว่าเสียงดังหรือไม่ดัง ห้ามขึ้นไปด้านบนอุทยานฯ ทั้งสิ้น
เฟซบุ๊กส่วนตัว หน่อย โซ่ตึง ที่มีคนแชร์นับพับระบุข้อความว่า ข่าวด่วน จนท. เขาใหญ่ ทั้งฝั่งปากช่องและปราจีนเขาฝากมา ว่า ตอนนี้ ไม่ใช่แค่วัดเสียงไม่เกินแล้วผ่านได้นะ เนื่องจาก พวกไบเกอร์ฉลาด เล่นเอาฝอยขัดหม้อไปยัดท่อเอาไว้เพื่อวัดผ่านด่านได้ แต่พอขึ้นไปข้างบน ก็เอาออก หรือ อาจจะหลุดออกมาเอง ทางปลายท่อทีนี้ผู้ใหญ่เขาอยู่ที่ สนง.บริเวณโรงอาหารน่ะ เขาได้ยิน เขาเห็นเสียงท่อมันดัง กึกก้องกังวาน สะท้อนไปมากับหุบเขา เขาก็ “เล่นงานเจ้าหน้าที่” ที่ปล่อยรถคันนี้ผ่านขึ้นเขามา ซึ่งการเล่นงาน จนท. เขาก็จะดูจากบัตรผ่านประตูของคุณนั้นละ เวลาขึ้นทางฝั่งไหน เขาก็จะรุบะตัว จนท.ที่ปล่อยรถท่อดังขึ้นไปได้เพื่อยุติปัญญานี้ จนท.เขาใหญ่จึงออกกฏใหม่ มาอีก อ่านกันดีๆนะ “รถที่เป็นท่อสูตรไม่ว่าเสียงดังหรือไม่ดัง ห้ามขึ้นทั้งสิ้น” ให้ขึ้นได้เฉพาะรถท่อเดิมเท่านั้น อันนี้เขาฝากบอกมาบอกนะ มีอีกเรื่องเขาไม่ได้ฝากมาบอก แต่เขาบ่นให้ผมฟัง เขาบอกว่า พวกวัดท่อไม่ผ่าน โวยวายเสียงดังจะเอาเรื่องกับเขา ขาวนกลับออกไป เบิ้ลรอบตัดบ้าง ยกล้อบ้าง บลาๆๆๆ แล้วแต่ว่าจะแสดงความไม่พอใจออกมาในลักษณะไหน ลองนึกภาพกันเอาเองนะ พวกเราไบเกอร์นึกภาพนี้ออกกันทุกคน #ผมเสียใจกับพี่คนที่โดนนายลงโทษด้วยนะครับ และ เสียใจกับไบเกอร์ทั้งวงการด้วยนะ บางคนบอก ไม่เห็นเป็นไร ก็ใส่ท่อเดิมไปสิ!! ต้องอย่าลืมเพื่อนที่ซื้อรถมือสองมาแล้ว ไม่มีท่อเดิมติดรถมาด้วยนะ คนพวกนั้นไม่มีท่อเดิมให้เปลี่ยนง่ายๆนะ (ผมหมายถึงกลุ่มคนนิยมรถปีเก่า ยิ่งปีต่ำกว่า2006ยิ่งหากันไม่ค่อยได้) และขอให้เข้าใจตรงกันว่า ทุกวันนี้เขาอนุโลมให้พวกเรานะครับ จนท.ที่วัดท่อฝั่งปากช่องเขาฝากมา
ซึ้งทั้งหมดเกิดจาก บิ๊กไบค์หัวหมอ ใส่ฝอยขัดหม้อลงบนท่อสูตรเพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ วัดเสียง ก่อนจะปล่อยเสียงดังกลางป่า รบกวนสิ่งมีชีวิต เจ้าหน้าที่จึงต้องออกกฎเหล็กห้ามรถท่อสูตรทุกชนิดขึ้นไปด้านบน ไม่ว่าจะเสียงดังหรือไม่ดังก็ตาม
โดยที่ผ่านมา ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่เข้มงวดกับยานพาหนะมาตั้งแต่ปี 2556 เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนสัตว์ป่า โดยเฉพาะช้างป่า ซึ่งอาจจะเครียดและตกใจวิ่งกรูเข้าหา เป็นอันตรายแก่นักท่องเที่ยวคนอื่นได้ โดยกำหนดให้รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ มีความดังของท่อไอเสียไม่เกิน 95 เดซิเบล และจำกัดความเร็วไม่เกิน 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งจะใช้เครื่องมือตรวจวัดระดับเสียงที่ด่านทางขึ้นทั้งสองฝั่ง
