แสบ กมลวรรณ Young Smart Farmer ผู้ขับเคลี่อนเกษตรอินทรีย์วิถีใหม่


พาไปสร้างแรงบันดาลใจธุรกิจเกษตร กับคนรุ่นใหม่ที่เลือกหันหลังให้งานประจำ กลับมาสานต่อธุรกิจเกษตรกรรมของครอบครัว โดยมีเบื้องหลังความสำเร็จคือใจรักในอาชีพ และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี

คุณแสบ กมลวรรณ รุ่งประเสริฐวงศ์ เจ้าของไร่แสงสกุลรุ่ง และ Young Smart Farmer ของจังหวัดกาญจนบุรี วัย 28 ปี เล่าว่า ด้วยความคลุกคลีกับวิถีชีวิตเกษตรกรมาตั้งแต่เด็ก หลังจากทำงานด้าน QC รายได้ 20,000 บาท และเรียนไปด้วยพร้อมกันจนจบที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (ศูนย์อมตะนคร) จึงตัดสินใจกลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่ายด้วยการสานต่ออาชีพเกษตรกรของครอบครัวที่จังหวัดกาญจนบุรี เพราะมองว่าการเป็นนายตัวเอง สามารถจัดสรรเวลาได้โดยไม่ต้องใช้ชีวิตอย่างเร่งรีบ

ไร่แสงสกุลรุ่ง เป็นการทำเกษตรผสมผสานแบบทฤษฎีใหม่ บนพื้นที่ 15 ไร่ แบ่งเป็นพื้นที่สำหรับทำนา 25% บ่อปลา 30% พื้นที่เพาะปลูกพืชผลทางการเกษตร 30% พื้นที่บ้านและร้านกาแฟ 10% และโรงเรือนอัจฉริยะ อีก 5% พร้อมนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจ เช่น การทำตลาดบนโซเชียลแพลตฟอร์มอย่าง Facebook LINE IG การติดตั้งโซล่าเซลล์เพื่อช่วยลดต้นทุนด้านพลังงาน การนำนวัตกรรมมาช่วยแปรรูปอาหาร การใช้ IoT เข้ามาช่วยบริหารจัดการโรงเรือนอัจฉริยะ รวมถึงการใช้เครื่อง POS ภายในร้านกาแฟมวลชน

สำหรับผลผลิตการเกษตรอินทรีย์ทั้งหมดที่ทำอยู่ในขณะนี้ ได้แก่ การปลูกข้าว เลี้ยงปลาและกบ ปลูกมะพร้าว มะม่วง กล้วย ลำไย ทุเรียน ฝรั่ง ชมพู่มะเหมี่ยว ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ผักบุ้ง กวางตุ้ง มะกอกน้ำ การเลี้ยงไข่ผำหรือสาหร่ายน้ำจืด ฯลฯ รวมถึงการเพาะพันธุ์ต้นกล้าขาย โดยผลผลิตต่าง ๆ ยังมีการนำมาแปรรูปต่าง ๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าได้อีกด้วย เช่น กล้วยตาก มะกอกน้ำแช่อิ่ม ชาตะไคร้ ข้าวเกรียบไข่ผำ ฯลฯ ซึ่งเป็นการผลิต แปรรูป และจัดจำหน่ายด้วยตัวเองทั้งหมด

ด้านโรงเรือนอัจฉริยะขนาด 6×24 เมตร เป็นโรงเรือนที่นำเทคโนโลยี IoT หรือ Internet of Things มาใช้ ซึ่งไร่แสงสกุลรุ่งเป็น 1 ใน 20 แห่ง ที่ได้การสนับสนุนจากสำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อช่วยเพาะปลูกพืชผลเกษตรที่มีราคาสูง เช่น เมล่อน ผ่านการสั่งงานบนสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการปรับอุณหภูมิให้เหมาะสมกับพืช การรดน้ำ ใส่ปุ๋ย ในส่วนนี้หากต้องลงทุนเองก็จะมีราคาสูงถึง 4 แสนบาท ใครที่ต้องการลงทุนโรงเรือนอัจฉริยะ จึงต้องมองถึงความคุ้มค่าในอนาคต โดยเฉพาะการเลือกปลูกพืชที่มาสามารถทำราคาได้สูง

หลังจากพัฒนาไร่มาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถสร้างรายได้ต่อเดือนกว่า 20,000 บาท ลดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้นกว่าเมื่อก่อน มีอาหารที่ดีต่อสุขภาพให้เก็บเกี่ยวกินตลอดทั้งปี ทั้งยังอยู่ในสภาพอากาศที่ปลอดโปร่งสดชื่น การกลับมาเป็นเกษตรกรทำให้ความสุขที่เกิดขึ้นในแต่ละวันแตกต่างกันไป จากการเรียนรู้เพื่อแก้ปัญหาให้กับพืชผลที่ได้บ่มเพาะมาตั้งแต่ยังเป็นต้นกล้า เพื่อส่งต่อสินค้าคุณภาพให้กับผู้บริโภค และทางไร่ก็จะมีสินค้าใหม่ ๆ ไปวางขายผ่านช่องทางออนไลน์แบบไม่ซ้ำกัน ทำให้ลูกค้ารู้สึกสนุกไปกับการเลือกซื้อตลอดเวลา

ด้วยปัจจุบันคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในอาชีพเกษตรกรรมมากขึ้น จึงมองว่าการทำอาชีพนี้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย อย่างตนเองโชคดีที่ครอบครัวได้วางรากฐานอาชีพนี้มาให้แล้ว จึงเข้ามาสานต่อได้ทันที และต่อยอดโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ใครที่อยากทำอาชีพนี้ควรถามตัวเองให้ดีว่าพร้อมจะเหนื่อย และรับความผิดหวังแล้วใช่มั้ย เนื่องจากการทำเกษตรไม่ใช่การทำตามกระแส ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว เพราะมีเรื่องสภาพอากาศ ฝนฟ้า เข้ามาเกี่ยวข้อง

 

ยกตัวอย่างการปลูกทุเรียนที่ต้องรอต้นเติบโตนานกว่า 5 ปี จึงจะเก็บผลผลิตได้ และก่อนจะได้ผลผลิตทุเรียนคุณก็ต้องวางแผนว่าจะสร้างรายได้จากตรงไหน ทำให้ไร่แสงสกุลรุ่งเลือกปลูกพืชแบบผสมผสาน เพื่อเพาะปลูกพืชผลหลายหลายระดับ ทั้งพืชระยะสั้นอย่างผักสวนครัว ระยะกลางอย่างกล้วย ฝรั่ง ข้าว และระยะยาวอย่างทุเรียน ลำไย ให้เกิดการเก็บผลผลิตไปขายสร้างรายได้ในทุก ๆ วัน

ส่วนใครที่มีพื้นที่เป็นของตัวเองอยู่แล้ว การทำธุรกิจเกษตรก็จะทำได้ง่ายขึ้น ช่วงเริ่มต้นแนะนำให้ปลูกพืชระยะยาว รวมถึงการปลูกไม้มีค่าอย่าง ไม้สัก พะยูง ชิงชัน ฯลฯ เอาไว้ก่อน เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ที่มั่นคงในอนาคต ส่วนใครที่อยากได้องค์ความรู้เพิ่มแต่ไม่รู้จะปรึกษาใคร แนะนำให้เข้าไปที่สํานักงานเกษตรอำเภอ หรือถ้าต้องการพัฒนาสินค้าก็จะมีหน่วยงานมากมาย เช่น สภาอุตสาหกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สวทช. วว. สำนักงานพัฒนาชุมชน งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ รวมถึงการหาเครือข่ายพาร์ทเนอร์จากวิสาหกิจชุมชน และคนในท้องถิ่น

‘สิ่งสำคัญของการทำธุรกิจเกษตร คือการศึกษา เรียนรู้ และลงมือทำ การเป็นเกษตรกรไม่ใช่เรื่องยาก และก็ไม่ใช่เรื่องง่าย โลกของการทำการเกษตรยุคนี้เปลี่ยนไปมาก เราต้องพยายามใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ซึ่งเริ่มต้นทำได้ง่าย ๆ จากมือถือที่เรามี’ กมลวรรณ รุ่งประเสริฐวงศ์