อาการที่ส่อเค้าสัญญาณมะเร็งเต้านมที่หลายคนรับรู้มาโดยตลอด คือหัวนมบอดหรือมีน้ำผิดปกติไหลออกจากหัวนม แต่ยังมีความผิดปกติอีกหนึ่งอย่างที่ยังไม่ค่อยมีใครเอ่ยถึง คือผื่นขึ้นบริเวณหัวนมที่แม้ใช้ยาทาก็ไม่หาย นพ.วีรวุฒิ อิ่มสำราญ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้เขียนบทความให้ความรู้ในเรื่องนี้ไว้ว่า “ผื่นที่ว่าอาจเกิดขึ้นที่หัวนมหรือลานหัวนมก็ได้ โดยมากมักเริ่มจากเป็นผื่นแดง ตุ่มแดง มีอาการแสบๆ คันๆ มีน้ำเหลืองไหล ช่วงแรกอาจจะเป็นๆ หายๆ ต่อมากลายเป็นแผลแข็งตกสะเก็ด ที่สำคัญคือพวกนี้รักษาด้วยยาทาที่หมอโรคผิวหนังให้แล้วก็ยังไม่หาย เป็นเพราะเกิดจากการที่เซลล์มะเร็งเกิดเริ่มต้นในท่อน้ำนมใต้หัวนม แล้วลามขึ้นมาที่ผิวหนังด้านบนบริเวณหัวนมและลานหัวนมในที่สุด มักจะคลำหาก้อนไม่ค่อยได้ ผื่นพวกนี้มีชื่อเรียกเฉพาะว่าโรคพาเจ็ตของเต้านมหรือหัวนม โรคนี้พบได้ไม่บ่อย ในสหรัฐอเมริกาพบแค่ 5 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนผู้ป่วยมะเร็งเต้านมทั้งหมด ส่วนใหญ่พบในคนอายุมากกว่า 50 ปี และ 97 เปอร์เซ็นต์ ของผู้ป่วยโรคพาเจ็ตมักพบว่ามีมะเร็งในเนื้อเต้านมร่วมด้วย
การวินิจฉัยที่สำคัญหนีไม่พ้นการทำเอกซเรย์เต้านมแมมโมแกรมเพื่อค้นหาก้อนผิดปกติ โดยเฉพาะบริเวณใต้หัวนม อีกอย่างคือการตัดชิ้นเนื้อเล็กๆ บริเวณที่เป็นผื่นไปตรวจว่ามีเซลล์มะเร็งหรือไม่ ส่วนการรักษาหลักนั้น หนีไม่พ้นการผ่าตัด แต่จะตัดมากตัดน้อยก็ขึ้นอยู่กับว่ามีตำแหน่งที่เป็นมะเร็งกี่จุด มีการกระจายไปที่ต่อมน้ำเหลืองบริเวณรักแร้แล้วหรือไม่ และการหารือกันระหว่างแพทย์กับผู้ป่วย โดยสามารถผ่าตัดแบบเก็บเต้านมไว้ได้ ร่วมกับการตัดต่อมน้ำเหลืองเซนทิเนลบริเวณรักแร้มาตรวจว่ามีเซลล์มะเร็งลุกลามไปแล้วหรือไม่ ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องผ่าตัดเลาะต่อมน้ำเหลืองที่รักแร้ออกแต่อย่างใด ตามด้วยการฉายแสงทั่วเต้านมหลังผ่าตัด ส่วนการรักษาอื่นๆ ที่จะตามมา เช่น การให้ยาเคมีบำบัด การให้ฮอร์โมนก็ว่ากันเป็นกรณีๆ ไป
ดังนั้นต้องสังเกตว่าผื่นที่ไม่หายหรือเป็นๆ หายๆที่เต้านม ทายาก็ไม่หายขาด รีบมาให้แพทย์ตรวจเพื่อความสบายใจดีกว่านะคะ
ขอบคุณรูปจาก http://womantoday.blog.com/