เส้นทางพิชิตมงกุฎ สำหรับเวที ‘การประกวดนางงาม’ ในปัจจุบันเปิดกว้างมาก ๆ สำหรับสาวงามทุกคนที่มีความสามารถ มีความมั่นใจ เป็นนักล่าฝัน จะไปเป็นดาวโดดเด่นบนฟากฟ้า ซึ่งแตกต่างกับอดีตย้อนกลับไปกว่า 30-40 ปีที่แล้ว ที่มีเวทีการประกวดนับชื่อได้ ยกตัวอย่างในยุคแรก ๆ คือ นางสาวสยาม , นางสาวไทย , นางงามจักรวาล
แต่เมื่อโลกได้วิวัฒนาการ กระแสสังคมและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป เมื่อเวทีนางงามปัจจุบันไม่ใช่แค่การประชันความสวยอย่างเดียว แต่ต้องเก่ง ฉลาด มีเสน่ห์รอบด้านทั้งรูปร่างและความคิด เหมือนเป็นโอกาสให้หลาย ๆ คนได้แจ้งเกิด โดยมีสาวงามผู้เข้าประกวดหลายคนที่ชีวิตพลิกผันเหมือนฝัน จากหน้ามือเป็นหลังมือ
สาวงามหลายคน กลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงถูกพูดถึง เป็นคนดังชั่วข้ามคืน มีงานต่อเนื่องและสามารถกอบโกยรายได้จากอุตสาหกรรมการบันเทิง งานโฆษณา การเป็นพรีเซ็นเตอร์ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้เป็นทูตเชิงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ได้ประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่ไม่เคยได้สัมผัส ซึ่งล้วนเกิดมาจากจุดเปลี่ยนจากการเข้าสู่การประกวดนางงามนั่นเอง
ตลอดจน กระแสยังกระเพื่อมส่งไปถึง ผู้จัดเวทีประกวด สปอนเซอร์ผู้สนับสนุน ผู้ถือครองลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสด ฯลฯ ทุกอย่างในนี้ ที่รวมอยู่ในเชนธุรกิจประกวดนางงาม กลายเป็นรายได้และเม็ดเงินอย่างมหาศาล
จึงไม่แปลกใจ ที่ปัจจุบันจะมีเวทีประกวดสาวงามมากมายหลายเวที ซึ่งหากใครก็ตามที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงธุรกิจนี้ เดาได้เลยว่า คงสับสนและสงสัยว่า ปัจจุบัน มีเวทีประกวดนางงามอะไรบ้าง แล้วแตกต่างกันอย่างไร ใครเป็นผู้จัด และอะไรดึงดูดให้ธุรกิจประกวดนางงามถึงได้บูม ! ขนาดนี้
Smart SME จะพาเพื่อน ๆ ไปล้วงลึกธุรกิจประกวดนางงามแต่ละเวที ถึงจุดเด่นและรายได้ที่เข้ามา บอกได้เลยว่า แต่ละเวที มีแฟนคลับที่หนาแน่น และมีคอนเซ็ปต์ มีมาตรฐานการประกวดสูงมาก ไม่ใช่ว่าใครจะเข้ามาประกวดได้ง่าย ๆ ซึ่งแต่ละเวทีก็ล้วนผลิตดาวเดือนสวยเก่ง มากความสามารถออกมาประดับวงการในบ้านเราอย่างต่อเนื่อง ตลอดจน ยังมีอีกหลายเรื่องน่ารู้ เกี่ยวกับธุรกิจประกวดนางงาม ไปติดตามพร้อม ๆ กันได้เลย
ทำไม ? สังคมไทยให้ความสำคัญของการประกวดนางงาม
นางงาม คู่ ชุมชน
การประกวดนางงามเชื่อมโยงกับชุมชนมากขึ้น คืออีกหนึ่ง Soft Power ดี ๆ นี่เอง จากการที่มีเวทีการประกวดเกิดขึ้นอยู่ทุกจังหวัด จึงทำให้เกิดการโปรโมท ทั้งด้านการท่องเที่ยว สินค้าของชุมชน และชื่อเสียงของจังหวัด ทำให้คนภายนอกเห็นความสวยงาม และคุณค่าของชุมชนนั้น ๆ มากขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ชุมชนมีรายได้มากขึ้นอีกด้วย
ชุดประกวด นางงาม มาพร้อมกับกระแสแฟชั่น
สิ่งที่คนเฝ้ารอมาที่สุดในการประกวดนางงาม คือเสื้อผ้าหน้าผมจัดเต็ม ของนางงาม จึงทำให้เราเห็นได้ว่าการประกวดนางงามเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ทำให้อุตสาหกรรมแฟชั่นของไทยคึกคักขึ้นมาก ๆ หรือเรียกง่าย ๆ คือ เสื้อผ้าหน้าผมทำให้นางงามมีจุดยืนที่ชัดเจนขึ้น และเมื่อจุดยืนของนางงามชัดเจนขึ้น ก็ทำให้ความเป็นแบรนด์แข็งแกร่งขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจถึงความสวยงาม อารมณ์ ความรู้สึกมากขึ้นด้วย
นางงาม มีอิทธิพล กับ ทัศนคติของสังคม
ถ้าความสวยคือใบเบิกทาง ทัศนคติก็เป็นเสมือนกับถนนสู่ความสำเร็จของนางงาม เพราะทุกวันนี้การประกวดนางงาม คือการมองหาผู้หญิงที่มีความสามารถในการ Call to Action ให้คนในสังคม ฉุดคิดบางอย่าง ทั้งจากคำพูด การตอบคำถาม และจุดยืนของนางงามคนนนั้น ๆ
เราจึงเห็นได้ว่า ในช่วงเวลาของการประกวดนางงาม คำถามที่ใช้ในการประกวด คำตอบของนางงาม และธีมของการประกวด จะสอดคล้องกับบริบททางสังคมอยู่เสมอ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้นางงามอยู่คู่กับสังคมไทยได้อย่างกลมกลืน
• คำถามแรก ที่หลายคนอยากรู้คือ ปัจจุบัน มีเวทีประกวดนางงามในบ้านเรากี่เวที อะไรบ้าง ซึ่งถ้าตอบแบบกำปั้นทุบดิน คือ มีเยอะมาก แต่หากจากโฟกัสถึงกระแสที่ผู้คนให้ความสนใจมากที่สุดทุก ๆ การจัดประกวด Smart SME สรุปมาให้ทั้งหมดจำนวน 10 เวที ได้แก่
1. เวทีประกวดนางสาวไทย : นางสาวไทย (Miss Thailand) ถือเป็นเวทีการประกวดนางงามที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ยาวนานกว่า 88 ปี โดยล่าสุดในปี พ.ศ.2566 นี้ (2023) สาวไทยตัวแทนจากภาคเหนือ จ.เชียงใหม่ “ชนนิกานต์ สุพิทยาพร” คว้ามงฯ และตำแหน่งเอาไปครอง ถือเป็นคนที่ 54 ของประเทศ
2. เวทีประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ : จัดว่าเป็นเวทีนางงามที่ใหญ่ที่สุดของไทยก็ว่าได้ ซึ่งในอดีตก็เคยมีสาวไทยได้รับตำแหน่งนางงามจักรวาลถึง 2 คนด้วยกัน คือ อาภัสรา หงสกุล และ ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ซึ่งสาวงามล่าสุดที่คว้ามงฯ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023 คือ ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’
3. เวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ : อีกหนึ่งเวทีที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน มีคำขวัญประจำการประกวดว่า “งามอย่างมีคุณค่า” โดยสาวงามผู้คว้ามงกุฎชนะเลิศจะถูกส่งต่อไปประกวด มิสเวิลด์ (Miss World) ซึ่งสาวงามล่าสุดที่คว้ามงฯ มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2023 คือ ‘ทารีน่า โบเทส’
4. เวทีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ : เวทีนางงามที่ร้อนแรงสุด ๆ ของไทย ที่แม้จะก่อตั้งมาเพียง 10 ปี แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว สำหรับการประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ ซึ่งสาวงามผู้ได้รับมงกุฎชนะเลิศในปี 2022 ได้แก่ ‘อิงฟ้า วราหะ’ ซึ่งสาวงามล่าสุดที่คว้ามงฯ มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2023 คือ ‘อุ้ม-ทวีพร พริ้งจำรัส’
5. เวทีประกวดมิสเอิร์ธไทยแลนด์ : เป็นเวทีประกวดนางงามของประเทศไทยที่มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกคนตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม ผู้ชนะจะได้ร่วมเป็นตัวแทนประกวดในเวทีมิสเอิร์ธ (Miss Earth) ระดับนานาชาติ
6. เวทีประกวดมิสอินเตอร์เนชันแนลไทยแลนด์ : จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2558 โดยสาวงามผู้ชนะการประกวดจะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยเพื่อไปคว้ามงกุฎ มิสอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss International)
7. เวทีประกวดมิสทัวริซึมควีนไทยแลนด์ : จัดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2560 เพื่อเฟ้นหาราชินีการท่องเที่ยว แต่เดิมจะส่งผู้เข้าประกวดจากเวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ แต่ภายหลังได้จัดการประกวดขึ้นเอง โดยผู้ชนะจะได้เป็นตัวแทนไปประกวด มิสทัวริซึมควีนอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Tourism Queen International)
8. เวทีประกวดมิส & มิสเตอร์ มิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ : เป็นเวทีประกวดนางงามที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2560 โดยจะทำการคัดเลือกสาวงามจากทั้ง 77 จังหวัด เพื่อหาผู้คว้ามงกุฎเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด มิสซูปราเนชั่นแนล (Miss Supranational) ที่แต่ละประเทศจะเป็นเจ้าภาพจัดขึ้น
9. เวทีประกวดมิสเฮอริเทจไทยแลนด์ : Miss Heritage Thailand จะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของหญิงไทยที่ใฝ่ฝันที่จะเป็นนางงามด้วยการคัดเลือกให้เข้ารอบมาจาก 40 จังหวัด และจาก 4 ภูมิภาค โดยที่กองประกวดมีวิธีคัดสาวงามเข้ามารับตำแหน่งถึง 40 ตำแหน่ง ที่จะได้รับมงกุฎ สายสะพายเกียรติยศ และเงินรางวัล อีกทั้งยังมีโอกาสได้เข้าสู่วงการบันเทิง เป็นนักร้อง นักแสดง พิธีกร หรือได้ทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิง ฯลฯ
10. เวทีประกวดมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์ส : เวทีประกวดสาวประเภทสอง จัดที่โรงละครทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จังหวัดชลบุรี โดย บริษัท ทิฟฟานี่โชว์ พัทยา จำกัด ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อเป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดสาวประเภทสองระดับโลก Miss International Queen
• คำถามต่อมา คือ แต่ละเวที่การประกวดระดับในประเทศ เวทีใดบ้าง ที่มีโอกาสต่อยอดเข้าร่วมประกวดเวทีระดับนานาชาติ ซึ่งเวทีต่าง ๆ เหล่านั้น ได้แก่
– ผู้ชนะที่ได้รับตำแหน่ง มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จะได้รับสิทธิ์ถูกส่งตัวเพื่อไปประกวดนางงามจักรวาล หรือ มิสยูนิเวิร์ส (Miss Universe)
– สาวงามผู้คว้ามงกุฎชนะเลิศ เวทีประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ จะถูกส่งต่อไปประกวด มิสเวิลด์ (Miss World)
– สาวงามผู้ชนะเวทีประกวดมิสแกรนด์ไทยแลนด์ จะเป็นตัวแทนสาวไทย ไปประกวด มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Grand International)
– สาวงามผู้ชนะเลิศ เวทีประกวดมิสอินเตอร์เนชันแนลไทยแลนด์ จะได้เป็นตัวแทนสาวไทย ไปประกวด เวทีมิสอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss International)
– โดยผู้ชนะการประกวดมิสทัวริซึมควีนไทยแลนด์ จะได้เป็นตัวแทนไปประกวด มิสทัวริซึมควีนอินเตอร์เนชั่นแนล (Miss Tourism Queen International)
– สาวงามผู้ชนะเลิศการประกวดมิสซูปราเนชันแนลไทยแลนด์ จะได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด มิสซูปราเนชั่นแนล (Miss Supranational)
• อีกคำถามคลาสสิคที่เพื่อน ๆ หลายคนสงสัยและคาใจว่า เวทีการประกวดสาวงามใด ? ใหญ่สุด ได้รับความนิยมที่สุด และมีรายได้จากการจัดและถ่ายทอดสดมากที่สุด
ซึ่งประเด็นนี้ คงต้องยกตัวอย่าง 2 เวทีที่คนไทยให้การติดตามมากเป็นอันดับต้น ๆ ที่จัดทุกครั้งเมื่อไหร่ ก็จะมีกระแส Talk of the town ทั้งตัวสาวงามผู้เข้าประกวด , ความอลังการของการจัดเวทีประกวด , การโปรโมท ไปจนถึงตัวเจ้าของหรือผู้จัด ! เพื่อมากล่าวถึง นั่นคือ ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์’ และ ‘มิสแกรนด์ไทยแลนด์’
มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์
บริหารโดย : บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
วันจดทะเบียน : 21 มิ.ย.2559
ผู้บริหาร : แอน-จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์
ผลประกอบการ
ปี 2563
รายได้รวม : 1,682.87 ล้านบาท
กำไร : 312.47 ล้านบาท
ปี 2564
รายได้รวม : 1,805.79 ล้านบาท
กำไร : 179.35 ล้านบาท
ปี 2565
รายได้รวม : 2,670.10 ล้านบาท
กำไร : 608.43 ล้านบาท
สำหรับแฟนนางงาม เชื่อว่าหลายคนคงคุ้นเคยกับชื่อ JKN เป็นอย่างดี หลังเข้าซื้อกิจการเวทีประกวดนางงามระดับโลก Miss Universe ทั้งหมด 100% จากเจ้าของเดิมในสหรัฐฯ บริหารโดย ‘จักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์’ หรือ ‘แอน-จักรพงษ์’ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บมจ.เจเคเอ็น โกลบอล กรุ๊ป (JKN)
โดยรายได้ของ JKN เพิ่มขึ้นในทุกธุรกิจ โดยเฉพาะจากที่เราทราบกันดี สำหรับรายได้ของกลุ่มธุรกิจมิสยูนิเวิร์สฯ หนุนการเติบโตแบบก้าวกระโดด ตอกย้ำความสำเร็จการลงทุนเชิงกลยุทธ์จากการเข้าซื้อมิสยูนิเวิร์ส JKN ได้อย่างยอดเยี่ยม
มิสแกรนด์ไทยแลนด์
บริหารโดย : บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน)
วันจดทะเบียน : 15 มิ.ย.2565
ผู้บริหาร : ณวัฒน์ อิสรไกรศีล
ผลประกอบการ
ปี 2563
รายได้รวม : 341.7 ล้านบาท
กำไร : 44.3 ล้านบาท
ปี 2564
รายได้รวม : 345.1 ล้านบาท
กำไร : 29.1 ล้านบาท
ปี 2565
รายได้รวม : 319.9 ล้านบาท
กำไร : 47.9 ล้านบาท
แน่นอนว่า ทุกคนต้องรู้จัก “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” เป็นอย่างดี โดยถือเป็นพิธีกรมากความสามารถแถวหน้าของเมืองไทย และเจ้าของเวทีการประกวดนางงาม “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” และ “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล”
คุณณวัฒน์ ได้รับตำแหน่งผู้อำนวยการกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ และ ทำหน้าที่พิธีกรบนเวทีดังกล่าว มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2550-2555 ขณะเดียวกัน ก็ยังมีผลงานรายการโทรทัศน์ผ่านสถานีโทรทัศน์อื่น ๆ ควบคู่ไปด้วย
ซึ่งในปี พ.ศ.2555 ได้หมดสัญญาการเป็นผู้อำนวยการกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิลด์ จึงได้ติดต่อ ทาง MUO เพื่อซื้อลิขสิทธิ์ แต่ทาง MUO ปฏิเสธที่จะขายลิขสิทธิ์ จึงผันตัวเองมาตั้งเวทีการประกวดสาวงามในปี 2556 โดยใช้ชื่อว่า “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” (Miss Grand Thailand) โดยร่วมกับทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7 แพร่ภาพออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
นอกจากนั้น คุณณวัฒน์ ยังเป็นประธานและผู้ก่อตั้งเวทีการประกวดสาวงามระดับนานาชาติ โดยใช้ชื่อว่า “มิสแกรนด์อินเตอร์เนชันแนล” ซึ่งถือเป็นเวทีระดับนานาชาติเวทีแรกของโลกที่มีจุดกำเนิดและก่อตั้ง จนตอนหลังได้ไปประกวดที่ช่องวัน 31 นั่นเอง ตลอดจน คุณณวัฒน์ ยังมีชื่อบริหารธุรกิจอีกหลาย ๆ บริษัทอีกด้วย
โดยทั้ง ‘มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์’ และ ‘มิสแกรนด์ไทยแลนด์’ ทั้งสองเวที เคยมีกระแสบลัฟ ! ฟาดกันสนั่นออกนอกจอ และผ่านโซเชียลฯ กันมาแล้วช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ที่เชื่อว่า FC นางงาม หลาย ๆ คนยังจำกันได้ ซึ่งขอย้อนกรณีดังกล่าวสักเล็กน้อย นั่นคือ
เรื่องราวเริ่มจากเมื่อคืนที่ผ่านมา (14 พ.ค.2021) เพจ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ออกมาโพสต์โชว์ตัวเลขเอนเกจเมนต์ ลั่นแฮชแท็ก #เวทียอดนิยมอันดับ1ของประเทศไทย ขณะที่ทราบกันดีกว่าเวที “มิสแกรนด์ไทยแลนด์” มีสโลแกน #WeAreGRANDthe1andOnly และใช้แฮชแท็ก #เวทีอันดับ1ของประเทศไทย มาก่อน
โดยเพจ Miss Universe Thailand โพสต์ว่า “ขอบคุณทุกการสนับสนุน ที่ทำให้ Miss Universe Thailand 2021 เป็นเวทีประกวดนางงามอันดับ 1 ในประเทศไทย ที่มียอด Engagement สูงสุดในปี 2021 และยังคงเป็นอันดับ 1 ใน 4 เดือนแรกของปี 2022 *เมื่อเทียบกับรายการประเภทเดียวกัน โดยมียอด Engagement สูงถึง 24,489,187”
อย่างไรก็ตาม ประเด็นกล่าวมา นั่นไม่ใช่สาระสำคัญ เท่ากับ การได้ผลิตและนำเสนอเวทีประกวดเพื่อถ่ายทอดสดเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ เพื่อมอบความสุขให้กับผู้ชมทุกคนทั้งประเทศ ซึ่งผู้จัดประกวดทุกเวทีทุกท่าน ตั้งใจทำออกมาได้อย่างมีมาตรฐานยอดเยี่ยม หรูหรา เลอค่า และสมศักดิ์ศรี ด้วยกันทั้งนั้น
ตลอดจนแต่ละเวทีการประกวดได้ผลิตดาวเจิดจรัสดวงใหม่ ๆ ป้อนสู่อุตสาหกรรมบันเทิงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประชาชนได้รับความบันเทิง ได้ชื่นชมและติดตามผลงานของสาวงามแต่ละคนที่แจ้งเกิดจากเวทีการประกวดต่าง ๆ ไม่ว่าจะได้สวมมงฯ หรือไม่ก็ตาม
เพราะผู้เข้าประกวดทุกคน ทุกเวทีต่างก็มีความสามารถ และได้โชว์ศักยภาพเต็มที่ ผ่านสายตาประชาชนที่เฝ้าติดตามรับชมทั้งประเทศ ทุกคนงดงามที่สุดและมีคุณค่าเป็นตัวเองที่สุดในการประกวดครั้งนั้นแล้ว