GULF โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1/66 มีกำไร 3,688 ล้านบาท เติบโต 13%


GULF ธุรกิจด้านพลังงานเผยผลประกอบไตรมาส 1/66 มีกำไร 3,688 ล้านบาท เติบโต 13%

บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF เผยผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2566 พบว่ามีรายได้รวม 29,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน มีกำไร 3,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันกับปีก่อน

โดยปัจจัยหลักมาจากการรับรู้ผลการดำเนินงานของโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติกัลฟ์ ศรีราชา (GSRC) ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้า IPP ภายใต้กลุ่ม IPD ครบทั้ง 4 หน่วย รวม 2,650 เมกะวัตต์ที่ทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 2564-2565 เทียบกับในไตรมาส 1/2565 ที่รับรู้รายได้และกำไรจากโครงการโรงไฟฟ้า GSRC เพียง 2 หน่วย รวม 1,325 เมกะวัตต์ ส่งผลให้กลุ่ม IPD มี Core Profit เท่ากับ 1,492 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 550 ล้านบาท หรือ 58%

อีกทั้ง อีกปัจจัยหนึ่งมาจากโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ SPP 12 โครงการภายใต้กลุ่ม GMP มีรายได้และกำไรที่เพิ่มขึ้นทั้งในส่วนที่ขายไฟฟ้าให้แก่ กฟผ. และลูกค้าอุตสาหกรรม โดยสาเหตุหลักมาจากราคาขายไฟฟ้าเฉลี่ยที่สูงขึ้นตามราคาก๊าซธรรมชาติ ประกอบกับค่า Ft เฉลี่ยสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าที่ไม่ใช่ประเภทบ้านอยู่อาศัย ที่เพิ่มขึ้นเพื่อสะท้อนต้นทุนพลังงานที่สูงขึ้น โดยค่าก๊าซธรรมชาติเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 441.56 บาท/ล้านบีทียู ในไตรมาส 1/2565 มาเป็น 496.39 บาท/ล้านบีทียู ในไตรมาส 1/2566 และค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 0.0139 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง เป็น 1.5492 บาท/กิโลวัตต์-ชั่วโมง ในไตรมาส 1/2566

ไม่เพียงเท่านั้น โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลกัลฟ์ จะนะ กรีน (GCG) มีกำไรที่เพิ่มขึ้นจาก 36 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2565 มาเป็น 103 ล้านบาท ในไตรมาส 1/2566 หรือเติบโตขึ้น 188% จากช่วงเดียวกันปีก่อน

เรื่องที่เกี่ยวข้อง