ถือเป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการไทยที่น่าชื่นชม กับการคิดค้นวิธีแปรรูปพืชผลทางการเกษตรอย่าง “มันสำปะหลัง” ซึ่งที่ผ่านมาสร้างรายได้ให้กับ เกษตรกรชาวไร่ได้ไม่มากนัก แถมยังถูกกดราคารับซื้อ ให้ลืมตาอ้าปากได้ จากราคาขาย กก.ละ 5 บาท พุ่งไปถึง 80 บาท/กก.
ผลงานการแปรรูปดังกล่าว มีชื่อว่า “ทรายแมวจากมันสำปะหลัง” ซึ่งได้รับรางวัลรองชนะเลิศระดับภูมิภาค ภาคกลาง ตามโครงการสุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยระดับภูมิภาค ภายใต้ “นิลมังกรแคมเปญ” ของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA
เจ้าของผลิตภัณฑ์ “ทรายแมว” ดังกล่าว คือ อภินันท์ มหาศักดิ์สวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลตี้ ม็อกกี้ อินโนเวชั่น จำกัด กล่าวถึงแนวคิดนี้ว่า การนำมันสำปะหลัง มาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เป็นทางหนึ่งในการระบายผลผลิตของเกษตรกร
ด้วยคุณสมบัติของมันสำปะหลังที่เป็นแป้งดูดซับทั้งกลิ่นและความชื้นได้ดี ประกอบกับตนเองเป็นคนรักแมว จึงน่าจะนำมาทำเป็นทรายแมวได้
“ไฮด์แอนด์ซีค (Hide & Seek)” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ทรายแมวที่ใช้วัตถุดิบจากมันสำปะหลัง 100% ที่ปลูกในประเทศไทย และเป็นเจ้าแรกของโลกที่ใช้มันสำปะหลังมาทำเป็นทรายแมว ช่วยเพิ่มมูลค่ามันสำปะหลัง จาก กก.ละ 5 บาท เป็น 80 บาท
สำหรับกระบวนการแปรรูป โดยการนำเอามันสำปะหลังมาผ่านการให้ความร้อนและความดันที่เหมาะสม ทำให้เกิดกระบวนการ Pregela tinization กับโมเลกุลของแป้ง ช่วยปรับปรุงสมบัติเชิงโมเลกุลของสตาร์ชในมันสำปะหลัง จนได้ทรายแมวเม็ดเล็กละเอียด
ในส่วนของคุณสมบัติ ช่วยดูดซึมกลิ่นปัสสาวะของแมวได้ดีกว่าทรายแมวทั่วไป มีประสิทธิภาพสามารถจับตัวเป็นก้อน สะดวกในการทำความสะอาด นำไปทิ้งในชักโครกได้ เพราะมันสำปะหลังมีคุณสมบัติที่จะละลายแตกตัวในน้ำได้เร็ว และย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ที่สำคัญยังปลอดภัยกับแมวและผู้เลี้ยงอีกด้วย เนื่องจากทำจากมันสำปะหลัง 100% หากแมวกินเข้าไปจะไม่เป็นอันตราย