จากความรักในการกิน สู่การมีแฟรนไชส์ร้านอาหารชื่อดังในอังกฤษ ที่ได้มาเปิดในไทยเป็นสาขาแรกในเอเชีย


         จากความรักในการกิน พัฒนาจนกลายเป็นธุรกิจร้านอาหาร ผู้ซื้อแฟรนไชส์ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดังในประเทศอังกฤษ Signor Sassi มาตั้งที่ประเทศไทยเป็นสาขาลำดับที่สามของโลก และเป็นสาขาแรกในเอเชีย บริหารงานโดยผู้บริหารหนุ่มรูปหล่อไฟแรงคุณโชติวิทย์ เตชะอุบล(คุณโจ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจซี เควิน ฟู้ด แอนด์ เบฟเวอเรจ จำกัด ที่ได้นำแนวคิดการบริหารงานที่สืบทอดกลยุทธ์ความเก๋ามาจากบิดา เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ในประเทศไทย จนกลายเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง 

         โดยภัตตาคารอาหาร Signor Sassi ตั้งอยู่ชั้น G ของห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน โดยจุดเริ่มต้นของธุรกิจเริ่มมาจากทางครอบครัวและคุณโจเป็นคนชอบกินมากๆ โดยคุณโจเองได้ไปอยู่ที่อังกฤษเป็นเวลา 12 ปี และพบว่าคนไทยที่ไปเที่ยวที่อังกฤษชอบไปกินอาหารร้านนั้น บวกกับรสชาติที่มีความอร่อย ทำให้เป็นจุดกำเนิดที่ทำให้อยากจะทำร้านอาหารในไทยขึ้นมา โดยมีคุณพ่อเป็นคนเจรจากับเจ้าของกิจการ จนได้นำแบรนด์นี้มาเปิดในไทยจนได้ โดยในตอนแรกคุณพ่อได้ทำโรงแรมอยู่แถว ถ.นราธิวาส และคิดที่จะนำร้านอาหารนี้มาเปิดในโรงแรม แต่ด้วยความคับแคบของสถานที่ จึงย้ายมาที่สยามพารากอนเพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางมาได้อย่างสะดวก ทำให้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติรวมถึงลูกค้าเก่าอีกด้วย

        โดยทางภัตตาคารจะคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ โดยต้องมีความใส่ใจในลูกค้าแต่ละรายว่าลูกค้ามีความต้องการอะไร ทั้งในเรื่องของรสชาติ และการบริการ ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่นที่แตกต่างจากภัตตาคารอื่นๆทั่วไป โดยใช้กลยุทธ์ในการนำแฟรนไชส์มาเปิดเพื่อบุกเบิกร้านอาหารในไทย แล้วจึงค่อยสร้างแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาเพื่อที่จะได้มีฐานลูกค้าเดิมอยู่แล้ว ถือว่าเป็นกลยุทธ์การทำตลาดที่น่าชื่นชมเลยทีเดียว  

        ปัญหาที่พบในการทำภัตตาคารอย่างแรกจะเป็นในเรื่องของวัตถุดิบที่มีราคาแพง คนจึงไม่ค่อยกล้าที่จะลอง โดยมีวิธีการแก้ไข คือ การไม่ลดคุณภาพให้ต่ำลง แต่จะเอากำไรที่น้อยลงแทน เพื่อคงจุดเด่นของภัตราคารเอาไว้ ซึ่งธุรกิจประเภทอาหารมักมีความเปลี่ยนแปลงของตลาดตลอดเวลา ซึ่งคุณโจได้มองว่า เราต้องดูเทรนส์ของลูกค้าว่าชอบร้านอาหารแบบไหน แล้วเอามาคิดค้นเป็นเมนู และนำวัตถุดิบที่มีอยู่แต่ละฤดูมาใช้ทำเมนู ซึ่งจะทำให้เมนูสามารถปรับเปลี่ยนได้ และด้วยความที่เป็นแฟรนไชส์จากอังกฤษ ทางภัตตาคารอังกฤษไม่ค่อยจะเน้นการตกแต่งจาน แต่ทางคุณโจเองได้ปรับเปลี่ยนให้มีการตกแต่งจานให้สวยงามมากขึ้น เนื่องจากนิสัยของคนไทยที่ชอบถ่ายรูปอาหารก่อนกิน และเพิ่มลูกเล่นให้กับอาหารหวานโดยการนำส่วนผสม อาทิเช่น สายไหม ผงโกโก้ ช็อกโกแลต มาใส่เพื่อให้เมนูอาหารเก๋ไก๋ไปอีกแบบ ซึ่งก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า โดยแรงบันดาลใจที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จได้นั้นก็มาจากคุณพ่อที่ทำให้คุณโจได้เปิดมุมมองในการทำธุรกิจให้กว้างขึ้น จนสามารถประสบความสำเร็จได้มาจนถึงในปัจจุบัน

สามารถติดตามเคล็ดลับความสำเร็จของคุณโชติวิทย์ เตชะอุบล ผู้บริหารแฟรนไชส์ภัตตาคารอาหาร Signor Sassi เพิ่มเติมได้ที่ http://smartsme.tv/vod_detail.php?gid=50&id=4013