ดรามาระอุ! พิมรี่พายต่อว่าบิวตี้บล็อกเกอร์ หลังซื้อแป้งไปรีวิวบอกข้อเสีย


แม้ว่าโลกออนไลน์จะเป็นพื้นที่ของโอกาสในการสร้างตัวตน เป็นช่องทางของการสร้างรายได้ของคนยุคนี้ แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นพื้นที่ของการสร้างความขัดแย้งระหว่างกัน

“พิมรี่พาย” ชื่อนี้ถูกกลับมาพูดถึง และขึ้นเทรนด์ทวิตเตอร์อีกครั้ง เมื่อมีการออกมาตอบโต้คู่กรณีผ่านไลฟ์ของตัวเองอย่างดุเดือด

จุดเริ่มต้นของเรื่องนี้เกิดจากเฟซบุ๊กบล็อกเกอร์ Eyeta ซึ่งมีผู้ติดตามถึง 1 ล้านคน ได้ซื้อแป้ง “PRIM” ของพิมรี่พายมารีวิว โดยวันที่พัสดุมาส่งนั้นปรากฏว่าแป้งที่ซื้อมา 3 ตลับ มี 1 ตลับที่แตกละเอียด โดยเธอก็ทาแป้งตลับนั้นแบบแตก ๆ ไปเลย พบว่าแป้งไม่ซึมเข้าผิว จึงตัดสินใจสั่งแป้งใหม่ เพื่อกลับมารีวิวอีกครั้ง

อย่างไรก็ตามเมื่อมีการรีวิวเสร็จเรียบร้อย Eyeta ได้ข้อสรุปว่า แป้ง “PRIM” เป็นแป้งปกปิดดี คุมมัน ติดทน ไม่เข้ากับเทรนด์การแต่งหน้าสมัยนี้ รวมถึงสีแป้งมีความโดด แป้งมีเนื้อทึบมาก ผิวเลยกลายเป็นหนา เป็นอิฐฯ เป็นปูน

ด้านพิมรี่พายก็ได้ออกมาตอบโต้หลังจากเหตุการณ์นี้เกิดขึ้น โดยสรุปใจความได้ว่า “เป็นบิวตี้บล็อกเกอร์มาเป็น 10 ปี ก็ไม่ดังสักที เอาแต่พัฟกด ๆ ก็บอกว่าหนา ลูก 6 ขวบ ยังทำเป็นเลยอยากได้หนา ๆ ก็เอาพัฟกด อยากได้บาง ๆ ก็เอาแปรงปัด แป้งของดี ๆ ต้องได้ด่าสักนิดหนึ่ง จะได้มีคนดู”

หลังจากพิมรี่พายพูดได้ไม่นาน ก็กลายเป็นประเด็นในโลกโซลเชียลให้ร้อนระอุอีกครั้ง โดยเฉพาะทวิตเตอร์ที่ #พิมรี่พาย ขึ้นเทรนด์ มีการตัดคลิปที่พิมรี่พายเอามาลงจนเกิดการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง

หากพูดถึงในแง่ของธุรกิจ การออกมาตอบโต้ด้วยลักษณะที่รุนแรงอาจส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจที่ทำ ซึ่งต้องมั่นใจระดับหนึ่งว่า หากทำแบบนี้แล้วยังคงมีฐานลูกค้าที่สนับสนุนอยู่ แน่นอนว่าวิธีจัดการภาพลักษณ์เมื่อเกิดปัญหามีอยู่หลายรูปแบบ การจะทำอะไรออกไปต้องยอมรับถึงผลกระทบที่ตามมาให้ได้

เรียบเรียงจาก: catdumbthairathkhaosod