อภิมหาเศรษฐีใหม่มูลค่าพันล้านดอลลาร์ที่มั่งคั่งจากวัคซีนป้องกันโควิด-19 เรียงลำดับตามสินทรัพย์สุทธิ
1.) สเตฟาน แบนเซล ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของโมเดอร์นา มีผลกำไรกว่า 4.3 พันล้านดอลลาร์
2.) อูกูร์ ซาฮิน ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งไบออนเทค 4 พันล้านดอลลาร์
3.) ทิโมธี สปริงเกอร์ นักภูมิคุ้มกันวิทยาและนักลงทุนผู้ก่อตั้งโมเดอร์นา 2.2 พันล้านดอลลาร์
4.) นูบาร์ อาเฟยัน ประธานโมเดอร์นา 1.9 พันล้านดอลลาร์
5.) ฮวน โลเปซ เบลมอนเต ประธานอาร์โอวีไอ บริษัทผลิตและบรรจุวัคซีนให้โมเดอร์นา 1.8 พันล้านดอลลาร์
6.) โรเบิร์ต แลงเกอร์ นักวิทยาศาสตร์และนักลงทุนผู้ก่อตั้งโมเดอร์นา 1.6 พันล้านดอลลาร์
7.) จู เถา ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานคณะนักวิทยาศาสตร์แคนซิโน ไบโอโลจิกส์ 1.3 พันล้านดอลลาร์
8.) ฉี ตงซู ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานอาวุโสแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ 1.2 พันล้านดอลลาร์
9.) เหมา ฮุ่นหัว ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานอาวุโสแคนซิโน ไบโอโลจิกส์ 1 พันล้านดอลลาร์
ส่วน 8 อภิมหาเศรษฐีที่รวยขึ้นจากโรคระบาดโควิด-19 ได้แก่
1.) เจียง เหรินเจิงและครอบครัว ประธานบริษัทจี้เฟย ไบโอโลจิคอล มีผลกำไรกว่า 2.44 หมื่นล้านดอลลาร์
2.) ไซรัส ปุณวัลลา ผู้ก่อตั้งสถาบันเซรุ่มแห่งอินเดีย 1.27 หมื่นล้านดอลลาร์
3.) เซี่ยปิง จากซิโนฟาร์ม 8.9 พันล้านดอลลาร์
4.) อู๋ ก้วนเจียง ผู้ร่วมก่อตั้งจี้เฟย ไบโอโลจิคอล 5.1 พันล้านดอลลาร์
5.) โทมัส สตรูอิงแมนและครอบครัว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์
6.) แอนเดรียส สตรูอิงแมนและครอบครัว 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งสองครอบครัวนี้อยู่ในกลุ่มผู้ลงทุนในหลากหลายบริษัท รวมไปถึงบริษัทไบออนเทคของเยอรมนีและเมกาฟาร์มาของอุรุกวัย
7.) ปัญกาจ พาเทล ควบคุมคาดิลา เฮลธ์แคร์ บริษัทจดทะเบียนที่ตอนนี้ผลิตยารักษาโควิด-19 หลายตัว เช่น เรมดิซิเวียร์จากจีเลียด ส่วนไซคอฟดี วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของคาดิลาเฮลธ์แคร์ ขณะนี้อยู่ระหว่างทดลองทางคลินิกพาเทล มูลค่าทรัพย์สินกว่า 5 พันล้านดอลลาร์
8.) แพทริก ซุน-เฉียง บริษัทอิมมูนิตีไบโอของเขาได้รับเลือกให้มาทำโครงการ “Operation Warp Speed” ของรัฐบาลสหรัฐเพื่อเร่งพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 มีผลกำไรกว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์
.
นิตยสารฟอบส์ (Forbes Rich List) ระบุว่า อภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ทั้ง 9 คน มีความมั่งคั่งสุทธิรวมกัน 1.93 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งนั่นนับว่ามากพอจะฉีดวัคซีนให้ประชาชนทุกคนในประเทศรายได้ต่ำได้ถึง 1.3 ครั้ง
ขณะเดียวกันประเทศรายได้ต่ำเหล่านี้กลับได้รับวัคซีนเพียง 0.2% ของอุปทานโลก เพราะวัคซีนขาดแคลนอย่างมาก ทั้งที่ประเทศรายได้ต่ำมีประชากรอาศัยอยู่ถึง 10% ของประชากรโลก
นอกเหนือจากสร้างอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่แล้ว ยังมีเศรษฐีพันล้านหน้าเดิมอีก 8 คน ที่มีพอร์ตการลงทุนในวัคซีนโควิด-19 มากมาย มั่งคั่งรวมกันเพิ่มขึ้น 3.22 หมื่นล้านดอลลาร์ มากพอที่จะฉีดวัคซีนให้กับประชากรทุกคนในอินเดียได้เลยทีเดียว
.
นักเคลื่อนไหวจากพันธมิตรวัคซีนของประชาชน ที่มีสมาชิกเช่น กลุ่มโกลบอลจัสติสนาว องค์กรการกุศลออกซ์แฟม และยูเอ็นเอดส์ ช่วยกันวิเคราะห์ข้อมูลความมั่งคั่งของนิตยสารฟอร์บส เพื่อตอกย้ำว่า ความมั่งคั่งมหาศาลกำลังตกอยู่ในมือคนไม่กี่คนจากวัคซีนที่ส่วนใหญ่มาจากเงินทุนสาธารณะ
แอนนา แมริออต ผู้จัดการด้านนโยบายสุขภาพของออกซ์แฟม กล่าวว่า บทพิสูจน์ถึงความล้มเหลวร่วมกันในการควบคุมโรคร้ายนี้คือ โลกได้สร้างอภิมหาเศรษฐีหน้าใหม่ขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ฉีดวัคซีนให้ผู้ต้องการความปลอดภัยไม่ได้
“เศรษฐีพันล้านเหล่านี้คือโฉมหน้าของคนที่ได้กำไรมหาศาล บริษัทยาหลายแห่งกำลังผูกขาดวัคซีนที่พวกเขามี วัคซีนเหล่านี้ได้ทุนมาจากเงินสาธารณะ จึงควรเป็นสินค้าสาธารณะแก่คนทั่วโลกก่อน ไม่ใช่เปิดโอกาสให้เอกชนหากำไร เราต้องการให้ยุติการผูกขาดนี้ทันที เพื่อที่เราจะสามารถผลิตวัคซีนเพิ่มขึ้นแล้วราคาถูกลง สามารถฉีดได้ทั้งโลก” แมริออตกล่าว
.
เว็บไซต์ออกซ์แฟมรายงานว่า อภิมหาเศรษฐีวัคซีนกำลังถูกสร้างขึ้นจากการที่บริษัทวัคซีนมีอำนาจผูกขาดทำให้ราคาหุ้นบริษัทยาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยความคาดหวังว่าวัคซีนป้องกันโควิด-19 จะทำกำไรได้มหาศาล การผูกขาดยังเปิดช่องให้บริษัทยาควบคุมอุปทานและราคาวัคซีนทั้งหมด ดันให้กำไรของพวกเขาสูงขึ้นไปอีกขณะที่ประเทศยากจนเข้าถึงวัคซีนได้ยากขึ้น
งานวิจัยชิ้นนี้เกิดขึ้นก่อนการประชุมผู้นำสุขภาพโลก G20 จะจัดขึ้นเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ณ.กรุงโรม อิตาลี ท่ามกลางกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกทรัพย์สินทางปัญญาของวัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นการชั่วคราว เพื่อส่งเสริมการผลิตวัคซีนในประเทศกำลังพัฒนา เพื่อช่วยแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน
“วัคซีนประสิทธิภาพสูงที่เรามีได้มาจากเงินภาษีก้อนใหญ่ของประชาชน จึงไม่ยุติธรรมถ้าบุคคลใดจะร่ำรวยขณะที่ประชาชนหลายแสนคนต้องเผชิญกับโควิดระลอก 2 ระลอก 3 โดยไม่ได้รับการปกป้อง แต่ละวันมีผู้เสียชีวิตหลายพันคนในอินเดีย ช่างน่ารังเกียจยิ่งที่เอาผลประโยชน์ของอภิมหาเศรษฐีเจ้าของบริษัทยาใหญ่ๆ มาก่อนความจำเป็นของผู้คนนับล้าน” ไฮดี โชว์ ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวางแผนและรณรงค์จากโกลบอลจัสติสนาว ได้แสดงความเห็นทิ้งท้ายไว้อย่างน่าสนใจ
.