รู้จัก “ฉลากเขียว” เครื่องหมายช่วยสะท้อนความยั่งยืนของแบรนด์ต่อสิ่งแวดล้อม
ฉลากเขียวของประเทศไทย ริเริ่มขึ้นโดยองค์กรธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Thailand Business Council for Sustainable Development, TBCSD)
บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปถือเป็นอาหารยอดนิยมของไทยที่ติดอันดับตลอดมา โดยกลุ่มที่กินมากที่สุดเห็นจะเป็นเด็กและวัยเรียน วัยรุ่นโดยเฉพาะเด็กหอพัก แทบจะพูดได้ว่ากินกันทุกวัน บางรายเช้า-เย็น และกินติดต่อกันต่อเป็นเวลานานจนกว่าจะเบื่อ แต่ร่างกายไม่รู้จักเบื่อ เพราะกินแทนข่าวเป็นอาหารหลักประจำไปเลย มีหลากหลายเหตุผลที่บะหมี่สำเร็จรูปเป็นอาหารยอดฮิต ไม่ว่าจะปรุงง่าย สะดวก ไม่เสียเวลา เหมาะสำหรับคนมีเวลาน้อยและทำกับข้าวไม่เป็น ราคาไม่แพงและที่สำคัญคือ มีหลากหลายยี่ห้อและรสชาติให้เลือก รสชาติอร่อย ซึ่งส่วนมากเพราะผงชูรส
บะหมี่สำเร็จรูปเป็นอาหารด้อยคุณค่า ไม่สมดุล มีแต่แป้งและผงชูรส ต่อมาทางผู้ผลิตจึงร่วมมือกันพัฒนาให้มีคุณค่ามากขึ้น โดยการเสริมสารอาหาร 3 ชนิด ในเครื่องปรุง คือ วิตามินเอ ไอโอดีนและธาตุเหล็ก
การกินทั่วไปเพียงแค่เติมน้ำร้อนแล้วกินเลยนั้นถือเป็นการกินที่ไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะกินแบบนี้ติดต่อกันจนเป็นนิสัย ที่เห็นยิ่งไปกว่านั้นคือ ฉีกซองกินทั้งดิบๆ เป็นขนมกินเล่น การกินลักษณะนี้ติดต่อกันเป็นประจำ จะทำให้ร่างกายขาดสารอาหารได้ เพราะเท่ากับว่าได้กินเฉพาะแป้ง บะหมี่ไม่ใช่เป็นอาหารที่เลวร้ายมากมายอะไร แต่ต้องรู้จักปรุงกินให้ถูกวิธีโดยเริ่มแรกคือ
– การเลือกซื้อเฉพาะยี่ห้อที่บนซองระบุว่า “มีสารไอโอดีน เหล็กและวิตามินเออยู่
– เมื่อนำมาปรุงจะต้องเติมไข่หรือเนื้อสัตว์และผักลงไปทุกครั้ง เช่น ถั่วงอก คะน้า ตำลึง ผักบุ้ง ผักกาด
– ที่สำคัญจะต้องไม่ลืมฉีกซองเครื่องปรุงใส่ลงในบะหมี่ทุกครั้งที่ปรุงและไม่ควรใส่น้ำมากให้ใส่น้ำพอดี เวลากินจะได้ซดน้ำและได้สารอาหาร 3 ชนิดนั้นเข้าสู่ร่างกาย
*ไม่ควรกินบะหมี่ติดต่อกันเป็นประจำนานๆ เพราะจะเป็นการกินอาหารที่ซ้ำซาก ควรกินสลับกับอาหารประเภทแป้งอื่น โดยเฉพาะควรกินข้าวเป็นอาหารหลัก หากกินซ้ำๆจะทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการสะสมสารพิษบางชนิดในร่างกาย ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนหรือได้รับอย่างใดอย่างหนึ่งมากจนเกินไป
ขอบคุณรูปภาพจาก : http://f.ptcdn.info/684/006/000/1372409643-o.jpg