หิว หรือ อยาก? ยากจะแยกออก


กินจนอิ่ม พุงกาง เรอเออะ! แต่พอเห็นทุเรียนหมอนทองพูอวบ หอมเหลืองยั่วน้ำลาย ยั่วกิเลส จนเกิดอาการ “อยาก” จะกิน ตัดสินใจหยิบใส่ปากอีก 3 พู ทั้งๆที่อิ่มแล้ว และไม่ได้ “หิว” เลย เกิดอะไรตามมา…

จุก แน่น อึดอัด นั่นคืออาการภายนอกแต่ถ้ากระเพาะ ลำไส้มันพูดได้ มันจะร้องตะโกนบอกคุณว่า “พอแล้ว อย่ายัดลำไส้อีกเลย กระเพาะรับไม่ไหว ย่อยไม่ได้อีกแล้ว…” แต่คุณไม่ได้ยินหลอก เพราะกิเลสแห่งความอยากมันกลบทุกสิ่งอย่าง

ในที่สุดการกินด้วยความอยาก คือการกินที่ไม่ใช่เกิดจากความต้องการของร่างกายอย่างแท้จริง เป็นการหลอกตัวเอง เพราะเป้นความรู้สึก

อาหารที่กินแบบ “อยากๆ” ร่างกายนำไปใช้ประโยชน์ไม่หมด บางส่วนก้จะถูกแปรสภาพเป็นไขมันเก็บสะสมไว้ใต้ผิวหนัง แขน ขา สะโพก แต่ที่ร้ายเอามากๆ ไปพอกอยู่ที่พุง !

พฤติกรรมการกินแบบอยาก หากเกิดกับคุณบ่อยๆ หากเกิดกับคุณบ่อยๆ วันแล้ววันเล่า อวบ อ้วน อ้วนลงพุง จะตามมา แล้วคุณก็มานั่งบ่นกับตัวเอง “น้ำหนัก พุงขึ้น เสื้อผ้าคับหมด ไปไหนมีแต่คนทัก…” 

เชื่อไหม! คุณไม่คิดที่จะดับความอยากเพื่อสกัดน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรอก ในที่สุดคุณกลายเป็นคนที่มีพฤติกรรมกินแบบ “อยาก” วิบากกรรมเกิดขึ้นกับชีวิตของคนกินแบบอยากแน่นอน! 

ถึงเวลากินอาหารมื้อเย็นของทุกวัน คุณรู้สึก “หิว” คุณจึงกินแบบมีสติ กินแบบพอดี กินพออิ่ม กินหลากหลายครบ 5 หมู่ อิ่มแล้วหยุดรวบช้อนเดินหนี เก็บอาหารที่เหลือเข้าตู้เย็น อีก 4 ชั่วโมงถัดเข้านอนโดยไม่กินอะไรอีก ตื่นเช้าทำภารกิจเสร็จ เวลา 8.00 น. ได้เวลากินอาหารเช้าคุณจะรู้สึก “หิว” อีก คุณก็กินอิ่มพอดี 

เข้างานจนถึงเวลา 10.00 น. คุณจะไม่หิวอาหารระหว่างมื้อ แต่ถ้าคุณเคยกิน กาแฟ เอแคร์ แครกเกอร์ ขนมหวาน หรืออาหารว่าง คุณจะเกิดความรู้สึก “อยาก” ทันที แล้วคุณก็จะกิน กิน กิน

การกินแบบรู้สึก “หิว” คือการกินที่เกิดจากความต้องการของร่างกายอย่างแท้จริง เพราะเป็นธรรมชาติ ธรรมดาที่ร่างกายสร้างสารกระตุ้นให้เกิดความหิวเพื่อที่มนุษย์จะได้กินให้มีชีวิตอยู่รอด 

ลำไส้ กระเพาะ ร่างกาย จะทำงานอย่างปกติจะเกิดความสมดุลระหว่าง “เข้า” กับ “ออก” ในที่สุดคุณก็ไม่อ้วนรูปร่างสมส่วน สุขภาพดี มีโภชนาการยอดเยี่ยมตลอดไป 

 

………………………………………………………………………………………………………………

หิว หรือ อยาก ยากจะแยกออก แต่หากคุณแยกได้ โภชนาการจะสดใส ร่างกายจะแข็งแรงอีกด้วย