โตโยต้าขับเคลื่อนความสุขสู่กิจกรรม CSR “การแบ่งปันที่ไม่สิ้นสุด”


โตโยต้า บริษัทผลิตรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่น มีปรัชญาการดำเนินธุรกิจ คือการส่งเสริมพัฒนาการและสวัสดิการของประเทศ ควบคู่ไปกับการเจริญเติบโตของชุมชนในประเทศที่โตโยต้าเข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้ยึดถือมาโดยตลอดในการดำเนินงานภายในประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “โตโยต้า ขับเคลื่อนความสุข
หากพูดถึงเรื่องความสุข เราอาจจะเอ่ยได้ว่าความสุขนั้นเกิดได้จากหลายรูปแบบ แต่รูปแบบที่โตโยต้าเล็งเห็นนั้น คือความสุขที่ยั่งยืนต้องมาจากการช่วยเหลือ หรือสร้างความสุขให้ผู้อื่น และคนเหล่านั้นสามารถส่งต่อความสุขให้กับคนอื่นๆ ต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด หรือเรียกอีกอย่างว่าความสุขที่เกิดจาก “การแบ่งปัน”
สำหรับแนวทางการดำเนินกิจกรรมเพื่อสังคมของโตโยต้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนสังคมไทยสู่ “ยุคแห่งการพัฒนาอย่างยั่งยืน” ผ่านกิจกรรมสังคม 3 ด้านหลัก ดังต่อไปนี้

1. ด้านเศรษฐกิจ: โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์”
คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เล่าถึงที่มาของโครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” ว่าธุรกิจชุมชนเป็นภาคเศรษฐกิจที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ แต่ปัญหาอย่างหนึ่งที่ต้องพบโดยดูจากสถิติ และควรได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงที คือ ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความเข้าใจในการจัดการบริหารธุรกิจ จึงทำให้มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่รอด อยู่ได้ด้วยตัวเองแบบยั่งยืน ดังนั้น โตโยต้าจึงนำประสบการณ์ในการทำธุรกิจที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ได้แก่ ระบบการผลิตแบบโตโยต้า วิถีโตโยต้า และปรัชญาลูกค้าที่เป็นหนึ่งมาถ่ายทอดสู่ผู้ประกอบการ OTOP และ SMEs เปรียบเสมือนสุภาษิตจีนที่ว่า “ถ้าท่านให้ปลาแก่คนจน เขามีปลากินแค่ตัวเดียว แต่ถ้าท่านสอนวิธีจับปลาให้เขา เขาจะมีกินตลอดชีวิต

สำหรับ โครงการ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” เกิดขึ้นมาเพื่อนำความรู้ ประสบการณ์ที่เรียกว่า “ไคเซ็น – การปรับปรุงพัฒนาอย่างต่อเนื่อง” มาถ่ายทอดให้กับผู้ประกอบการนำกลับไปปรับใช้ในการทำธุรกิจอย่างมืออาชีพ เพิ่มกำไร และที่สำคัญคือสามารถอยู่ได้ด้วยตนเองแบบยั่งยืน เหล่านี้จะนำมาสู่การสร้างความเข้มแข็งแก่เศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างมั่นคง

โดยแนวคิดการถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านโครงการโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ ในขั้นต้นแบ่งปันประสบการณ์แก่ธุรกิจชุมชน ผ่านพนักงานเกษียณอายุผู้เชี่ยวชาญระบบการผลิตแบบโตโยต้า ที่มาร่วมถ่ายทอดประสบการณ์ ศึกษาปัญหา และปรับปรุงธุรกิจของชุมชน ซึ่งนำมาสู่การแบ่งปันในขั้นที่สอง คือการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เกิดความสุขของพนักงานและชุมชน ส่วนขั้นสุดท้าย เมื่อธุรกิจชุมชนสามารถพัฒนาการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง โตโยต้าจะตกลงกับผู้ประกอบการในการยกระดับให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ “โตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์” เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์สู่ธุรกิจชุมชนอื่นๆ ต่อไป

รู้หรือไม่ว่า ปัจจุบันโตโยต้าได้ดำเนินโครงการดังกล่าวแล้วทั้งหมด 12 ชุมชน ใน 12 จังหวัด พร้อมกับยกระดับเป็นศูนย์การเรียนรู้ 2 แห่ง ประกอบด้วย ธุรกิจตัดเย็บเสื้อโปโล ฮาร์ทโอทอป จ.กาญจนบุรี และวิสาหกิจชุมชนข้าวแตนสมุนไพรสายทิพย์ จ.ขอนแก่น ไม่เพียงเท่านั้น โตโยต้า ยังไม่หยุดที่จะเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเศรษฐกิจฐานรากเพียงเท่านี้ เพราะภายในปี 2561 โตโยต้ามีแผนที่จะขยายโครงการเพิ่มอีก 10 จังหวัด เพื่อที่จะนำองค์ความรู้มาถ่ายทอด และแบ่งปันประสบการณ์ให้กับผู้ประกอบการนำกลับไปปรับใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป

2. ด้านสังคม: มูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย
คุณประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทย เล่าถึงจุดประสงค์ของโครงการว่ามีความมุ่งมั่นในการดำเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ 1)พัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก เยาวชน และคนพิการ 2)ส่งเสริมการดำเนินการขององค์กรสาธารณกุศลต่างๆ และ 3)ส่งเสริมการศึกษาแก่เด็กและเยาวชน ซึ่งที่ผ่านมามูลนิธิโตโยต้าประเทศไทยได้แบ่งปันโอกาสแก่เยาวชนที่ขาดแคลนเป็นทุนการศึกษาไปแล้วทั้งสิ้น 13,641 ทุน โดยหวังว่านักเรียนทุนจะนำภูมิปัญญาและโอกาสที่ได้รับไปถ่ายทอด ต่อยอด เพื่อสร้างประโยชน์แก่ผู้อื่น

ทั้งนี้ ทุกโครงการของมูลนิธิโตโยต้าประเทศไทยล้วนมีจุดประสงค์เพื่อจะยกระดับชีวิตของเด็กและเยาวชน รวมถึงชุมชนที่ยังขาดแคลนให้มีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ และเสริมสร้างให้ประชากรมีศักยภาพ เพื่อนำไปสู่การเป็นกำลังสำคัญของประเทศ และสร้างสังคมไทยให้เข้มแข็งต่อไป

3. ด้านสิ่งแวดล้อม: โครงการ “โตโยต้าเมืองสีเขียว”
บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ยึดมั่นในการบริหารจัดการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในทุกกระบวนการ ตั้งแต่กระบวนการต้นน้ำ นั่นคือ การจัดซื้อ การขนส่ง ต่อเนื่องมาถึงกระบวนการกลางน้ำ คือการผลิตในโรงงาน จนถึงปลายน้ำ นั่นคือ ผู้แทนจำหน่ายโตโยต้า ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และส่งมอบองค์ความรู้ผ่านกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการ โตโยต้าเมืองสีเขียว

คุณวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย เล่าถึงโครงการนี้ว่า โตโยต้ามีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างจิตสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่สังคมไทย จึงได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง เช่น กิจกรรมปลูกป่าชายเลน, กิจกรรมปลูกป่านิเวศ เพื่อแบ่งปันความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมทั่วประเทศ โดยทั้งหมดนี้เป็นความตั้งใจที่จะสร้างประเทศไทยให้กลายเป็น “เมืองสีเขียว” พัฒนาคุณภาพการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม

สำหรับในอนาคต โตโยต้ายังไม่หยุดที่จะขับเคลื่อนความสุข มอบสิ่งดีๆ คืนกลับสังคมไทย โดยวางแผนขยายโครงการโตโยต้า ธุรกิจชุมชนพัฒน์ และศูนย์การเรียนรู้ฯ ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือกับภาครัฐ ชุมชน และผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศ, การสนับสนุนทุนการศึกษาพยาบาลสาขาผู้สูงวัย และทุนพัฒนาศักยภาพเด็กและเยาวชน เพื่อตระหนักถึงแนวโน้มปัญหาของสังคมสูงวัย รวมถึงเยาวชนที่ถูกละเลยจากบิดา มารดา ที่เข้าไปทำงานในเมืองหลวง และการเปิดตัว “โตโยต้าเมืองสีเขียว อยุธยา” ศูนย์การเรียนรู้แห่งแรกนอกโรงงาน ที่ตั้งขึ้นเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อม 5 ด้าน ได้แก่ การเพิ่มพื้นที่สีเขียว การอนุรักษ์น้ำ การใช้พลังงานทดแทน การเดินทางอย่างยั่งยืน และการจัดการขยะ แก่คนในชุมชน นักท่องเที่ยว เพื่อนำไปสู่การลงมือปฏิบัติ ก่อนที่จะขยายองค์ความรู้ สู่ชุมชนในจังหวัดอื่นๆต่อไป

 

ทั้งนี้ โตโยต้าเชื่อว่าการแบ่งปันที่ดีที่สุดคือการ “แบ่งปัญญ์” หรือการ “แบ่งปันภูมิปัญญา” จึงเกิดกิจกรรมเพื่อสังคมทั้ง 3 ด้าน ซึ่งเป็นเรื่องที่โตโยต้ายึดมั่นมาโดยตลอด เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ยกระดับสังคมไทยให้เติบโต และมีความสุขแบบยั่งยืนตลอดไป