ทุกวันนี้การทำธุรกิจส่วนตัวเป็นเรื่องง่ายมาก คุณไม่ต้องไปเสียเงินเช่าที่ทำหน้าร้านเพื่อให้คนมาใช้บริการ แต่สามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ของตัวเองผ่านเฟซบุ๊ก หรือเว็บไซต์ได้เลย โดยเริ่มต้นค่าบริการแบบฟรี ๆ หรือเสียเงินเต็มที่ก็แค่หลักพัน ด้วยความง่ายดายตรงนี้เองที่ทำให้คนหันมาทำธุรกิจส่วนตัวทั้งที่เงินยังน้อยกันอยู่มาก แต่สิ่งที่พวกเขาลืมคิดไปคือ ในการทำธุรกิจทุกครั้ง นอกจากเรื่องของค่าที่ ค่าหน้าร้านแล้ว คุณยังต้องเจอกับค่าสินค้า ค่าผลิต ต้นทุนต่าง ๆ ทั้งการตลาดออนไลน์ รวมถึงค่าใช้จ่ายหากคุณจ้างพนักงานเพิ่มเติมมาทำในส่วนที่คุณทำเองไม่ได้
ทั้งหมดนี้แหละที่จะเป็นค่าใช้จ่ายเบื้องลึกที่คุณต้องลงมาทำเองเท่านั้นถึงจะมองเห็นและสัมผัสมันจริง ดังนั้นจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมคนในยุคนี้ถึงรีบร้อนจะสร้างเนื้อสร้างตัว เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง แล้วสุดท้ายก็มีแนวโน้มจะไปไม่รอดสูง นั่นเพราะคิดว่าง่าย และขาดการวางแผนต้นทุนที่เหมาะสม เพราะฉะนั้นหากคุณเองอยากจะทำธุรกิจส่วนตัวให้ประสบความสำเร็จจริง สายป่านของคุณจะต้องยาวมากพอ เพื่อจะสามารถเอาชนะอุปสรรคในช่วงเริ่มต้นตรงนี้ได้
1. หยุดการใช้จ่ายที่เกินตัว
หากอยากจะทำธุรกิจสักตัวให้ไปได้ดี แต่ทุนยังไม่เยอะ คุณต้องไม่ใช้จ่ายเงินเกินตัวก่อนเป็นอันดับแรก การใช้จ่ายเงินเกินตัวคือ ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ถึงแม้คุณจะหาเงินได้มากแต่หากใช้ไปมากไม่ต่างกัน นั่นก็เท่ากับคุณไม่มีเงินเก็บอยู่ดี และนี่แหละที่ทำให้ธุรกิจคุณไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ไม่มีเงินทุนไว้เริ่มต้นทำในสิ่งที่ตั้งใจ เงินทุนของคุณยิ่งมีเยอะยิ่งดี เพราะมันหมายความว่าคุณจะสามารถลงทุนทำสิ่งต่างๆ ได้ทันทีที่คุณต้องการแบบไม่ต้องรอ เพราะโอกาสในวงการธุรกิจนั้นมาแล้วต้องรีบคว้าเอาไว้ หากคุณช้า คู่แข่งก็พร้อมจะช่วงชิงความได้เปรียบ ทำให้คุณกลายเป็นแบรนด์รองได้ในทันที
2. วางแผนล่วงหน้าก่อนเริ่มต้น
การวางแผนทำธุรกิจนั้นไม่เพียงแต่จะต้องมองค่าสินค้า ค่าวัตถุดิบ ค่าเช่าที่ หรือค่าจ้างพนักงานเท่านั้น แต่ในการทำธุรกิจช่วงแรกคุณอาจจะต้องสต็อกของเยอะสักหน่อย และมีการจัดการออร์เดอร์ที่ยังไม่เป็นระเบียบ เพราะคุณอาจจะยังไม่รู้ว่าลูกค้าชื่นชอบสินค้าตัวไหนเป็นพิเศษ ต้องสต็อกตัวไหนมาก ตัวไหนน้อย ทำให้คุณสูญเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์เยอะ รวมถึงอาจจะยังไม่ได้กำไรคืนมาจนกว่าจะผ่านพ้นไป 3-5 เดือน ซึ่งเป็นเรื่องปกติมากของการทำธุรกิจ ดังนั้นคุณต้องวางแผนการเงินให้พร้อมทุกจุด และมั่นใจได้ว่าตัวเองจะสามารถอยู่ได้โดยไม่มีเงินเดือนไป 3-5 เดือน เพื่อพบกับกำไรในล็อตต่อๆ ไปนั่นเอง
3. เก็บเงินเก่ง แต่ไม่กล้านำไปต่อยอด
นักธุรกิจ หรือคนที่มีหัวใจการค้าต่างๆ เขาจะไม่นำเงินมากองเอาไว้โดยเปล่าประโยชน์เด็ดขาด เพราะนั่นเท่ากับว่ามันเป็นแค่เศษกระดาษเท่านั้น แต่เขาจะหาโอกาสนำเงินเย็นตรงนั้นไปลงทุนเพื่อให้มันงอกเงยขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นหุ้น การลงเงินในกองทุนรวม หรือต่อยอดทำธุรกิจอื่นๆ ให้เงินของเรางอกเงยเติบโตขึ้นมา สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ทุนในการทำธุรกิจของคุณเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากความฝันที่ต้องใช้เวลา 2 ปี อาจลดเหลือไม่กี่เดือน ทำให้คุณสามารถเริ่มต้นธุรกิจส่วนตัวที่หวังเอาไว้ได้ไวขึ้นนั่นเอง
4. รอทุกอย่างให้พร้อมค่อยลงทุน
ในทางกลับกันถึงแม้คุณจะมีเงินเก็บได้ไม่ครบตามจำนวนที่วางแผนเอาไว้ ก็สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้อยู่ดี ขอแค่คุณค่อยๆ สร้างทุกอย่างขึ้นทีละน้อย อย่าเพิ่งลงเงินจนหมดหน้าตัก ฝันของคุณอาจจะเป็นการมีตึกแถวหน้าร้านที่ขายของแล้วมีคนใช้บริการเยอะมากในแต่ละวัน ขายสินค้าชิ้นใหญ่ที่ได้กำไรสูง แต่ตอนนี้ในเมื่อทุนคุณยังไม่ถึง คุณก็อาจจะเริ่มจากเล็กๆ ขายบนเพจเฟซบุ๊ก ไม่ลงการตลาดมาก แต่เน้นไปคอมเมนต์ตามเพจต่างๆ แบบ Manual แทน ซึ่งมันอาจจะยากลำบากหน่อย เหนื่อยหน่อย แต่ได้ผลลัพธ์ที่ดีเช่นกัน เป็นการประหยัดต้นทุนในช่วงแรกที่คุณยังมีงบน้อย และสร้างความรับรู้ให้แบรนด์คุณน่าจดจำไปพร้อมๆ กัน เมื่อถึงคราวมีเงินก้อนพร้อมสำหรับลงทุนจริงก็มีฐานลูกค้าที่รู้จักคุณพร้อมใช้บริการทันที