“เดอะมอลล์กรุ๊ป” ชู 10 แผนแม่บทสร้างงาน สร้างรายได้ให้ประเทศกว่าแสนล้านบาท


ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ส่งจดหมายไปยังเหล่า 20 เศรษฐีชั้นนำของประเทศไทย เพื่อรับฟังความคิดเห็น และขอความร่วมมือในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

โดยที่ผ่านมาก็ได้มีนักธุรกิจที่ได้รับจดหมาย ทยอยตอบกลับไปยังนายกรัฐมนตรีถึงแนวทางการให้การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ล่าสุดเป็นบริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป ที่ตอบกลับจดหมายถึงนายกรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อย โดยนางศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เขียนผ่านจดหมายโดยมีใจความสำคัญ ว่า บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป มีความยินดีที่ได้รับเกียรติเป็นส่วนหนึ่งของภาคเอกชนในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ที่ผ่านมา บริษัทเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ช่วยเหลือ และสนับสนุนมาตรการต่าง ๆ ของรัฐบาลมาโดยตลอด ซึ่งศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้าในเครือเดอะมอลล์ กรุ๊ปทุกแห่งได้ยกระดับมาตรฐาน ความปลอดภัย ด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดต่อเนื่อง

นอกจากนี้ เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังเสนอยุทธศาสตร์การสร้างคุณภาพชีวิตให้กับคนไทย ครอบคลุมทุกภาคส่วนทั้งในเรื่องของการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับประเทศไทยภายใต้บรรทัดฐานใหม่ New Normal ภายใต้กลยุทธ์ที่ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต้องให้ความสำคัญ 3 หัวข้อ ได้แก่

1. Globalization ทำให้ประเทศไทยเป็นอันดับ 1 ของ South East Asia

2. Digitalization การนำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้สำหรับ New Normal ทั้งในแง่การทำธุรกิจ และการใช้ชีวิตในโลกยุคใหม่

3. Tourism เป็น Spearhead หัวหอกหลักที่จะนำประเทศไทยในการฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด และมีผลต่อเนื่อง Value Chain ไปยังธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกมากมาย และเป็นส่วนที่ประเทศไทยสามารถใช้เป็นจุดแข็ง ในฐานะที่ประเทศไทยเป็น Tourist Destination of the World โดยเฉพาะกรุงเทพมหานครที่เป็น World Number 1 Tourist Destination ติดต่อกันถึง 4 ปี อีกทั้งภูเก็ตและพัทยาติดอันดับ Top 10 Tourist Destination in Asia

ไม่เพียงเท่านั้น เดอะมอลล์ กรุ๊ป ยังเสนอ 10 แผนแม่บท 10 แผนยุทธศาสตร์ ที่จะขอให้ภาครัฐบาล และภาคเอกชนร่วมมือกัน

1. ประเทศไทยเป็นสวรรค์ของการช้อปปิ้งระดับโลก
2. ประเทศไทยเป็นศูนย์รวมอาหารของโลก
3. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความบันเทิงและแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
4. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการประชุมสัมมนาและจัดแสดงสินค้าระดับโลกในภูมิภาคเอเชียอาคเนย์
5. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางแห่ง ศิลปวัฒนธรรมในภูมิภาคเอเชีย
6. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการจัดเทศกาลแห่งความสุขและสนุกสนานระดับโลก
7. อ่าวไทยและคาบสมุทรอันดามัน เสมือนเป็นริเวียร่าแห่งโลกตะวันออกและเส้นทางเดินเรือสำราญที่สำคัญของเอเชีย
8. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านการแพทย์ สุขภาพ ความงาม และสปา ในภูมิภาคเอเชีย
9. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคเอเชียอาคเนย์ในการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ สำหรับ ผู้ประกอบการ เอสเอ็มอี และ สตาร์ทอัพ
10. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน