ส่องแผนประชาสัมพันธ์ข้าวไทย 63 เร่งสร้างความเชื่อมั่นตลาดโลก


กรมการค้าต่างประเทศ เดินหน้าจัดกิจกรรมตามภารกิจเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างภาพลักษณ์ข้าวไทย เน้นกระชับความสัมพันธ์ลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดโลก

วันที่ 11 ก.พ.63 นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ในปี 2563 กรมการค้าต่างประเทศยังคงเดินหน้าจัดกิจกรรมตามภารกิจในด้านการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ข้าวไทยอย่างต่อเนื่องตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ทั้งในรูปแบบการจัดคณะผู้แทนการค้าฯ และการเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและผลักดันการส่งออกข้าวไทย

โดยในปีนี้ กรมฯ มีแผนจัดคณะผู้แทนการค้าฯ เพื่อกระชับความสัมพันธ์ในประเทศที่เป็นลูกค้าหลัก อาทิ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ ตลอดจนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในภูมิภาคต่างๆ ได้แก่

1. ภูมิภาคเอเชีย: งาน FOODEX 2020 ณ ประเทศญี่ปุ่น และงาน China – ASEAN Expo (CAEXPO) ครั้งที่ 17 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน

2. ภูมิภาคยุโรป: งานแสดงสินค้าเกษตรอินทรีย์นานาชาติ BIOFACH 2020 ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี และ

3. ภูมิภาคตะวันออกกลาง: งาน GULFOOD 2020 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

 

 

นอกจากนี้ กรมฯ ยังมีแผนกิจกรรมร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในการจัดคณะผู้แทนการค้าเดินทางไปเจรจาธุรกิจในกลุ่มประเทศที่มีศักยภาพ เช่น แอฟริกาใต้ เป็นต้น โดยกิจกรรมต่างๆ ของกรมฯ จะมุ่งเน้นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทยในตลาดโลก

“กรมการค้าต่างประเทศในฐานะคนขายได้ไปพบปะลูกค้าในประเทศต่างๆ ซึ่งได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากลูกค้าโดยเฉพาะกับชนิดข้าวที่ตรงความต้องการของลูกค้า และข้อมูลดังกล่าวได้นำมาขยายผลในการทำสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี จึงได้มีการประสานงานกันอย่างใกล้ชิดกับกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมโรงสีข้าวไทย และเกษตรกร และได้กำหนดแผนงานเร่งด่วนอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อพิจารณาแนวทางการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันของข้าวไทย” นายกีรติ รัชโน กล่าวเพิ่มเติม

 

 

ทั้งนี้ ในเบื้องต้นได้นำเสนอแผนการการพัฒนาข้าวไทยเพื่อการแข่งขันทั้งในด้านการผลิต การพัฒนา และการปรับปรุงสายพันธุ์ข้าวไทยให้ตรงกับความต้องการของตลาดต่างประเทศเพื่อให้ได้พันธุ์ข้าวที่มีคุณภาพดี อายุเก็บเกี่ยวสั้น ให้ผลผลิตสูง และต้นทุนการผลิตต่ำ ทั้งนี้ ที่ประชุมฯ เห็นชอบที่จะจัดตั้งคณะทำงานร่วมภาครัฐและเอกชน ประกอบด้วย กรมการข้าว กรมการค้าต่างประเทศ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยและอาจพิจารณาเชิญสถาบันการศึกษาที่มีการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวเข้าร่วมในคณะทำงานด้วย ทั้งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเร่งผลักดันการทำงานของคณะทำงานดังกล่าวให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

 

 

โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และขยายตลาดข้าวไทยในต่างประเทศ มีการจัดกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น

– การจัดคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและภาคเอกชนไทยเดินทางไปเจรจาขยายตลาดข้าวและกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าในต่างประเทศ ได้แก่ สาธารณรัฐสิงคโปร์และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (17 – 22 มีนาคม 2562) สาธารณรัฐตุรกีและสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (14 – 19 พฤศจิกายน 2562) และสหพันธรัฐมาเลเซีย (3 – 4 ธันวาคม 2562)

– การเข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติเพื่อประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์และสร้างความรับรู้เกี่ยวกับมาตรฐานข้าวไทยทั้งในและต่างประเทศ เช่น งาน BIOFACH 2019 ณ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (13 – 16 กุมภาพันธ์ 2562) งาน GULFOOD 2019 ณ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (15 – 23 กุมภาพันธ์ 2562) งาน THAIFEX-World of Food Asia 2019 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี (28 พฤษภาคม – 1 มิถุนายน 2562) และงาน CAEXPO ครั้งที่ 16 ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน (18 – 25 กันยายน 2562)

– การรับรองคณะผู้นำเข้าข้าวจากฮ่องกง (15 – 21 พฤศจิกายน 2562) โดยได้นำคณะผู้นำเข้าข้าว 32 ราย เยี่ยมชมและศึกษาดูงานการวิจัยและการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวไทย ณ ศูนย์วิจัยข้าวเชียงราย และโรงสีข้าวในจังหวัดเชียงราย นอกจากนี้ กรมฯ ได้เป็นเจ้าภาพจัดประชุมคณะกรรมการสำรองอาหารเพื่อความมั่นคงแห่งภูมิภาคอาเซียน (ASEAN Food Security Reserve Board : AFSRB) ครั้งที่ 39 ณ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน กรุงเทพมหานคร (14 – 17 สิงหาคม 2562) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลสถานการณ์และแนวโน้มการผลิต การบริโภค การค้า และปริมาณสต็อกสินค้าอาหารสำคัญของแต่ละประเทศสมาชิกอาเซียน.รวมทั้งหารือแนวทางสร้างความร่วมมือในการสร้างความสมดุลด้านอาหารเพื่อรับมือต่อสถานการณ์ความท้าทายด้านอาหารของโลกในอนาคต

 

 

อย่างไรก็ตาม หากย้องหลังไปในปี 2562 ไทยส่งออกข้าวปริมาณ 7.58 ล้านตัน ลดลงจากปี 2561 ร้อยละ 32.50 ที่มีปริมาณ 11.23 ล้านตัน สำหรับปี 2563 ตั้งเป้าหมายการส่งออกไว้ที่ปริมาณ 7.5 ล้านตัน