คนไทยร้อยละ 49 นิยมเลี้ยงสัตว์แทนลูก เสียค่าใช้จ่ายต่อปีเกิน 10,000 บาท


สัตว์เลี้ยงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนขี้เหงาที่จะคอยเป็นเพื่อนยามโดดเดี่ยว แน่นอนว่าด้วยพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงทำให้สัตว์เลี้ยงกลายมามีความสำคัญต่อชีวิตผู้คน ตลอดจนกลายเป็นธุรกิจที่ตอบโจทย์กลุ่มคนในตลาดเหล่านี้

การสำรวจของวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) ในเดือนมกราคม 2566 มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจสัตว์เลี้ยงที่เติบโตสวนกระแสโควิด-19 โดยข้อมูลของ “ยูโรมอนิเตอร์” ระบุว่าธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินค้า-บริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 43,372 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงมีมูลค่า 110,268 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ในปี 2026 ตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลกจะสูงถึง 217,615 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 7.2%

มาดูสถานการณ์ในประเทศไทย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่ามูลค่าสัตว์เลี้ยงในไทยจะมีมูลค่าอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2026 เติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4%

เมื่อดูพฤติกรรมการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงของคนไทยจากงานวิจัยของ CMMU ที่ไปสำรวจทำแบบสอบถามจำนวน 1,046 คน (ส่วนใหญ่อายุ 24-41 ปี) และสัมภาษณ์เชิงลึกอีก 100 คน พบสถิติที่น่าสนใจ ดังต่อไปนี้

เหตุผลที่คนไทยนิยมเลี้ยงสัตว์

-ร้อยละ 49 ต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อเป็นลูก (Pet Parent)
-ร้อยละ 34 ต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อสถานะทางสังคม (Pet Prestige)
-ร้อยละ 18 ต้องการเลี้ยงสัตว์เพื่อช่วยเหลือและบำบัดรักษา (Pet Healing)

สัตว์ที่นิยมเลี้ยงมากที่สุด

-ร้อยละ 40.4 เลี้ยงสุนัข
-ร้อยละ 37.1 เลี้ยงแมว
-ร้อยละ 22.6 เลี้ยงสัตว์เอ็กโซติก

ค่าใช้จ่ายอาหารต่อเดือน

-ร้อยละ 39.3 อยู่ที่ 1,001-2,000 บาท/เดือน
-ร้อยละ 34.2 ต่ำกว่า 1,000 บาท/เดือน
-ร้อยละ 15.6 อยู่ที่ 2,001-3,000 บาท/เดือน
-ร้อยละ 10.9 มากกว่า 3,000 บาท

บริการดูแลสัตว์ที่นิยมใช้

-ร้อยละ 60.1 อาบน้ำตัดขน
-ร้อยละ 25.9 บริการรับฝากเลี้ยง
-ร้อยละ 6.7 บริการสปานวด
-ร้อยละ 5.8 บริการทำเล็บ

ปัจจัยที่เลือกใช้บริการร้านเสริมสวยสัตว์เลี้ยง

-ร้อยละ 25.7 ทำเลสะดวกต่อการเดินทาง
-ร้อยละ 16.5 ความน่าเชื่อถือของสถานบริการ
-ร้อยละ 10.6 พนักงานจำนวนเพียงพอและเชี่ยวชาญ
-ร้อยละ 2.6 แบรนด์มีชื่อเสียง
-ร้อยละ 1.7 อื่นๆ