BEST Express ผู้ให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย แบรนด์ธุรกิจบริการขนส่งพัสดุสินค้า รุกขยายสาขารูปแบบแฟรนไชส์ในไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน รองรับการเติบโตการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มสูงอย่างมหาศาล โดยตั้งเป้า 2,000 สาขา ขึ้นแท่นผู้นำในอีก 3 ปีข้างหน้า
นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า BEST Express เริ่มเปิดให้บริการธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน (เอ็กซ์เพรส) ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) นอกจากการขยายเครือข่ายบริการในประเทศไทยแล้ว BEST Express ยังได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนามเมื่อเดือนตุลาคม 2562 และเปิดให้บริการในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา โดยได้นำรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์และนวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดส่งพัสดุที่ประสบความสำเร็จจากประเทศจีนมาเพิ่มศักภาพ ซึ่งเราเป็นแบรนด์เอ็กซ์เพรสเจ้าแรกที่ดำเนินธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์ 100%
ปัจจุบัน BEST Express มีศูนย์บริการทั้งหมด 500 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ และคาดการณ์ว่าจะขยายให้ครบ 800 สาขาภายในสิ้นปีนี้ พร้อมตั้งเป้า 1,000 สาขาในปี 2564 และจะขยายสาขาให้ได้ 2,000 สาขาในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยความแข็งแกร่งของแฟรนไชส์และความเชี่ยวชาญชำนาญพื้นที่ในแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนการบริหารจัดการเป็นเลิศ ทำให้ธุรกิจ BEST Express แบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดติดอันดับ 1 ใน 5 แบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนแถวหน้าของประเทศไทยภายในระยะเวลา 1 ปี
“ความสำเร็จของ BEST Express สามารถพิสูจน์จากการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่สินค้ามีการจัดโปรโมชั่นช่วงวันที่ 11 เดือน 11 ที่ผ่านมามียอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่าตัว เรามั่นใจว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า BEST Express จะสามารถก้าวกระโดดขึ้นแท่นอันดับ 1 ของธุรกิจขนส่งพัสดุสินค้าแถวหน้าของเมืองไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนในรูปแบบแฟรนไชส์ได้อย่างแน่นอน” เจสัน กล่าว
นอกจากนี้ BEST Express ยังได้ปรับแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค New Normal ด้วยบริการ “BEST Express Free Door to Door service – บริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ฟรี ตั้งแต่ชิ้นแรก ไม่จำกัดจำนวนชิ้น” เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสบายกับผู้ค้าออนไลน์ในประเทศไทย
BEST Express ผู้ให้บริการ รับ-ส่งพัสดุด่วนทั่วไทย แบรนด์ธุรกิจบริการขนส่งพัสดุสินค้า รุกขยายสาขารูปแบบแฟรนไชส์ในไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียน รองรับการเติบโตการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มสูงอย่างมหาศาล โดยตั้งเป้า 2,000 สาขา ขึ้นแท่นผู้นำในอีก 3 ปีข้างหน้า เตรียมกำลังพนักงานกว่า 4,000 คนรับออเดอร์สินค้าช่วงโปรโมชั่น 12.12 หลังประสบความสำเร็จจากแคมเปญ 11.11 ที่ผ่านมา ด้วยยอดจัดส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้นกว่า 10 เท่าตัว
นายเจสัน เชียน ผู้จัดการทั่วไปภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ โลจิสติกส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า BEST Express เริ่มเปิดให้บริการธุรกิจขนส่งพัสดุด่วน (เอ็กซ์เพรส) ในประเทศไทย เมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2562 (ค.ศ. 2019) นอกจากการขยายเครือข่ายบริการในประเทศไทยแล้ว BEST Express ยังได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศเวียดนามเมื่อเดือนตุลาคม 2562 และเปิดให้บริการในประเทศมาเลเซียและสิงคโปร์ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2563 ที่ผ่านมา โดยได้นำรูปแบบธุรกิจแฟรนไชส์และนวัตกรรมเทคโนโลยีการจัดส่งพัสดุที่ประสบความสำเร็จจากประเทศจีนมาเพิ่มศักภาพ ซึ่งเราเป็นแบรนด์เอ็กซ์เพรสเจ้าแรกที่ดำเนินธุรกิจรูปแบบแฟรนไชส์ 100%
ปัจจุบัน BEST Express มีศูนย์บริการทั้งหมด 500 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ และคาดการณ์ว่าจะขยายให้ครบ 800 สาขาภายในสิ้นปีนี้ พร้อมตั้งเป้า 1,000 สาขาในปี 2564 และจะขยายสาขาให้ได้ 2,000 สาขาในอีก 3 ปีข้างหน้า ด้วยความแข็งแกร่งของแฟรนไชส์และความเชี่ยวชาญชำนาญพื้นที่ในแต่ละท้องถิ่น ตลอดจนการบริหารจัดการเป็นเลิศ ทำให้ธุรกิจ BEST Express แบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนทั่วไทย สามารถเติบโตแบบก้าวกระโดดติดอันดับ 1 ใน 5 แบรนด์ขนส่งพัสดุด่วนแถวหน้าของประเทศไทยภายในระยะเวลา 1 ปี
“ความสำเร็จของ BEST Express สามารถพิสูจน์จากการเข้ามาใช้บริการของลูกค้าเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงที่สินค้ามีการจัดโปรโมชั่นช่วงวันที่ 11 เดือน 11 ที่ผ่านมามียอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นถึง 10 เท่าตัว และในช่วงวันที่ 12 เดือน 12 นี้ ก็คาดการณ์ว่าจะมียอดผู้ใช้บริการเพิ่มสูงขึ้นเกิน 10 เท่าตัวอย่างแน่นอน โดยบริษัทฯได้เตรียมความพร้อมเรื่องพนักงานกว่า 4,000 คนเพื่อรองรับบริการไว้แล้ว จากศักยภาพความพร้อมของบริษัทฯ เรามั่นใจว่าภายใน 3 ปีข้างหน้า BEST Express จะสามารถก้าวกระโดดขึ้นแท่นอันดับ 1 ของธุรกิจขนส่งพัสดุสินค้าแถวหน้าของเมืองไทยและประเทศในกลุ่มอาเซียนในรูปแบบแฟรนไชส์ได้อย่างแน่นอน” เจสัน กล่าว
นอกจากนี้ BEST Express ยังได้ปรับแผนรองรับการเปลี่ยนแปลงสู่ยุค New Normal ด้วยบริการ “BEST Express Free Door to Door service – บริการเข้ารับพัสดุถึงหน้าบ้าน ฟรี ตั้งแต่ชิ้นแรก ไม่จำกัดจำนวนชิ้น” เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกสบายกับผู้ค้าออนไลน์ในประเทศไทย