มองกลยุทธ์ “ลัคกิ้น คอฟฟี่” ทำธุรกิจอย่างไรถึงมีสาขาในจีนมากกว่า “สตาร์บัคส์”


หากย้อนกลับไปเมื่อต้นปี 2019 “ลัคกิ้น คอฟฟี่” สตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจกาแฟจากประเทศจีนเคยประกาศกร้าวที่จะเปิดสาขาแซงหน้า “สตารบัคส์” แบรนด์คู่แข่งต่างชาติให้ได้

แผนงานดังกล่าวของลัคกิ้น คอฟฟี่ มีเป้าหมายที่จะเปิดสาขาให้ได้ 2,500 สาขา เมื่อรวมสาขาทั้งหมดแล้วจะทำให้ลัคกิ้น คอฟฟี่ มีทั้งหมด 4,500 สาขา มากพอที่จะแซงคู่แข่งอันดับ 1 อย่างสตาร์บัคส์ได้ไม่ยาก

ล่าสุด มีรายงานออกมาว่าลัคกิ้น คอฟฟี่ สามารถเปิดสาขาในประเทศจีนมีจำนวนมากกว่าสตาร์บัคส์ไปเป็นที่เรียบร้อย โดยในปี 2020 ลัคกิ้น คอฟฟี่ มีสาขารวมกันทั้งหมด 4,910 แห่ง ขณะที่สตาร์บัคส์มีสาขาจำนวน 4,300 แห่ง ซึ่งถือว่าธุรกิจได้ทำตามเป้าหมายที่วางเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ

ลัคกิ้น คอฟฟี่ ถือว่าเป็นแบรนด์กาแฟที่ได้รับการจับตามอง ซึ่งพวกเขามีกลยุทธ์สำหรับการตีตลาดมากมายที่คู่แข่งคาดไม่ถึง ซึ่งแบ่งได้ดังต่อไปนี้

  • กลยุทธ์การทำการตลาดของ ลัคกิ้น คอฟฟี่ จะออกโปรโมชันลดราคา พร้อมบริการจัดส่งเครื่องดื่มถึงมือผู้บริโภค จากการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งได้รับการตอบรับดี ส่งผลให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว
  • การขยายสาขาของลัคกิ้น คอฟฟี่ จะเน้นโมเดลร้านที่มีขนาดเล็ก บางร้านแทบไม่มีที่นั่งให้กับลูกค้า เนื่องจากต้องการให้ซื้อกลับไปรับประทานมากกว่า
  • สาขาที่จะไปเปิดจะเน้นเมืองที่ขนาดไม่ใหญ่ หรือเป็นเมืองที่แบรนด์คู่แข่งอย่างสตาร์บัคส์ยังตีตลาดเข้าไปไม่ถึง
  • มีการระดมทุนด้วยการขายหุ้น IPO ผ่านตลาดหลักทรัพย์ NASDAQ ของสหรัฐฯ
  • ตามกระแสเทรนด์การบริโภค เช่น ออกเมนูใหม่โดยมีชาไข่มุกเป็นส่วนผสม