รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ทุเรียน ที่ใครเรียกกันว่าราชาผลไม้ไทย รสหอมหวานอร่อยถูกปากแต่กินมากอ้วนแน่ หากจะกินทุเรียนให้มีสุขภาพดี ขอให้กินอย่างมีสติและมีความรู้วิธีการกินทุกเรียนให้สุขภาพดี ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางโภชนาการ มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายของเรามากมาย กินทุเรียนประมาณ 2 เม็ด ขนาดกลาง น้ำหนักเฉพาะเนื้อปริมาณ 100 กรัมจะให้พลังงานสูงถึง 187 กิโลแคลอรี ให้ไขมัน 4.1 กรัม โปรตีน 2.5 กรัม และให้แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็กและวิตามินเอ ดังนั้น ถ้าหากกินทุเรียนในปริมาณที่เหมาะสมและไม่บ่อยจนเกินไปก็จะเกิดประโยชน์ต่อสุขภาพได้
จึงได้แนะนำให้คนไทยกินทุเรียนเพื่อสุขภาพ โดยกินครึ่งหนึ่งไม่ควรเกิน 2 เม็ดขนาดกลาง ก็จะได้รับพลังงานและสารอาหารที่พอเหมาะตามที่กล่าวมานั้น แต่ถ้าหากกินครั้งละ 2-3 พู เท่ากับ 4-6 เม็ด หรือเกือบครึ่งลูก ก็จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานจากความหวานของทุเรียนมากเกินไป มากถึงประมาณ 400 กิโลแคลอรี ซึ่งพอๆกับกินข้าว 5 ทัพพี หรือกินน้ำอัดลมเกือบ 2 กระป๋อง หรือก๋วยเตี๋ยวหมู 1 ชาม แต่ถ้าห้ามใจไม่ได้จริงๆ แล้วกินทุเรียนมากเกินไปจะต้องลดอาหารมื้ิอหลักประเภทแป้ง น้ำตาล ไขมันให้น้อยลง หรือหลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มันจัด หวานจัด ในวันที่กินทุเรียน และอย่าลืมออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ เพราะจะช่วยเผาผลาญพลังงานส่วนเกินออกจากร่างกาย แต่สำหรับคนที่มีโรคประจำตัว เช่น เบาหวาน โรคหัวใจหลอดเลือด ให้ระมัดระวังการกินทุเรียน กินได้แต่ในปริมาณที่น้อยกว่าคนปกติ
การกินทุเรียนร่วมกับเครื่องดื่มแอลกอฮอลล์ไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด! เพราะในทุเรียนมีสารซัลเฟอร์อยู่มาก ซึ่งจะละลายได้ดีในแอลกอฮอลล์จะเข้าสู่กระแสเลือดได้เร็ว ทำให้เมาเร็ว และรุนแรงมากขึ้น ก่อให้เกิดความผิดปกติต่อระบบหายใจ เกิดอาการร้อนในเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ ความเชื่อที่ว่ากินทุเรียนแล้วให้กินมังคุดตามเพื่อแก้ร้อนในถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แม้จพไม่มีงานวิจัยรองรับ แต่คิดว่าเป็นกุศโลบายของคนรุ่นเก่า ที่คิดว่ากินทุเรียนเป็นของร้อนแล้วให้กินมังคุดเป็นของเย็นแก้กัน และคงต้องการให้คนกินผลไม้ที่หลากหลายชนิดด้วย
……………………………………………………………………………………………………..
บทความโดย : อ.สง่า ดามาพงษ์