ผลประกอบการ CPALL ไตรมาสแรกโกยกำไร 3,453 ล้านบาท ร้าน 7-Eleven รายได้เริ่มฟื้น


บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่าในไตรมาส 1/2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 199,731 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49.7% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 3,453 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจมีรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้น มาจากการฟื้นตัวของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ตลอดจนธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภค ทั้งแม็คโครที่รักษาการเติบโตของรายได้จากการขาย และบริการ เช่นเดียวกับการรับรู้รายได้ของธุรกิจโลคัสที่เข้ามาทั้งจำนวนในไตรมาสนี้

อีกทั้ง การเติบโตของผลประกอบการมาจากอานิสงส์การเริ่มเปิดประเทศ ที่ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจ และการบริโภคภายในประเทศปรับตัวดีขึ้น รวมถึงการใช้กลยุทธ์ O2O เช่น 7-Eleven Delivery, All Online และ 24Shopping ที่มีอัตราเติบโต

เมื่อมาดูที่ร้านสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven พบว่าในไตรมาส 1/2565 มีรายได้จากการขายสินค้า และบริการรวม 81,715 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน มีกำไรสุทธิ 2,026 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 113.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน โดยในไตรมาสนี้ สาขาของร้าน 7-Eleven รวมทั่วประเทศมีจำนวนรวมอยู่ที่ 13,253 สาขา แบ่งเป็น สาขาของบริษัท จำนวน 6,394 สาขา, ร้าน SBP และร้านค้าที่ได้รับสิทธิช่วงอาณาเขต 6,859 สาขา

ในส่วนของสถิติการซื้อของของผู้บริโภคในร้าน 7-Eleven มียอดเฉลี่ยต่อร้านต่อวันอยู่ที่ 73,460 บาท ยอดซื้อต่อบิล 84 บาท ลูกค้าที่เข้าร้านเฉลี่ยต่อวัน 871 คน โดยรายได้ส่วนใหญ่คิดเป็น 73.9% มาจากสินค้ากลุ่มอาหาร ส่วน 26.1% มาจากสินค้าอุปโภค

สำหรับแนวโน้มธุรกิจร้านสะดวกซื้อในปี 2565 มีการวางแผนเปิดสาขาใหม่อีก 700 สาขา ตั้งงบประมาณลงทุนไว้ที่ 11,500-12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นการเปิดสาขาใหม่ 3,800-4,000 ล้านบาท, ปรับปรุงร้านเดิม 2,400-2,500 ล้านบาท, โครงการใหม่ บริษัทย่อย และศูนย์กระจายสินค้า 4,000,4,100 ล้านบาท และสินทรัพย์ และระบบสารสนเทศ 1,300-1,400 ล้านบาท