รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
ทราบกันดีว่าเนื้อปลามีประโยชน์มากมายไขมันจากปลายังช่วยลดการเกิดโรคหัวใจด้วยไขมันที่ร่างกายสร้างขี้นเองไม่ได้ ไขมันคุณภาพดีในเนื้อปลายังมี DHA (Docosahexaenotic) ซึ่งเป็นส่วนประกอบของเซลล์สมองและดวงตาอีกด้วยเรามาดูกันว่าปลาแต่ละชนิดมีไขมันแต่ต่างกันอย่างไรเพราะปลาแต่ละชนิดไขมันไม่เท่ากัน
ปลาประเภทเนื้อสีจาก เป็นปลาที่มีไขมันต่ำมาก ประมาณ2กรัมต่อ100กรัม
ปลาประเภทเนื้อสีขาว เช่น ปลาทูนิ่ง เป็นปลาที่มีไขมันต่ำประมาณ 2-4 กรัมต่อ 100 กรัม
ปลาที่มีไขมันอยู่เกินกว่าร้อยละ 5 เป็นปลาที่มีเนื้อสีเข้มกว่าปลา 2 ประเภทด้านบน ได้แก่ ปลาสลิด เป็นปลาที่มีไขมันปานกลาง ประมาณ 5-8 กรัมต่อ 100 กรัม
ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาดุก เป็นปลาที่มีไขมันสูงมากกว่าปลาประเภทอื่น มีไขมันประมาณ 8-20 กรัม ต่อ100กรัม
ขอบคุณรูปภาพจาก http://topicstock.pantip.com/