“ราเม็งแก๊สน้ำตา” ใครจะไปเชื่อว่ามีอยู่จริง แต่ญี่ปุ่นทำให้มันเกิดขึ้นแล้ว หลังมีคนทดลองกินแล้วพบว่า “มันอร่อยจนต้องน้ำตาไหลเพราะความแสบ”


เมื่อพูดถึง แก๊สน้ำตา หลายคนคงจะรู้สึกไม่ดีกับคำนี้ เพราะไม่ว่าจะในสถานการณ์แบบไหน การจะได้พบกับเจ้าวัตถุที่เกิดมาเพื่อปราบจราจลคงเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมณ์เป็นแน่แท้ และคงไม่มีใครอยากคิดถึงรสชาติของมัน แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่นแล้ว อะไรที่คุณคิดว่าไม่น่าจะมี ก็มักจะมีให้เห็นอยู่ร่ำไป เช่นเรื่องที่เรากำลังจะนำเสนอนี้

เพราะมีผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นนามว่า @hyo_co ได้ทวีตระบุข้อความว่า “ผมไม่อยากกินแก๊สน้ำตา” พร้อมกับโพสต์รูปภาพของราเม็งสำเร็จรูปแบบถ้วยสีเขียว ที่ถูกวางขายในราคา ถ้วยละ 108 เยน หรือประมาณ 32 บาท ซึ่งได้รับความสนใจจากชาวเน็ตญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

.

.

ซึ่งการใช้คำว่าแก๊สน้ำตากับของกินดูเหมือนจะเป็นคำที่ไม่ควรใช้โน้มน้าวให้ผู้คนมาซื้อของกิน ซึ่งชาวเน็ตจำนวนมากก็รู้สึกเช่นเดียวกับ @hyo_co ว่า “ผมไม่อยากกินแก๊สน้ำตา” หากแต่นับว่าผู้ผลิตอาจมองเห็นถึงความน่าสนใจนี้ จนกล้าผลิตออกมา

และแน่นอนว่าราเม็งถ้วยนี้ไม่มีส่วนผสมของแก๊สน้ำตาเลยแม้แต่น้อย แต่การที่ใช้คำดังกล่าวก็ดูเหมือนจะดึงดูชาวเน็ตที่อยากรู้อยากเห็นและอยากลองได้เป็นอย่างดี

.

.

.

โดยราเม็งแก๊สน้ำตาที่เขาพูดถึงนั้นเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป “Yamawasabi Shio Ramen” จากแบรนด์ Secoma แบรนด์สินค้าจาก Seico Mart เครือข่ายร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของจังหวัดฮอกไกโด 

ซึ่งวัตถุดิบของบะหมี่ชนิดนี้ ใช้ส่วนผสมของวาซาบิเป็นส่วนประกอบหลัก พร้อมกับมีคำเตือนติดข้างถ้วยว่าเด็กเล็กและผู้ที่ไม่คุ้นเคยกับอาหารรสเผ็ด ต้องควรระมัดระวังเป็นพิเศษกันเลยทีเดียว

.

.

และเมื่อเรื่องราวนี้แพร่สะพัดออกไป จนไปเข้าตา เคซีย์ บาเซิล ผู้ก่อตั้งสื่อดังของญี่ปุ่นอย่าง Soranews24 ทำให้เขาตัดสินใจมาลองชิมราเม็งถ้วยนี้ด้วยตัวเอง

ซึ่งเมื่อเขาได้อ่านฉลากก็จะพบว่าราเม็งถ้วยนี้ส่วนประกอบของวาซาบิและเกลือ โดยภายในมีเครื่องปรุงเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือซองผงน้ำซุปสีเหลืองอ่อน และกลิ่นก็เหมือนผงซุปทั่วไป ซึ่งผิดจากที่คาดไว้ว่าต้องเป็นสีและกลิ่นเหมือนกับวาซาบิ 

แต่เมื่อเขาได้ลองชิมผงดังกล่าวเข้าไปก็พบว่ามันมีรสชาติของวาซาบิอยู่ จากนั้นเขาก็ได้ต้มน้ำร้อนและกินมันเข้าไปตามปกติ ก่อนจะพบว่ามันมีรสชาติที่อร่อยและรสชาติก็มีความเผ็ดร้อนในระดับที่ทนได้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่สามารถกินวาซาบิได้หรือชื่นชอบในวาซาบิอยู่แล้ว 

.

.

.

ทว่าหลังจากที่เขากินไปได้จนเกือบหมดเขาก็รู้ที่มาที่แท้จริงของชื่อ “ราเม็งแก๊สน้ำตา” เพราะหลังจากที่เขาพยายามยกซดน้ำซุปนั้น เครื่องเทศที่ยู่ในไอน้ำที่ระเหยออกมาโดนดวงตานั้นกลับทำให้เกิดความรู้สึกแสบร้อนเป็นอย่างมาก

.

.

แน่นอนมามันทำให้เขารู้ได้เลยทันทีว่าทำไมถึงใช้ชื่อนี้ และนี่จึงทำให้นี่ก็กลายเป็นประสบการณ์การกินราเม็งแก๊สน้ำตาที่ “น้ำตาไหลจริง แสบตาจริง สมชื่อสินค้า”

ที่มา : soranews24

.