ไปรษณีย์ไทย ขยายเวลาบริการเก็บเงินปลายทาง ถึง เม.ย. หลังมียอดใช้กว่า 3 แสนรายการ


หลังจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) จับมือ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดบริการเก็บเงินปลายทาง (COD) ผ่านระบบสมาร์ทเพย์เมนท์เก็บเงินปลายทาง สำหรับผู้ใช้บริการอีเอ็มเอสในประเทศ โดยที่ผู้ส่งจะได้รับเงินโอน ภายใน 2 วัน หลังจากสิ่งของถึงผู้รับ ตลอดจนยังสามารชำระเงินผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมระบบเอสเอ็มเอสแจ้งเตือนผู้ส่งและผู้รับ เช็คสถานะสิ่งของได้ตลอดเส้นทาง คาด 3 เดือนแรกยอดธุรกรรมทะลุ 2.5 แสนรายการ

 

 

ล่าสุด นายวิบูลย์ เสรีชัยพร ผู้จัดการฝ่ายการบริหารลูกค้า บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) กล่าวถึงบริการเก็บเงินปลายทาง COD ว่าได้ผลตอบรับที่ดีจากกลุ่มผู้ค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยมียอดใช้บริการมากกว่า 3 แสนรายการ และเพื่อเป็นการคืนกำไรให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง จึงได้ขยายโปรโมชั่นฟรีค่าธรรมเนียมไปจนถึง 30 เม.ย. 2562

“บริการ COD นี้ ในระยะแรกเราให้บริการควบคู่กับการส่งแบบ EMS สามารถใช้บริการได้ที่ ปณ.ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยใช้แอปพลิเคชัน Wallet@Post เป็นช่องทางในการโอนเงินคืนให้แก่ผู้ส่ง ทำให้สะดวกรวดเร็วสามารถรับเงินคืนได้ภายใน 2 วัน หลังจากสิ่งของส่งถึงผู้รับและชำระเงินเรียบร้อย และสามารถโอนเงินต่อไปยังบัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม ขณะที่การโอนเข้าบัญชีธนาคารอื่น หรือการรับเงินสดที่ไปรษณีย์คิดค่าธรรมเนียม 20 บาท การขยายเวลาโปรโมชั่นครั้งนี้เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ใช้สิทธิพิเศษอย่างทั่วถึงมากขึ้น”

 

 

ทั้งนี้ บริการดังกล่าว ได้รับการพัฒนาขึ้นด้วยระบบของ 2C2P ผู้นำในการให้บริการ Online Payment แบบครบวงจรในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อตอบสนองผู้ใช้บริการในด้านธุรกรรมทางการเงินให้สามารถ “เติม โอน ถอน จ่าย…ง่ายแค่ปลายนิ้ว” โดยมีพันธมิตรสำคัญได้แก่ธนาคารชั้นนำของประเทศ คือ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นธนาคารหลักในการเชื่อม Wallet@POST ไปยังบัญชีธนาคารของลูกค้า ทำให้สามารถโอนเงินจาก Wallet@POST เข้าบัญชี SCB ได้โดยไม่มีค่าธรรมเนียม ขณะที่การโอนเข้าบัญชีธนาคารอื่น หรือรับเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ โดยมีค่าธรรมเนียมครั้งละ 20 บาท

 

 

อย่างไรก็ตาม การพัฒนาบริการเก็บเงินปลายทางในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญของไปรษณีย์ไทย ในฐานะผู้ให้บริการพัสดุเก็บเงินปลายทาง (พกง.) รายแรกเป็นเวลานาน ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกสบายให้แก่ผู้ค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์มากขึ้น โดยในอนาคต ไปรษณีย์ไทย มีแผนขยายให้ประชาชนสามารถเลือกใช้บริการดังกล่าว คู่กับบริการส่งประเภทอื่นได้ และภายในปี 2562 ไปรษณีย์ไทย ยังเตรียมพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานในด้านอื่นๆ มากขึ้น อาทิ การชำระค่าภาษีศุลกากรสิ่งของส่งไปรษณีย์ขาเข้า ค่าสาธารณูปโภค รวมถึงค่าสินค้าและบริการจากร้านค้าที่ร่วมรายการ เป็นต้น