บอกรักสุขภาพ บอกลาคาเฟอีน


 ค่อย ๆ ลดกาแฟลง
          สำหรับคนที่ติดกาแฟ อาจจะสามารถดื่มได้มากถึงวันละ 3-4 แก้ว แน่นอนล่ะว่านั่นไม่ดีต่อสุขภาพ แต่ถ้าหากหักดิบไปเลยด้วยการเลิกดื่มกาแฟในทันที บอกได้เลยว่าอาจจะยิ่งแย่กว่าเดิมเสียอีก อาจเกิดอาการลงแดงกาแฟได้ เพราะคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟนั้นออกฤทธิ์ใกล้เคียงกับยาเสพติด แต่มีความรุนแรงน้อยกว่า บางคนอาจจะมีอาการง่วงเหงาหาวนอน เศร้าซึม ไม่มีสมาธิ บางรายอาจรุนแรงถึงขั้นอาเจียนเลยก็เป็นได้
       
ทานมื้อเช้า
              อย่าปฏิเสธเลยว่ามื้อเช้าของใครบางคนนั้นมีแค่เพียงกาแฟถ้วยเดียว นั่นน่ะไม่ใช่มื้อเช้าเลยนะจะบอกให้ ใครที่อยากจะเลิกกาแฟอย่างจริงจัง แค่เพียงคุณรับประทานอาหารเช้าอย่างเพียงพอ ก็ช่วยลดความอยากกาแฟไปได้เยอะเลยล่ะ เพราะเมื่อร่างกายได้รับอาหารอย่างเพียงพอ สมองก็จะได้รับน้ำตาลจากอาหารเพียงพอด้วยเช่นกัน และเมื่อสมองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เราก็ไม่จำเป็นต้องดื่มกาแฟแล้วล่ะค่ะ
 
หาอย่างอื่นดื่มแทน
          อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เราติดกาแฟก็คือกลิ่น ฉะนั้นหากติดกาแฟและเลิกเท่าไรก็เลิกไม่ได้เสียที ลองเปลี่ยนจากดื่มกาแฟปกติเป็นการดื่มกาแฟที่ไม่มีคาเฟอีนซึ่งกาแฟชนิดนี้ก็มีกลิ่นที่ใกล้เคียงกับกาแฟปกติ อาจจะดื่มคู่ไปกับกาแฟแบบปกติและเพิ่มสัดส่วนให้มากขึ้น แบบนั้นก็จะช่วยให้เลิกกาแฟได้เร็วขึ้น แต่ถ้าใครใจแข็งอยากหักดิบไปจริง ๆ 
 
ดื่มน้ำเยอะ ๆ
          การดื่มน้ำเยอะ ๆ นอกจากจะดีต่อร่างกายแล้วยังช่วยในการขับสารพิษออกจากร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งมีการศึกษาพบว่าการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยทำให้คนที่มีภาวะติดคาเฟอีนนั้นไม่มีอาการขาดสมาธิ หรือไร้ผลข้างเคียงจากการเลิกดื่มกาแฟได้อีกด้วย นอกจากนี้ประโยชน์จากการดื่มน้ำก็ยังมีอีกเพียบ รู้แบบนี้ก็หันมาดื่มน้ำเปล่าเยอะ ๆ ดีกว่านะ
 
นอนหลับให้เพียงพอ
               อาการอ่อนเพลียและง่วงเหงาหาวนอน แม้จะบรรเทาลงได้ด้วยการดื่มกาแฟ แต่การนอนหลับอย่างเพียงพอก็ดีกว่าเห็น ๆ เพราะการดื่มกาแฟนั้นก็ทำได้แค่เพียงกระตุ้นสมองและร่างกายได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น หากคุณนอนหลับไม่เพียงพอยังไงร่างกายก็ยังอ่อนเพลียเหมือนเดิมอยู่ดี 
 
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
              ในช่วงที่เลิกกาแฟนั้น มักจะเจอก็คืออาการอ่อนเพลีย ไม่มีเรี่ยวแรง และการออกกำลังกายก็เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีเลยล่ะ ใครที่คิดว่ายิ่งเพลีย ๆ แล้วไปออกกำลังกายจะยิ่งทำให้เหนื่อย บอกเลยว่าคิดผิด เพราะการออกกำลังกายสามารถช่วยลดอาการอ่อนเพลีย และช่วยให้ร่างกายสดชื่น มีแรงมากขึ้น เพราะการออกกำลังกายจะไปกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารเอ็นดอร์ฟิน (Endorphine) ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ดีต่อสุขภาพ 
 
เลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดการสูบบุหรี่
          เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาท ยิ่งคนติดกาแฟไปดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้อาการเลวร้ายลง เพราะทุกครั้งที่คุณดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ วันรุ่งขึ้นคุณจะรู้สึกอยากดื่มกาแฟมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นถ้าไม่อยากติดกาแฟไปตลอดชีวิต ช่วงที่คุณกำลังเลิกกาแฟก็งดดื่มแอลกอฮอล์จะดีกว่า และถ้าจะให้การเลิกดื่มกาแฟได้ผลก็ควรลดการสูบบุหรี่ไปด้วยจะทำให้ได้ผลดีกว่าเดิม
 
มองหากิจกรรมผ่อนคลายสมอง
          คนที่เลิกดื่มกาแฟต้องเจอกับอาการสมองตื้อหรือไม่มีสมาธิ อีกทั้งยังอาจจะทำให้เกิดความเครียดมากขึ้น ดังนั้นลองมองหากิจกรรมผ่อนคลายสมองดูเสียหน่อยก็น่าจะดี ไม่ว่าจะเป็นการนวด ฝึกโยคะ หรือทำสมาธิ กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลายลงได้เหมือนกับการดื่มกาแฟ และช่วยทำให้คุณมีสมาธิมากขึ้น สามารถโฟกัสกับงานได้โดยที่ไม่ต้องมีกาแฟวางอยู่ใกล้ ๆ 
 
 
คลิกๆแล้วจะเจอ ของดี!! http://www.smartsme.tv/news-detail.php?id=524